ข่าว

คิดอีกที

คิดอีกที

05 พ.ค. 2555

คิดอีกที : ขอดเกล็ดดาวเงิน พล.ต.ต.สำเริง ธรรมโร แห่ง สภ.เมืองปัตตานี

             ควันหลง...โครงการ "ส่งรักปันสุขคนกรุงถึงตำรวจใต้" ซึ่งกระจอกข่าวมีโอกาสติดตามคณะ นำโดย พล.ต.อ.วุฒิ พัวเวส อดีตรองผบ.ตร., พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. และ พ.ต.ต.เนติ วงษ์กุหลาบ สว.กก.สส.บก.น.4 นำเงินที่ได้รับจากการบริจาคจากชาวเมืองหลวงไปมอบให้ตำรวจและทายาทตำรวจ ที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
 
              ทำให้กระจอกข่าวมีโอกาสได้สนทนากับตำรวจผู้เสียสละหลายต่อหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชนคนไทยในพื้นที่สีแดง
 
              หนึ่งในจำนวนนั้นคือ พล.ต.ต.สำเริง ธรรมโร หรือ ร.ต.ต.สำเริง แห่ง สภ.เมืองปัตตานี ซึ่งได้รับบาดเจ็บจนต้องกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ หลังถูกสะเก็ดระเบิดเข้าตามร่างกาย จากเหตุการณ์ขบวนการก่อการร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องไปวางไว้ที่ลานจอดรถเทศบาลใกล้กับ สภ.เมืองปัตตานี แล้วจุดชนวนด้วยโทรศัพท์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2551
 
              แม้จะต้องกลายเป็นบุคคลทุพพลภาพ ต้องใช้ชีวิตอยู่บนรถเข็นมานานกว่า 4 ปี แต่กำลังใจของ พล.ต.ต.สำเริง ยังดีเยี่ยม ดวงตาเปี่ยมสุขทุกครั้งที่มีผู้บังคับบัญชาหรือคนทั่วไปแวะเวียนมาเยี่ยมให้กำลังใจ
 
              ในวันนั้นกระจอกข่าวมีโอกาสได้สนทนากับตำรวจผู้เสียสละท่านนี้ ในหลายๆ เรื่อง และหนึ่งในจำนวนนั้นคือ นโยบายการจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งรัฐบาลประกาศยอดเงินไว้สูงถึง 7.5 ล้านบาทต่อราย
 
              พล.ต.ต.สำเริง อยู่ในข่ายที่จะต้องได้รับการพิจารณาได้รับเงินจำนวนนี้หากรัฐบาลดำเนินการตามแนวคิดดังกล่าวจริง แต่สิ่งที่กระจอกข่าวได้ยินจากปากนายตำรวจผู้เสียสละท่านนี้ยังคงประทับใจไม่เลือน
 
              "เงิน 7.5 ล้านเป็นเงินก้อนใหญ่ ไม่แปลกที่ใครต่อใครก็อยากได้ แต่เงินดังกล่าวเป็นเงินภาษีของพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ ดังนั้นการที่คิดจะนำเงินภาษีมาใช้ต้องตระหนักให้ดีว่าเหมาะสมมากน้อยเพียงใด ที่สำคัญคือเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติหรือไม่" ถ้อยคำบอกกล่าวของ พล.ต.ต.สำเริง ยังก้องอยู่ในห้วงความคิด
 
              พล.ต.ต.สำเริง ย้ำเป็นการส่วนตัวว่า แม้จะต้องทุพพลภาพจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากผลาญเงินภาษีของประเทศชาติ และอยากเตือนสติผู้ที่เกี่ยวข้องให้คิดอีกที การใช้จ่ายเงินก้อนนี้เหมาะสมแล้วหรือไม่ !!
 
              "สิ่งที่ผมกลุ้มใจมากที่สุด ไม่ใช่ไม่มีเงินรักษาตัว แต่กลุ้มว่ามีเงินก็ใช้จ่ายอะไรไม่ได้ เพราะวิถีชีวิตในแต่ละวันก็อย่างที่เห็น ขณะที่เงิน 7.5 ล้านที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์รุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ หากรวมกันหลายรายแล้วคงมีจำนวนมหาศาล ผมอยากให้คิดอีกที เงินก้อนนี้มันเงินภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นควรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ไม่ใช่นำมาใช้เพื่อหวังผลทางการเมืองของใครฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง" พล.ต.ต.สำเริง สนทนากับกระจอกข่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง
 
              เอ้า...ท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทราบแล้วเปลี่ยน...ก่อนใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากเงินภาษีของประชาชนแต่ละบาท คิดอีกที คิดให้รอบคอบ อย่างที่ พล.ต.ต.สำเริง ท่านว่าก็ดีนะครับ (อิอิ)