ข่าว

สายสืบยุคใหม่ต้อง'ไฮ-เทคโนโลยี'

สายสืบยุคใหม่ต้อง'ไฮ-เทคโนโลยี'

25 มี.ค. 2555

สายสืบ...ยุคใหม่ต้อง'ไฮ-เทคโนโลยี' : สัมภาษณ์พิเศษ พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.ภ.1 โดยไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง วัชรชัย คล้ายพงษ์ : ภาพ

             หลายคนที่เคยดูภาพยนตร์แนวสืบสวนสอบฆาตกรรมเรื่อง "ไขคดีปริศนา" หรือ "CSI" (Crime Scene Investigation) คงชื่นชอบภารกิจของแต่ละตัวละคร ที่สามารถสืบสวนสอบสวนหาหลักฐานมาเอาผิดฆาตกรได้อย่างดิ้นไม่หลุด ไม่มีคำว่า "จับแพะ" เพราะหลักฐานทุกอย่างยืนยันด้วยหลักวิทยาศาสตร์ ขณะที่เมืองไทยก็มีแล็บอาชญากรรมคล้ายๆ "ซีเอสไอ" และตำรวจสืบสวนเก่งๆ ก็มีอยู่ไม่น้อย หนึ่งในนั้น คือ พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.ภ.1 นายตำรวจผู้เติบโตมาจากสายสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีน้อยใหญ่มาเกือบตลอดอายุราชการ ส่วนฝีไม้ลายมือจัดเข้าทำเนียบ "ซีเอสไอไทยแลนด์" ได้เลยทีเดียว

-ทำไมถึงเลือกมาเป็นตำรวจสายสืบสวนสอบสวน?
 
             ผมชอบงานสืบสวนเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว รู้สึกว่ามีความสุขมากเวลาจับโจรผู้ร้ายได้ จะดีใจทุกครั้ง เพราะโจรไม่ได้เก่งกว่าเรา ตรงกันข้าม หากจับโจรไม่ได้จะทุกข์ใจมาก ทำไมโจรเก่งกว่าเรา อย่างคดีฆ่าอำพรางศพเมื่อ 30 ปีก่อน เหตุเกิดที่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลักฐานมีน้อยมาก มีแต่เนื้อเท้าที่ยังถูกไฟไหม้ไม่หมด นอกนั้นเหลือแต่กระดูก และซากยางรถยนต์ ผมปวดหัวอยู่หลายวัน จนเริ่มตั้งสติว่า เหตุเกิดในป่าลึก คนภายนอกเข้ามาจะหาทางออกไม่ได้แน่ คนที่ลงมือก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่อย่างแน่นอน ผมจึงขับรถจักรยานยนต์ตระเวนดูในละแวกดังกล่าว ระหว่างนั้นสังเกตเห็นว่าอู่ซ่อมรถอู่หนึ่งมีร่องรอยหญ้าตาย ลักษณะเหมือนยางรถยนต์ที่ถูกยกออกไป จึงเข้าไปสอบถามและรู้ว่ามีคนงานคนหนึ่งหายออกไป แล้วตำรวจก็สามารถตามจับตัวมาจนได้ และรู้ว่าที่ฆ่ากันตายเพราะหักหลังกันเรื่องยาเสพติด นี่เป็นตัวอย่างของคดีที่เริ่มสืบจากการที่เราไม่รู้อะไรเลย แต่ต้องเป็นคนช่างสังเกต แม้ว่าคดีนี้ไม่ได้เป็นข่าวใหญ่โต แต่ลึกๆ แล้วรู้สึกภูมิใจมาก ทั้งนี้ การจะจับคนร้ายให้ได้นั้น อันดับแรกข้อมูลจะต้องดี มีการวิเคราะห์อย่างละเอียด ซึ่งวิธีการเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเป็นนายพล นายพัน แค่จ่าตำรวจบางนายก็เก่งได้ เพราะเขาทำงานมานาน
 
 
-คดีแรกที่จับได้ จำได้ไหมว่าเป็นคดีอะไร?
 
