
ลูกกรอก-กุมารทอง
ลูกกรอก-กุมารทอง : เสรีภาพและความรับผิดชอบ โดยนายประชา ช้ำชอก [email protected]
สำหรับปัญญาชน คนที่พอมีสติสัมปชัญญะ วิจารณญาณอยู่บ้างแล้ว ไม่ได้เห็นเป็นเรื่องเหลือเชื่อ อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใดเลย กับข่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจยึดซากทารกจากคนไต้หวัน ซึ่งนัยว่าได้ผ่านการปลุกเสกเป็นลูกกรอก-กุมารทองมาแล้วด้วย
แน่นอนข่าวพรรค์นี้ ย่อมต้องมีเรื่องราวเป็นสูตรสำเร็จตามมาว่า วิญญาณเด็กเฮี้ยน สำแดงฤทธิ์สำแดงเดช อวดอภินิหาร เที่ยวหลอกหลอนอาละวาด คนนั้นได้ยินเสียงออกมาวิ่งเล่นบ้าง คนนี้ได้ยินเสียงร้องไห้อุแว้ๆ บ้าง ฯลฯ ขนลุกขนพอง สยองเกล้าไปตามๆ กัน
กลายเป็นเรื่องอื้อฉาวข่าวใหญ่โต
แปลกที่ข่าวอันเป็นสูตรสำเร็จประเภทนี้ ยังขายดิบขายดี เป็นที่สนอกสนใจของประชาชนคนจำนวนไม่น้อยในประเทศนี้ ทั้งๆ ที่รัฐบาลอวดโอ่ความสำเร็จในนโยบายการศึกษาของชาติ นักการเมืองสรรเสริญเยินยอว่าประชาชนไม่ได้โง่ ใครก็หลอกไม่ได้ นักวิชาการมักจะตอบโต้อยู่เสมอ อ้างว่า อย่าดูถูกประชาชน
ส่วนชาวบ้านรากหญ้าหรือ ต่างพากันบอกว่า ตัวเองตาสว่างแล้วทั้งสิ้น
แต่ประหลาด ที่ผู้คนในบ้านนี้เมืองนี้ยังคงหลงเชื่ออยู่กับผีสางนางไม้ ข่าวลูกกรอก-กุมารทองอวดอิทธิฤทธิ์อภินิหารยังขายได้
ไม่เฉพาะภูติผีปีศาจที่จับต้องไม่ได้ มองไม่เห็นเท่านั้น ผู้คนยังกราบไหว้ได้กระทั่งต้นหมากรากไม้ ซากสัตว์พิกลพิการ
อย่าว่าแต่จบปริญญาตรีเลย กระทั่งดอกเตอร์จำนวนมากมาย ยังหลงใหลได้ปลื้ม งมงายไปกับความเชื่อ ศรัทธาในสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ หรือด้วยหลักวิชาอันเป็นเหตุเป็นผล
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจะอธิบายอย่างไร?
สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาทางปัญญา ความรู้ ที่หยั่งรากฝังลึกลงไปในสังคมไทย โดยมีคนกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์จากความไม่รู้เสียด้วย
ความไม่รู้จึงกลายเป็นผลประโยชน์ของคนบางกลุ่ม
เพื่อรักษาผลประโยชน์จากความไม่รู้ คนบางกลุ่มจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อธำรงไว้ซึ่งความไม่รู้ โดยนอกจากจะไม่ส่งเสริม ไม่สนับสนุน ขัดขวางการแสวงหาปัญญา ความรู้แล้ว
ความจริงยังเป็นเรื่องต้องห้าม พูดไม่ได้อีกด้วย
และเพราะมีปัญหาเกี่ยวด้วยปัญญา ความรู้ เป็นพื้นฐานเสียแล้ว ประเด็นต่างๆ จึงเป็นปัญหาทั้งโครงสร้างตั้งแต่ฐานราก
ดังนั้น ต่อให้แก้ไขรัฐธรรมนูญกันกี่ครั้ง ปรองดองกี่หน ปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจและสังคมอย่างไรก็ไม่ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแท้จริง
ตราบเท่าที่สังคมไทยไม่สามารถพูดความจริงได้อย่างหมดเปลือก ไม่ยอมรับการถกเถียงทางปัญญา ไม่สามารถแสวงหาความรู้อย่างถึงที่สุดได้
พยายามขัดขืน ฝืนทุรังกัน ทั้งๆ ที่รู้อยู่ว่าไม่วันใดวันหนึ่งก็ต้องเปลี่ยนแปลง
แม่มดหมอผี ทั้งหน้าสวย หน้าเหลี่ยม หน้าหล่อ ตลอดจนพวกลูกศิษย์ ไอ้ห้อย-ไอ้โหน ทั้งที่ใส่เสื้อเหลืองหรือเสื้อแดงนี่แหละตัวดี หากินกับภูติผีปีศาจ ความไม่รู้ และความกลัวของประชาชน