ข่าว

ผีลุ้นเฮแดงเดือดแซงเรือยึดจ่าฝูง

ผีลุ้นเฮแดงเดือดแซงเรือยึดจ่าฝูง

10 ก.พ. 2555

"ปีศาจแดง" ลุ้นเก็บชัยเกมแดงเดือด ในศึกพรีเมียร์ลีก คืนวันเสาร์ที่ 7 ก.พ. เพื่อทำแต้มแซงหน้า "เรือใบสีฟ้า" ขึ้นไปยึดจ่าฝูง ด้าน "หงส์แดง" พร้อมวางตัว หลุยส์ ซัวเรซ ยืนล่าตาข่ายแม้ต้องเจอเสียงโห่ไล่

          ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ มีโปรแกรมฟาดแข้งทั้งหมด 8 คู่ โดยคู่เอกเป็นเกมแดงเดือดระหว่าง "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมรองจ่าฝูง แข่ง 24 นัด มี 55 แต้ม เตรียมเปิดสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด รับการมาเยือนของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 7 แข่ง 24 นัด มี 39 แต้ม เวลา 19.45 น.

          เกมนี้ "เฟอร์กี้" เซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือเจ้าถิ่นตั้งเป้าหวังเก็บชัยชนะให้ได้เพื่อทำคะแนนแซงหน้า "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ ทีมอันดับ 1 ที่มีมากกว่า 2 แต้ม ขึ้นไปยึดตำแหน่งจ่าฝูงแบบเดี่ยวๆ เนื่องจากทีมคู่ปรับร่วมเมืองมีโปรแกรมลงสนามในคืนวันถัดไป แม้จะมีสภาพทีมไม่ค่อยสมบูรณ์เท่าไรนัก เพราะประสบปัญหาแข้งหลักได้รับบาดเจ็บหลายคน ไม่ว่าจะเป็น อันเดรียส ลินเดการ์ด, ฟิล โจนส์, อันแดร์สัน และเนมันยา วิดิช แถมยังต้องรอเช็กความฟิตของ คริส สมอลลิง และนานี อีกด้วย 

          แต่คาดว่า "ปีศาจแดง" น่าจะยึดทีมชุดเดิมที่เพิ่งบุกไปไล่ตามตีเสมอ เชลซี 3-3 เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ก่อน เพราะมีตัวเลือกให้ใช้งานได้ไม่มากนัก โดย เดวิด เดอ เกีย จะยังคงได้ยืนเฝ้าเสาเป็นนายทวารมือหนึ่งเหมือนเดิม ขณะที่แนวรับเป็นหน้าที่ของ ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, ปาทริซ เอวรา และราฟาเอล แดนกลางประกอบไปด้วย ไมเคิล คาร์ริค, ไรอัน กิ๊กส์, หลุยส์ อันโตนิโอ วาเลนเซีย และแอชลีย์ ยัง ส่วนคู่หน้า "ชิชาริโต" ฮาเวียร์ เฮอร์นันเดซ น่าจะเบียด แดนนี เวลเบ็ค กลับมาล่าตาข่ายคู่กับ เวย์น รูนีย์ อีกครั้ง เพื่อหวังล้างแค้น "หงส์แดง" ที่เพิ่งเปิดบ้านเขี่ยลูกทีมของ "เฟอร์กี้" กระเด็นตกรอบ 4 ศึกเอฟเอ คัพ  

          ด้านทีมเยือนของ "คิงเคนนี" เคนนี ดัลกลิช ไม่มีปัญหาเรื่องนักเตะได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แต่ยังคงต้องรอเช็กสภาพของ โฆเซ เอ็นริเก เสียก่อน คาดว่า "หงส์แดง" พร้อมจัดผู้เล่นชุดที่ดีที่สุดลงสนามอย่างแน่นอน ส่งผลให้พวกแข้งหลักอย่าง โฆเซ เรนา, ดาเนียล แอ็กเกอร์, เกลน จอห์นสัน, ชาร์ลี อดัม และ "สตีวี จี" สตีเวน เจอร์ราร์ด น่าจะได้ลงเล่นตั้งแต่นาทีแรก เช่นเดียวกับ หลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงตัวเก่งที่พร้อมกลับมายืนล่าตาข่ายเป็นตัวจริงอีกครั้ง แม้จะต้องเตรียมตัวเจอเสียงโห่ไล่จากแฟนบอลเจ้าถิ่นในเรื่องของการเหยียดผิว ปาทริซ เอวรา ที่ทำให้ต้องถูกลงโทษแบนถึง 8 นัดเลยก็ตาม โดยลิเวอร์พูลตั้งเป้าหวังบุกไปเก็บชัยเหนือ "ปีศาจแดง" ให้ได้เหมือนฤดูกาล 2008/2009 ที่เคยไล่ต้อนชนะได้ถึง 4-1     