             โห...ผมคงจำไม่ได้ มันเยอะไปหมด และก็ภูมิใจทุกคดี แต่มีอยู่คดีหนึ่ง ผมดีใจที่ได้ทำคดีนี้ คือ มีผู้ใหญ่คนหนึ่งกำลังจะถูกปองร้าย และรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร หากเขาถูกยิงตายจะสามารถจับกุมคนร้ายได้ทันที ผมก็จะได้ผลงาน แต่มาคิดอีกทีผู้ใหญ่คนนั้นไม่ได้มีความผิดอะไร จึงไปบอกให้เขาระวังตัว แต่ผมกลับถูกมองในทางแปลกๆ แล้วผมก็ไปปรามคนที่คิดจะก่อเหตุไปบอกว่าตำรวจกำลังจับตาดูอยู่นะ สุดท้ายเหตุการณ์นี้ไม่เกิด และผมไม่ได้ความดีความชอบอะไร แต่ผมภูมิใจที่ช่วยชีวิตผู้ชายคนนั้นไว้

 
-ประเทศไทยมีโรงเรียนสอนนักสืบโดยตรงไหม?
 
             มีโรงเรียนสืบสวนสอบสวน จะสอนในหลักวิชาแล้วแต่ตำรวจแต่ละคนนำไปใช้ นำไปดัดแปลงปฏิบัติ หลักๆ ก็มีการสืบสวนก่อนเกิดเหตุ กับการสืบสวนหลังเกิดเหตุ แล้วก็แตกหน่อเป็นวิธีการต่างๆ ว่าจะทำอะไรต่อจากนั้น ทั้งนี้ มันก็อยู่กับความชอบ ความอดทน ที่จะนำไปประยุกต์ปฏิบัติ อย่างไปนอนเฝ้าจุดครั้งหนึ่ง 3-4 ชั่วโมง หากใครชอบก็จะมีการศึกษาวิธีการต่างๆ เพิ่มเติมเอง ส่วนใครชอบเป็นสายตรวจก็จะแต่งเครื่องแบบรัดรูป พกปืน คาดเข็มขัด รองเท้าเงาติดเครื่องหมายเต็มหน้าอก แล้วก็มักจะหาซื้อไฟฉายส่องไกลเป็นกิโล วิทยุชักเสาแล้วเรียกไปถึงดาวอังคาร หรือบางคนชอบนั่งอยู่กับโต๊ะไม่อยากเสี่ยง บางคนให้ไปอยู่โรงพักบอกไม่เอา อยากเป็นธุรการ ไปเช้าเย็นกลับได้หยุดเสาร์-อาทิตย์ ตรงนี้ก็ตามความชอบแต่ละคน
 
             แต่ตำรวจที่ชอบงานสืบสวนจริงๆ ต้องมีใจรักและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพราะโจรเองก็มีตำราพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ สมัยก่อนตำราโจรก็สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น อย่างโจรจะขโมยของในบ้านคน เจ้าของหรือตำรวจจะตามไม่เจอเหมือนกลบกลิ่น แถมเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเยอะ โดยเฉพาะภาพยนตร์ต่างๆ ก็เป็นตำราอย่างดีให้โจรเก่งขึ้น อย่างกรณีคนร้ายหลายรายสารภาพว่า สวมถุงมือ ใส่ไอ้โม่ง ปล้นธนาคาร เพราะเลียนแบบมาจากหนัง กล้องวงจรปิดจับไม่ได้ ไม่มีรอยนิ้วมือ เป็นต้น

 
-ตำรวจที่สืบสวนเก่งๆ ในเมืองไทยมีมากน้อยแค่ไหน ?
 
