'แย่งปืน-ซุ่มยิง'ตำรวจฝางดับ2ศพ | คมชัดลึก

              เหตุคนร้ายขัดขืนการจับกุมและแย่งปืนยิงตำรวจเสียชีวิต 2 นาย แล้วหนีเข้าป่าในพื้นที่บริเวณตะเข็บชายแดนภาคเหนือครั้งนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มีนาคม พ.ต.ท.ประวิทย์ เมณฑ์กูล พนักงานสอบสวน สภ.ฝาง ได้รับแจ้งเหตุตำรวจถูกยิงเสียชีวิตขณะจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดในพื้นที่บ้านห้วยงูใน ต.สันทราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.วิโรจน์ วชิรัคกุล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ฝาง
    
              พ.ต.อ.วิโรจน์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีตำรวจเสียชีวิต 2 นาย คือ ด.ต.อาคม แก้วเมืองมา ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม และ ด.ต.นคร ปัญจเรือง ผู้บังคับหมู่งานป้องกกันและปราบปราม ก่อนเกิดเหตุ ด.ต.อาคมขี่รถจักรยานยนต์สายตรวจลงพื้นที่บ้านหนองสามแจ่ง ต.สันทราย อ.ฝาง พบชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา จึงเรียกให้หยุดเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวไม่ยอมหยุด และพยายามเร่งเครื่องหลบหนี ด.ต.อาคมไล่ตามอย่างกระชั้นชิด กระทั่งถึงเขตติดต่อระหว่าง ต.สันทราย กับ ต.แม่สูน คนร้ายได้ทิ้งรถจักรยานยนต์วิ่งหนีเข้าไปในป่าละเมาะข้างทาง
    
              "เมื่อ ด.ต.อาคมเห็นชายต้องสงสัยวิ่งหนีเข้าป่า จึงวิทยุขอกำลังสนับสนุน พร้อมทั้งวิ่งไล่กวดจนสามารถจับตัวไว้ได้ แต่ชายดังกล่าวไม่ยอมง่ายๆ ปลุกปล้ำต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์ ในจังหวะชุลมุนอยู่นั้นคนร้ายได้แย่งอาวุธปืนของ ด.ต.อาคมยิงเข้ากลางหน้าอกเสียชีวิตทันที ระหว่างนั้นด.ต.นคร และด.ต.ประสงค์ สนธยา ซึ่งได้รับแจ้งทางวิทยุ เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุพอดี จึงไล่ล่าตัวคนร้ายเข้าไปในป่าไผ่ ห่างจากจุดที่ ด.ต.อาคมถูกยิงประมาณ 1 กิโลเมตร เมื่อตำรวจทั้งสองไปถึงคนร้ายซึ่งแอบซุ่มอยู่ก่อนหน้าได้ใช้อาวุธปืนที่ขโมยจาก ด.ต.อาคม เปิดฉากยิงเข้าใส่ ทำให้ ด.ต.นครเสียชีวิตคาที่ จากนั้นมือปืนวิ่งหนีไปบนเขา หลังเกิดเหตุตำรวจได้สนธิกำลังกับทหารกองกำลังผาเมืองเข้าติดตามไล่ล่าคนร้าย" พ.ต.อ.วิโรจน์กล่าว
    
              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 (รอง ผบช.ภ.5) เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ซึ่งจนถึงช่วงเย็นเจ้าหน้าที่ยังคงไล่ล่าติดตามคนร้ายอย่างไม่ลดละ พร้อมกับประสานหน่วยทหารตามแนวชายแดนบริเวณใกล้เคียงเพื่อสกัดการหลบหนีข้ามไปฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติด
    
              วันเดียวกัน เวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมปฏิบัติการวอร์รูม สภ.บาเจาะ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส (ผบก.ภ.จว.นราธิวาส) เป็นประธานในที่ประชุมพนักงานสอบสวนเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายบุกโจมตีฐานปฏิบัติการทหารบ้านส้มป่อย สังกัด ฉก.นราธิวาส 32 กองทัพเรือ บ้านส้มป่อย หมู่ 4 ต.กาเยาะมาตี อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส เป็นเหตุให้ ร.ท.สงกาณ กุดวงศ์แก้ว ผบ.ฐานปฏิบัติการบ้านส้มป่อย และทหารใต้บังคับบัญชาได้รับบาดเจ็บรวม 8 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา
    
              ภายหลังการประชุม พล.ต.ต.โชติกล่าวว่า คนร้ายที่บุกโจมตีฐานทหารเป็นวัยรุ่นหน้าใหม่ โดยนายมะรอโซ จันทราวดี แกนนำคนร้ายกลุ่มอาร์เคเค ระดมมาจากท้องที่ 4 อำเภอ คือ อ.บาเจาะ อ.ยี่งอ อ.รือเสาะ และอ.ระแงะ ส่วนความคืบหน้าคดียึดทรัพย์นักธุรกิจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับแลกเปลี่ยนเงินสกุลริงกิต เพื่อฟอกเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติ จากนั้นกลุ่มพ่อค้ายาเสพติดได้นำเงินส่วนหนึ่งมาสนับสนุนกลุ่มคนร้ายกลุ่มก่อเหตุความไม่สงบด้วยนั้น
    
              นอกจากร้านจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูปประเสริฐอาภรณ์ ใน อ.สุไหงโก-ลก และร้านขายทองคำรูปพรรณของห้างทองภู่สุวรรณ ใน อ.สุไหงปาดี ที่ถูกตรวจยึดทรัพย์สินไปแล้ว ผลจากการสอบสวนยังพบร้านค้าอีกหลายแห่งที่มีพฤติกรรมดังกล่าวในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อ.ตากใบ อ.สุไหงโก-ลก และ อ.แว้ง ซึ่งเป็นอำเภอชายแดนไทย-มาเลเซีย จึงเตรียมติดตามจับกุมเจ้าของร้านมาดำเนินคดี และยึดทรัพย์สินมาตรวจสอบต่อไป
    
              ส่วนผลการสอบสวนนายแสงทิตย์ คติสมสกุล เจ้าของร้านประเสริฐอาภรณ์ เลขที่ 6 ถนนสฤษฏ์วงศ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก ที่ถูกยึดทรัพย์เป็นเงินสดกว่า 1 ล้านบาท และสมุดเงินฝากบัญชีธนาคารหลายธนาคารรวม 30 เล่ม ยืนยันว่า นางปาตีเมาะ สะแลแม มารดาของ น.ส.นรินทร์ มามะ ได้นำเงินสกุลริงกิตมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินบาทหลายครั้ง ครั้งละ 1-5 แสนริงกิต (1 ริงกิต เท่ากับ 10 บาท) รวมเป็นเงินประมาณ 15 ล้านบาท
    
              ขณะที่การสอบสวนนายสุริยัน พงษ์มานะวุฒิ เจ้าของห้างทองภู่สุวรรณ เลขที่ 216 ถนนจารุเสถียร เขตเทศบาล ต.ปะลุรู อ.สุไหงปาดี ซึ่งถูกยึดทองคำรูปพรรณชนิดต่างๆ คิดเป็นมูลค่ากว่า 25 ล้านบาท ให้การว่า นางปาตีเมาะเคยนำเงินสกุลริงกิตที่ได้จากการค้ายาเสพติดข้ามชาติมาแลกเปลี่ยนเป็นเงินสกุลบาทหลายครั้งแล้ว