ข่าว

แดงเล็งแห่'ศพอากง'ไปทำเนียบฯ-สภา

09 พ.ค. 2555

"เสื้อแดง" เตรียมแห่ "ศพอากง" ไปทำเนียบฯ-สภา 10 พ.ค.นี้ "มาร์ค" เตือนอย่านำมาเป็นประโยชน์การเมือง ชี้คดีต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม ขณะที่ "เมีย-ลูก" รับศพ "อากง" รดน้ำศพหน้าศาลอาญา แพทย์ยัน "มะเร็งตับ" คร่าชีวิต

             เมื่อวันที่ 9 พ.ค. นางสุดา รังกุพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการเคลื่อนไหวให้แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 กล่าวว่า ช่วงเช้าวันที่ 10 พ.ค. จะมีการเคลื่อนขบวนแห่ศพของนายอำพล ตั้งนพกุล หรือ อากง จากบริเวณด้านหน้าศาลอาญา ไปยังทำเนียบรัฐบาล ต่อด้วยรัฐสภา เพื่อประจานความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น และไปจบลงที่วัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ ซึ่งเป็นการสวดอภิธรรมคืนแรก โดยมีกลุ่ม นปช.เป็นเจ้าภาพ
 
              นางสุดา กล่าวด้วยว่า การคุมขังอากงในข้อหาผิดมาตรา112 เกิดจากการตัดสินคดีอย่างไม่เป็นธรรม อีกทั้งโทษของคดีรุนแรงเกินไป เนื่องจากอากงไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดแต่ถูกกล่าวหาว่าส่งข้อความสั้น(เอสเอ็มเอส) ทั้งที่ความจริงอากงส่งไม่เป็น แต่ไม่สามารถหาหลักฐานมาแย้งข้อกล่าวหาของศาลได้ อย่างไรก็ตาม หวังว่าประชาชนจะตื่นตัวกับเหตุการณ์ที่มีการกล่าวหาชายชราคนนี้ด้วย


"มาร์ค"ชี้"คดีอากง"ต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม
        
              นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม โดยทางการต้องพิสูจน์ให้ชัดเพราะเป็นการเสียชีวิต ภายใต้การดูแลของเจ้าพนักงาน อย่าให้คนหยิบเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์ทางการเมือง ส่วนที่นายสุรชัย แซ่ด่าน เสนอให้นำศพมาแห่เรียกร้องถือเป็นหนึ่งตัวอย่างที่พยายามเอาเรื่องนายอำพลมาเป็นเรื่องการเมืองตลอด


จี้"รบ."เร่งทำความเข้าใจ"นิติราษฏร์"ปัดฝุ่น ม.112

              นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่มีคนบางกลุ่มจะปลุกระดมให้มีการล้มม.112 อีกรอบว่า เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องชี้แจงว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม อยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล ซึ่งตนเน้นย้ำมาโดยตลอดในเรื่องนี้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้รักษากฎหมายๆเขียนอย่างไร รัฐบาลต้องอธิบายและดูแลบังคับใช้ให้เกิดความเป็นธรรม  ซึ่งการที่กลุ่มนิติราษฎร์ ยังมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ก็เป็นสิทธิที่จะเคลื่อนไหวแต่รัฐบาลต้องชี้ข้อเท็จจริง


"เมีย-ลูก"รับศพรดน้ำศพหน้าศาลอาญา

              นางรสมาลิน ตั้งนพคุณ หรือ ป้าอุ๊ พร้อมด้วยลูกและญาติ รวมถึงคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งเดินทางมารับศพ นายอำพล ตั้งนพคุณ หรือ"องกง" อายุ 61 ปีผู้ต้องขังคดีหมิ่นเบื้องสูง ซึ่งถูกศาลอาญาฯ พิพากษาจำคุก 20 ปี จากการส่งข้อความสั้น ผิดมาตรา 112 หรือหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ซึ่งเสียชีวิต เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมาด้วยอาการปวดท้องอย่างรุนแรงและถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

              นางรสมาลิน กล่าวว่า เดินทางมารับศพสามีเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดด่านสำโรง จ.สมุทรปราการ เนื่องจากสามีได้สั่งเสียไว้ก่อนเสียชีวิตว่าให้นำศพมาบำเพ็ญกุศลที่วัดนี้ เนื่องจากเป็นห่วงลูกหลาน และยังไม่ได้กำหนดวันฌาปนกิจศพ ส่วนถามว่าโกรธแค้นอะไรหรือไม่ โกรธที่โชคชะตาทำให้เป็นแบบนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าเป็นอุทาหรณ์ที่ดีที่จะนำศพไปรดน้ำศพที่ศาลอาญา เพื่อให้เห็นความสำคัญของการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่าสมควรปล่อยนักโทษที่เจ็บป่วยหนักให้ออกมารักษาตัวนอกเรือนจำ