             ตำรวจไทยเก่งนะ เก่งจากประสบการณ์ ต้องยอมรับว่าเครื่องไม้เครื่องมือเราสู้ต่างประเทศไม่ได้ แต่ประสบการณ์เราสู้ได้ มีตำรวจบางคนมีความสามารถพิเศษส่วนตัว บางทีค้นรถนี่รู้ได้เลยว่ามีสิ่งผิดปกติ มันเป็นประสบการณ์พิเศษ พูดแบบหยาบๆ ตำรวจตั้งด่านจมูกดีกว่าสุนัขอีก อย่างผมดูเขาจับยาเสพติดอยู่ทางเหนือ มีรถทะเบียนกรุงเทพฯ ผ่านมา แต่คนขับเป็นแม้ว ตำรวจก็เรียกและถามว่าจะไปไหน คนขับบอกไปสีลม จากนั้นก็ถามต่อว่าไปทางไหนอย่างไร พอคนขับทำท่าพิรุธบอกทางไม่ได้ ถามไปถามมาบอกมีคนมารับรังสิต พอค้นรถเจอยา 2 แสนเม็ด หรือกรณีสายสืบไปหาข่าวในหมู่บ้านเจอบ้านหลังหนึ่งอยู่กัน 2 คน กลางวันปิดเงียบ กลางคืนถึงเข้าบ้าน สายสืบก็สงสัย ลองไปเปิดบิลค่าไฟดู 7,000 บาท ซึ่งผิดปกติมาก พอลองเข้าไปตรวจสอบพบเครื่องปั๊มยาบ้าเต็มเลย นี่แหละประสบการณ์มันสอนตำรวจไทย อย่างไรก็ตาม ตำรวจไทยฝีมือดีๆ พอเกษียณไปแล้ว วิชาเหล่านั้นก็ตายไปกับอายุราชการของเขาด้วย ไม่มีการเก็บรวบรวมเอาไว้ ส่วนผมเวลาเจอคดีที่ใกล้เคียงกับคดีที่เคยเกิดขึ้นในอดีต ผมมักจะโทรศัพท์ไปสอบถามนายตำรวจที่เคยจับคดีสำคัญๆ ได้ ทำให้ผมมีวิชาความรู้เพิ่มขึ้น

 
-ยุคนี้ตำรวจสายสืบสวนต้องปรับตัวอย่างไร
 
             การรับสมัครตำรวจนายสิบยุคนี้ จะกรอกใบสมัครทางอินเทอร์เน็ต จ่ายตังค์ค่าสอบทางอินเทอร์เน็ต ปริ๊นท์ใบประจำตัวผู้สมัครทางอินเทอร์เน็ต ฉะนั้นตำรวจสมัยนี้ใช้อินเทอร์เน็ตเป็นกันทุกคน เราจะต้องใช้เทคโนโลยีตรงนี้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เปรียบเทียบให้เห็นง่ายๆ อย่างผู้สื่อข่าวยังไม่ได้ก้าวออกจากที่เกิดเหตุเลย ก็มีข่าวรายงานตามหน้าสื่อต่างๆ แล้ว เพราะเขาไม่ต้องวิ่งไปส่งข่าว ส่งรูปเหมือนสมัยก่อน ดังนั้นผู้บังคับบัญชาที่บอกว่า ขอไปดูที่เกิดเหตุก่อนแบบนี้มันน่าจะหมดไปแล้ว
 
             อย่างผมเวลาเกิดเหตุจะให้ตำรวจในพื้นที่ส่งภาพมาให้ดูก่อน อย่างเหตุเกิดที่ จ.ลพบุรี มีการยิงกันตาย กว่าผมจะเดินทางไปถึงมันใช้เวลานาน เพราะสภาพพื้นที่เป็นป่าเป็นเขา เมื่อเทคโนโลยีมันเอื้ออำนวยให้ทำงานสะดวกยิ่งขึ้น ผมก็ให้ตำรวจในพื้นที่ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปในที่เกิดเหตุให้ดู ก็จะสามารถสันนิษฐานสาเหตุเบื้องต้นได้ อย่างรูปวิถีกระสุน ซึ่งเกิดจากบนลงล่างก็จะรู้ได้ทันทีว่า ก่อนตายคนร้ายขู่เข็ญมีอำนาจเหนือกว่าผู้ตายหรือไม่ ลักษณะการฆ่าโหดเหี้ยมทารุณหรือไม่ ปลอกกระสุนปืนเป็นชนิดใดให้เขาถ่ายมาให้ดูก่อน แล้วก็ยังบอกให้ลูกน้องระมัดระวังตัว ควรจะใช้อาวุธอะไรไปสู้กับคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมมาดำเนินคดี
 
