เปิดใจ'ขวัญชัย ไพรพนา' | คมชัดลึก

          "ขวัญชัย ไพรพนา" ประธานชมรมคนรักอุดร หนึ่งในแกนนำ นปช. ได้เผยใจกับ "คม ชัด ลึก" ในหลายเรื่องโดยเฉพาะประเด็นแตกคอกับ นปช.ซบรังใหม่ค่าย "ชิดชอบ"

 

0ระยะหลังมักจะมีแต่ข่าวแตกคอกับแกนนำ นปช.ออกมาเป็นระยะ

          ต้องลำดับความกันให้ชัดๆ จะได้เข้าใจ อย่าไปหลงประเด็นกันจนทำให้เกิดความแตกแยก ย้อนกลับไปนั้นผมเป็นชมรมคนรักอุดรมาก่อน ผมตั้งองค์กรภาคประชาชนในนามชมรมคนรักอุดรมาตั้งแต่ปี 2549 วันที่ 4 เมษายน 2549 คือวันก่อเกิดชมรมคนรักอุดร แล้วปี 2551 นปก.เขาเคลื่อนไหวตั้งเวทีชุมนุมกันอยู่ที่สนามหลวง สมาชิกของผมและตัวผมเกิดความศรัทธาในตัวสามเกลอ ทั้งนายจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และนายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ก็พยายามจะจัดรถไปฟังการปราศรัยกันทุกวันเสาร์และอาทิตย์ แชร์ค่ารถกันออกบ้าง 300 บ้าง 400 บ้าง เพราะรถทัวร์ไปกลับนั้นต้องจ่ายถึง 2.3 หมื่นบาท เราไปทีละ 2 คัน 3 คัน 5 คัน จนกลายเป็น 20 คัน เพราะเราศรัทธาในตัวสามเกลอ

          หลังจากเราต่อสู้และแพ้ช่วงที่ผมติดคุกอยู่ 9 เดือนกว่า ภรรยาผมต้องดูแลสมาชิก ดูแลองค์กร ไม่ให้มันพัง บางคนคงคิดว่าชมรมคนรักอุดรคงจะไปไม่รอด เราก็อยู่กันมาอย่างยากลำบาก ภรรยาผมเวลาจะลงไปเยี่ยมผมแต่ละทีก็ต้องหายืมเงินจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพกันทุกครั้ง เพราะลงไปกรุงเทพฯ ครั้งหนึ่งก็หมดเป็นหมื่น นี่คือความยากลำบากของชมรมคนรักอุดร

          วันที่ผมออกจากคุกมา ผมก็ประกาศชัดเจนว่าจะไม่เล่นการเมือง มาประคับประคองตรงนี้ปีกว่า จนสามารถดูแลเจ้าหน้าที่และดีเจของชมรมได้ การที่เราบอกว่าเราไม่ไปร่วมงานกับ นปช.ก็เพราะว่าเราอยู่ไกล เวลาจะไปประชุมกันทุกวันพุธ ผมนั่งเครื่องบินไปกลับก็ 6,000 กว่าบาท ค่ากินค่าใช้อีกหมดเกือบหมื่นบาททุกครั้ง มันก็ไม่จำเป็น ผมก็มาบริหารชมรมผมต่อไป ปัดกวาดบ้านของตัวเอง ส่วน นปช.เป็นภาพใหญ่ของการต่อสู้ เราเลยไม่มีโอกาสได้ไปร่วมประชุมกับเขา เมื่อมีการเลือกตั้งประธาน นปช.คนใหม่ กลุ่ม นปช.เลือกอาจารย์ธิดาเป็นประธาน นปช.ตัวจริง ผมก็พูดตรงไปตรงมาว่า ผมคงต้องถอยออกมาเพราะผมไม่เห็นด้วย 

          "วันนี้ไม่ใช่ขัดแย้งหรือว่าแตกแยก ถ้ามีภารกิจเพื่อชาติเพื่อความยุติธรรมผมก็พร้อมที่จะไปร่วมงาน แต่กิจกรรมอะไรที่มันไม่ใช่ผมก็ไม่ไปก็เท่านั้นเอง นี่คือสิ่งที่คนอย่างผมมันพูดเสแสร้งไม่เป็น ตรงไปตรงมา คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น" 

 

0ข่าวว่านายเนวิน ชิดชอบ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ถอยออกจาก นปช.

          ผมเพิ่งรู้ในระยะหลังมานี้ว่า มีคนไปปล่อยข่าวว่าการจัดโต๊ะจีนของผมนั้นคุณเนวินได้มาซื้อโต๊ะจีนไปเป็นจำนวนมากเพื่อนำไปแจกประชาชนให้มาร่วมงาน นอกจากนี้ลูกน้องเก่าของผมยังไปให้สัมภาษณ์ในวิทยุชุมชนจังหวัดสมุทรปราการด้วยว่า มีรถทัวร์และรถบัสจัดคนมาในงานเลี้ยงโต๊ะจีน รายชื่อผู้ที่มาซื้อโต๊ะจีนทั้งหมด 1,400 โต๊ะนั้น ภรรยาผมยังคงเก็บหลักฐานตรงนี้ไว้ ยืนยันว่าผมกับคุณเนวินนั้นไม่มีความผูกพันกันใดๆ ทั้งสิ้น