              “หลังจากนี้ เมื่อทราบผลชันสูตรเสร็จเรียบร้อยจะนำศพออกจากสถาบันนิติเวชพร้อมกับกลุ่มคนเสื้อแดง ซึ่งนำโดย รศ.ดร.สุดา รังกุพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะวิชาอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิชาการเคลื่อนไหวให้แก้กฎหมายอาญามาตรา 112 เพื่อแห่ศพจากสถาบันนิติเวชตำรวจ เพื่อไปทำพิธีรดน้ำศพที่หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษกต่อไป” นางรสมาลิน กล่าว 

              สำหรับการชันสูตรศพนายอำพล พ.ต.อ.พรชัย สุธีรคุณ รรท.ผบก.นต. ได้มีคำสั่งการตั้งคณะกรรมการชันสูตรพลิกศพประกอบด้วย พล.ต.ต.นพ.ณรงศักดิ์ เสาวคนธ์ รองนายแพทย์ใหญ่(สบ 7) เป็นที่ปรึกษา พ.ต.อ.ภวัต ประทีปวิศรุต นายแพทย์(สบ 5) พ.ต.อ.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ นายแพทย์(สบ 4)และพ.ต.ต.เอกสิทธิ์ หงส์แก้ว นายแพทย์(สบ 2) เป็นกรรมการและผู้ผ่าชันสูตร โดยมี นพ.เชิดชัย ตันติศิรินทร์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย นพ.พงษ์ศักดิ์ ภูสิทธิ์สกุล และนพ.กิติภูมิ จุฑาสมิต ผู้ร่วมสังเกตการณ์การชันสูตรศพ

              ทั้งนี้ พ.ต.อ.สุพล จงพาณิชย์กุลธร นพ.(สบ5) ในฐานะโฆษก รพ.ตำรวจ เปิดเผยผลการชันสูตรศพว่า ผู้เสียชีวิตเป็นมะเร็งที่ตับ และกระจายไปทั่วร่างกาย ทำให้มีภาวะการหายใจที่ล้มเหลว อย่างไรก็ตาม หลังการผ่าชันสูตรศพ ต้องรอผลการตรวจชิ้นเนื้อประกอบด้วย

              นพ.เชิดชัย กล่าวภายหลังการชันสูตรศพ ว่า จากการตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย ขณะที่การผ่าชันสูตรศพภายในช่องท้องพบเนื้องอกบริเวณตับ ซึ่งได้ลุกลามยังลำไส้และปอดด้านขวา มีน้ำในช่องท้องจำนวนมาก มีอาการสมองตายเล็กน้อย ซึ่งอาจพอสรุปสาเหตุการเสียชีวิตของนายอำพลได้ว่าน่าจะมาจากมะเร็งระยะสุดท้าย แต่จะเป็นสาเหคุให้เสียชีวิตในทันทีคงไม่สมารถบอกได้ อย่างไรก็ตามการสรุปสาเหตุการเสียชีวิตอย่างเป็นทางการต้องรอแพทย์นิติเวชเป็นผู้สรุป ทั้งนี้ ได้มีการส่งตัวอย่างชิ้นเนื้อ เลือด อาหารในกระเพาะอาหาร น้ำในช่องท้อง และปัสสาวะ ไปตรวจทางพิษวิทยาว่ามีสารพิษซึ่งคาดว่าจะรู้ผลภายใน 1 สัปดาห์

              นพ.เชิดชัย กล่าวต่อไปว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่าอาการป่วยของนายอำพลน่าจะเป็นมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน แพทย์ของรพ.ราชทัณฑ์ น่าจะมีการตรวจรักษา ไม่น่าจะปล่อยให้เป็นเรื้อรังจนลุกลาม ซึ่งเป็นเรื่องของมนุษยธรรม เพราะนักโทษก็เป็นมนุษย์ควรได้รับการดูแลที่ดีกว่านี้ กรณีของนายอำพล เป็นตนมองว่าเป็นความบกพร่องในระบบการทำงาน ซึ่งแพทย์ต้องรักษาตามหลักวิชาการ หากเห็นว่ารักษาไม่ได้ หรือต้องใช้เครื่องมือตรวจพิเศษต้องส่งตัวผู้ป่วยไปรักษาภายนอก ส่วนประเด็นที่ว่ากลัวผู้ต้องขังจะหลบหนีเรื่องนี้สามารถควบคุมได้ ซึ่งเรื่องนี้ตนจะยื่นกระทู้ถาม รมว.กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้มีการปรับปรุงต่อไป