             หรือกรณีพบศพเด็กเสียชีวิต หลังจากดูรูปแล้วก็ส่งภาพให้แพทย์ดูเบื้องต้น น่าจะเกิดจากอะไร บีบคอไหม แพทย์ก็บอกว่าไม่น่าจะบีบคอนะ เพราะสภาพศพลิ้นไม่จุกปาก หรือถูกข่มขืนหรือไม่ แพทย์ก็จะบอกเบื้องต้นว่า ไม่น่าจะถูกข่มขืน เพราะอวัยวะเพศไม่มีร่องรอย แต่ถ้าสภาพศพเน่าแล้ว คงไม่สามารถตรวจสอบจากลักษณะภายนอกได้ หลังจากวิเคราะห์สาเหตุการตายเบื้องต้นจากรูปถ่ายแล้ว ผมก็จะสามารถบอกตำรวจสายสืบในพื้นที่ได้ว่า สภาพศพเป็นแบบนี้ ลองไปดูซิว่าเกิดจากพ่อแม่เด็กหรือไม่ ผมมองว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น เรื่องนี้แบบนี้ ถามว่าทันสมัยไหม มันไม่ได้ทันสมัย เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เด็กประถมเดี๋ยวนี้ก็ทำได้ ถ้าตำรวจยังไม่พัฒนาก็จะตกยุค

 
-ตำรวจสายสืบต้องปรับตัวใหม่ทั้งหมดหรือไม่
 
             ผมว่าต้องปรับใหม่ทั้งหมด อย่างเดิมทีการเก็บข้อมูลเป็นกระดาษหรือแฟ้มเต็มไปหมด พอเกิดเหตุทีก็ต้องค้นหาทั้งวันกว่าจะเจอ แต่ถ้าเอามาจัดเก็บให้เป็นไฟล์ดิจิตอล อย่างผมจะเก็บข้อมูลไว้ในไอแพด แค่ค้นคำว่า "มือปืน" มันก็ขึ้นเลย "ปลอกกระสุนปืน 4.5" แค่ค้นมันก็ขึ้นเลยว่าเกิดที่ไหนบ้าง ทีนี้เราก็จะมีข้อมูลแล้วว่ามือปืนคนไหนใช้ปืนกระสุนแบบนี้ แต่ข้อมูลส่วนนี้ใช้ได้เฉพาะเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง ไม่ใช่ใครก็สามารถใช้ก็ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะมีการแก้ไขข้อมูลกันอีก
 
             อีกไม่นานก็คงเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เพราะขนาดเด็ก ป.1 ยังมีแท็บเล็ต มีอีเมล มีเฟซบุ๊ก ต่อไปนักสืบรุ่นใหม่ๆ จะต้องเป็นไฮเทคโนโลยี (High technology) มันถึงจะตามจับคนร้ายได้ เพราะคนร้ายสมัยใหม่มันก็ไฮเทคโนโลยีเหมือนเรา คนร้ายสามารถหลบหนีทางจีพีเอสได้ ทางที่มันไม่รู้จักมันก็เปิดจีพีเอสหลบไปตามเส้นทางที่มันไม่รู้จัก ตอนผมอยู่ที่ตำรวจภูธรภาค 5 เคยจับแก๊งยาเสพติดได้ ซึ่งไม่ได้จับกุมได้ที่ด่านตรวจ แต่จับมันได้ที่หลังด่าน เพราะมันอ้อมหนีด่าน ผมก็ถามว่ามันรู้ทางนี้ได้ยังไง มันก็บอกว่ามันใช้จีพีเอสหาเส้นทางการหลบด่านตรวจ
 
             ฉะนั้นตำรวจต้องฉลาดกว่าโจร อาศัยเทคโนโลยีใหม่ๆ การเป็นสายสืบจะมาทำตามตำราเดิมไม่ได้แล้ว ยิ่งสมัยนี้ตำรวจสืบสวนดูง่ายมาก เด็กยังรู้เลย..สายสืบต้องไว้ผมยาว กางเกงยีน รองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อยืด มีเสื้อคลุมตัว พกปืนพกวิทยุ...ผมก็ไม่รู้รูปแบบนี้มาจากไหน คงคิดว่าผมยาวแล้วจะจับโจรได้ ผมว่าสายสืบรุ่นใหม่ต้องใช้เทคโนโลยีให้เป็น เอามวลชนเข้ามาช่วย เพราะจำนวนตำรวจดูแลคนจำนวนมากไม่ไหว


..............

(หมายเหตุ : สายสืบ...ยุคใหม่ต้อง'ไฮ-เทคโนโลยี' : สัมภาษณ์พิเศษ  พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.ภ.1 โดยไชยฤทธิ์ เสนาะวาที : เรื่อง วัชรชัย คล้ายพงษ์ : ภาพ)