          ขณะที่ "ไก่เดือยทอง" สเปอร์ส ทีมอันดับ 3 แข่ง 24 นัด มี 50 แต้ม เตรียมเปิดถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน รับการมาเยือนของ "สาลิกาดง" นิวคาสเซิล ทีมอันดับ 5 แข่ 24 นัด มี 42 แต้ม เวลา 24.30 น. นัดนี้เจ้าถิ่นจะได้ตัวกุนซือตัวเก่งอย่าง แฮร์รี เรดแนปป์ กลับมายืนคุมทีมอีกครั้ง หลังเสร็จสิ้นภารกิจไปขึ้นศาลเคลียร์คดีเลี่ยงภาษีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้จะต้องรอเช็กความฟิตของ 3 แนวรุกอย่าง อารอน เลนนอน, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และเจอร์เมน เดโฟ แต่พวกแข้งหลักยังคงพร้อมลงสนามได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เบรด ฟรีเดล, แกเร็ธ เบล, สกอตต์ ปาร์คเกอร์, ลูกา โมดริช และเอมมานูเอล อเดบายอร์ ส่วนทีมเยือนของ อลัน พาร์ดิว ยังคงไร้เงา โยฮัน คาบาย ที่ติดโทษแบน แต่พร้อมส่ง 2 หัวหอกฟอร์มแรงอย่าง ปาปิส ซิสเซ และเดมบา บา ยืนล่าตาข่ายคู่กัน        

          ด้าน "ปืนใหญ่" อาร์เซนอล ทีมอันดับ 4 แข่ง 24 นัด มี 40 แต้ม ต้องยกพลบุกไปเยือนรังสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ดวลแข้งกับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 8 ที่กำลังฟอร์มสดเก็บชัยได้ถึง 3 เกมรวด แข่ง 24 นัด มี 33 แต้ม เวลา 22.00 น. เกมนี้ อาร์แซน เวนเกอร์ กุนซือทีมเยือนน่าจะยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมที่แล้ว เพราะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม คาดว่า วอจ์เซียค เชสนี, โธมัส แฟร์มาเลน, อเลกซ์ ออกซ์เลด แชมเบอร์เลน และ "อาร์วีพี" โรบิน ฟาน เพอร์ซี เตรียมได้ลงสนามเป็นตัวจริงตามปกติ

          ฝั่ง "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ทีมอันดับ 4 ที่เสมอรวดมา 3 เกมซ้อน แข่ง 24 นัด มี 43 แต้ม ต้องออกไปเยือน "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 11 แข่ง 24 นัด มี 30 แต้ม ที่สนามกูดิสัน ปาร์ค เวลา 22.00 น. เกมนี้ อังเดร บียาส โบอาส กุนซือทีมเยือนมีปัญหาเรื่องการจัดทีมพอสมควร เพราะหมดใช้งาน 2 แข้งหลักอย่าง จอห์น เทอร์รี และรามิเรส ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวน แถมยังต้องรอเช็กความฟิตของ แฟรงค์ แลมพาร์ด อีกด้วย แต่จะได้ตัว แอชลีย์ โคล พ้นโทษแบนกลับมาช่วยทีมได้อีกครั้ง ส่วนพวกดาวดังยังคงพร้อมลงเล่นได้ตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ เช็ก, แกรี เคฮิลล์, มิกกาแอล เอสเซียง, ฆวน มาตา และเฟอร์นันโด ตอร์เรส    

          ส่วนโปรแกรมคู่อื่นลงเตะเวลา 22.00 น. แบล็คเบิร์น (19) พบ ควีนส์ปาร์ค (16), โบลตัน (18) พบ วีแกน (20), ฟูแล่ม (14) พบ สโต๊ค (12), สวอนซี (10) พบ นอริช (9)

 

 

----------

(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : AFP)

----------