              “เราต้องแยกกันให้ออกระหว่างมนุษยธรรมกับเรื่องคดี หากผู้ต้องขังถูกตรวจพบว่าป่วยเป็นมะเร็งก็ควรได้รับการประกันตัวเพื่อมารักษาภายนอก นอกจากนี้กรณีของนายอำพลเท่าที่ดูไม่พบร่องรอยการดำเนินการใดๆ ของแพทย์ที่แสดงให้เห็นถึงความพยายามในการกู้ชีพ หรือช่วยเหลือ เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นปัญหาในหลายๆอย่าง โดยเฉพาะการดูแลผู้ต้องขังที่จะต้องปรับปรุง”

              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.00 น.ได้มีการเคลื่อนศพนายอำพล ออกจากสถาบันนิติเวชวิทยา เพื่อไปทำพิธีรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมศพที่หน้าศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เป็นเวลา 1 คืน จากนั้นจะเคลื่อนศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลต่อที่วัดด่านสำโรง อ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ

 

"อธิบดีศาลอาญา"เตือนกลุ่มชุมนุมอากงอยู่ในความสงบ


              วันเดียวกัน นายทวี ประจวบลาภ อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวชี้แจงคดีหมิ่นเบื้องสูงที่ขณะนี้ ญาติของนายอำพล ตั้งนพคุณ หรืออากง จำเลยที่ถูกศาลพิพากษาจำคุก 20 ปีเสียชีวิตในเรือนจำได้มารวมตัวเคลื่อนไหวที่หน้าศาลอาญาตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ว่า คดีนี้ศาลอาญา มีคำพิพากษาไปแล้ว และจำเลยได้ยื่นประกันตัวชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลอาญาส่งคำร้องขอประกันตัวให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาสั่ง แต่ระหว่างการพิจารณาชั้นอุทธรณ์ดังกล่าว จำเลยยื่นขอประกันตัวต่อศาลฎีกา ศาลฎีกามีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัววันที่ 15 มี.ค.55 ซึ่งจำเลยคงคิดว่าไม่มีโอกาสได้ประกันตัวอีกแล้ว จำเลยจึงได้ขอถอนอุทธรณ์คดีไปเมื่อวันที่ 3 เม.ย.55 เพื่อจะใช้สิทธิ์ยื่นถวายฎีกาเพราะการถวายฎีกาจะยื่นได้ต่อเมื่อคดีต้องถึงที่สุด ซึ่งศาลอาญาได้ออกหมายคดีถึงที่สุดให้เมื่อวันที่ 4 เม.ย.55 และเมื่อคดีถึงที่สุดก็ไม่อาจยื่นประกันตัวอีกได้เนื่องจากคดีไม่ได้ค้างพิจารณาอยู่ในศาลยุติธรรม ดังนั้นตัวนายอำพลจึงถือว่าอยู่ในการควบคุมของราชทัณฑ์ ซึ่งมีการรักษาพยาบาลของเขาอยู่แล้ว หากจะนำตัวมารักษาข้างนอกก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้ควบคุม

              แต่เมื่อนายอำพลเสียชีวิตไม่ว่าด้วยสาเหตุใด ก็ถือว่าตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงาน ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา150-156 กำหนดให้อัยการยื่นคำร้องไต่สวนชันสูตรพลิกศพได้ เพื่อหาสาเหตุการตาย ซึ่งหากมีการยื่นคำร้องก็ต้องเข้าสู่กระบวนการไต่สวนต่อไป

              นายทวี กล่าวถึงการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณศาลด้วยว่า ได้ประสานงานกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลแล้ว โดยตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถห้ามการชุมนุมหน้าศาลได้ แต่จะจัดกำลังมารักษาความปลอดภัยให้ ซึ่งตนขอให้อยู่ในความสงบเรียบร้อย เพราะศาลเป็นสถานที่ราชการ และขออย่าให้นำศพมาในศาล ซึ่งวันพรุ่งนี้ศาลก็จะเปิดทำการปกติหากจะมีอะไรยืดเยื้อก็อาจเกิดความไม่สงบหรืออาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปได้ โดยขณะนี้ตนพยายามให้ผู้เกี่ยวข้องประสานถึงนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ นายจตุพร พรหมพันธุ์ นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานนปช.เพื่อช่วยประสานงานในเรื่องนี้แล้วแต่ยังไม่อาจติดต่อได้ อย่างไรก็ดีขอให้ระวังอย่าให้เกิดความไม่เรียบร้อยไม่งดงามบริเวณศาล ซึ่งการกระทำอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อรัฐบาลด้วย