          "ผมกับคุณเนวินนั้นไม่เคยนั่งคุยกันตัวต่อตัวแม้แต่ครั้งเดียว ผมรู้จักกับคุณเนวินเพราะนายธีระชัย แสนแก้ว อดีต รมช.เกษตรฯ นายเนวินเคยดูแลผมรู้สึกว่าจะ 2 ครั้งที่ผมได้เงินมา นักข่าวคงจำได้เมื่อครั้งที่ รมว.มหาดไทยเดินทางมาที่ อ.วังสามหมอ จ.อุดรธานี แล้วนายเนวินเอาเงินใส่กระเป๋าผม 1 แสนบาท ซึ่งนักข่าวถามผมก็บอก แล้วก็มีเอสเอ็มเอสข่าวทันทีว่าผมรับเงินจากนายเนวินมา 1 แสนบาท ทำให้ผมถูกนายธีระชัยต่อว่าว่าไปพูดทำไม ซึ่งผมก็ได้บอกไปว่า ไม่รู้ แต่เมื่อนักข่าวถามผมก็บอกไปตรงๆ ผมเป็นคนแบบนี้"

          สมัยที่พรรคพลังประชาชนเป็นฝ่ายค้าน นายธีระชัยก็พยายามโน้มน้าวผมให้ไปร่วมงานด้วย ซึ่งผมก็ปฏิเสธนายธีระชัยไปตลอด ดังนั้นการที่บอกว่านายเนวินมาซื้อโต๊ะจีนของผมนั้นจึงเป็นการใส่ร้ายป้ายสีโดยลูกน้องเก่าของผม มีคนเอาข่าวมาให้ดูเยอะแยะ ดูแล้วปวดร้าวมากแต่ก็ตอบไม่ได้ เพราะตอบไปก็เหมือนกับทำร้ายตัวเอง เพราะมันเคยมาหากินกับชมรมคนรักอุดร ไปถ่ายรูปเมื่อครั้งที่ผมจัดชุมนุมที่ทุ่งศรีเมืองคนเป็นแสนก็เก็บภาพเหล่านี้เอาไว้ แล้วเมื่อมาทำหมู่บ้านเสื้อแดงก็เอาภาพตรงนี้มาตัดต่อไปใส่กับหมู่บ้านเสื้อแดง คนต่างประเทศไม่รู้ก็เลยบอกว่าหมู่บ้านเสื้อแดงนั้นยิ่งใหญ่มาก ผมหยิก หน้าก้อ คอสั้น คนโบราณพูดเอาไว้ว่าห้ามคบซึ่งก็เป็นจริง

 

0มอง ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่เป็นแกนนำ นปช.คนเดียวที่เป็นรัฐมนตรีอย่างไร

          ณัฐวุฒิ เป็นนักการเมืองก่อนที่จะมาเป็นผู้นำมวลชน ณัฐวุฒิลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.มาตั้งแต่สมัยที่อยู่พรรคชาติพัฒนา แล้วก็มาอยู่กับพรรคไทยรักไทยแต่สอบตก จากนั้นก็มาเป็นแกนนำสามเกลอในกลุ่ม นปก. วันนี้เขาเป็น ส.ส.แล้วก็จบปริญญาโท เป็นคนดี คนเก่ง คนมีน้ำใจ ดังนั้นจึงเหมาะสมอยู่แล้วที่จะเป็นเสนาบดี อย่ามองว่าเขาเป็นคนเสื้อแดง ผลงานจะเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี

 

0มองพรรคประชาธิปัตย์ขยายผลกรณีเดินทางไปโรงแรมโฟร์ซีซันส์ของนายกฯ อย่างไร

          วันนี้ ผู้บริโภคข่าวสารต้องมีสติ เพราะพรรคการเมืองพรรคนี้เล่นการเมืองกันเป็นระบบ สมกับที่เป็นพรรคการเมืองจริงๆ เขาเป็นนักกฎหมาย ที่ผ่านมาเขาก็เคยปล่อยทหารเลวมาโยนหินถามทางก่อน ถ้าสังคมไม่รับเขาก็หายไป แต่ถ้าสังคมสนใจระดับต่อไปก็ลงมาเล่นต่อ จึงกลายเป็นกระแส นี่คือนักการเมืองอาชีพ ผมมองว่าเรื่องนี้ไร้สาระจริงๆ คนอย่างนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เราจะให้ราคาได้อย่างไร แล้วพรรคการเมืองพรรคนี้ก็รับลูกไปเล่นโดยที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย 

          "อยากฝากให้ทุกคนตั้งสติ มีสมองกันหน่อย อย่าให้การเมืองมาปั่นหัวเราเหมือนจิ้งหรีด วันนี้ภาพความปรองดองมันเกิดขึ้นทำไมเราไม่ขานรับ ประธานองคมนตรีมีน้ำใจไมตรี ยื่นมือมาให้เราแล้ว มาร่วมงานกับนายกฯ 2 งานแล้วที่เราเห็นภาพ มันเป็นความประทับใจ เป็นความสุขของคนไทย เราอยากเห็นภาพแบบนี้ ผู้หลักผู้ใหญ่กำลังจะปรองดอง มีสติครับ อย่าวู่วาม อย่าใจร้อน มีเหตุผลกันหน่อย"

 

..........................

(หมายเหตุ : รายงานพิเศษ เปิดใจ 'ขวัญชัย ไพรพนา' โดย 'ประพันธ์ จินดาเลิศอุดมดี' สำนักข่าวเนชั่น)