หนุ่มออสเตรเลียมาเจอรักสาวโรงพิมพ์ | คมชัดลึก

               ชีวิตเมื่อวัยเพียง 20 ปีเศษ "ณฐมน เหมือนเแก้ว" หรือ "กุ้ง" สาวชาวบ้านจาก อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ดำเนินไปแบบกระท่อนกระแท่นตามอัตภาพของสาวชนบท ความรู้แค่ ม.3 ที่หมดโอกาสเรียนเพื่อให้น้องได้เรียนต่อ ไปทำงานเป็นลูกจ้างในร้านขายเครื่องครัว งานแบกหาม ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาจุนเจือ ช่วงนั้นพบรักกับหนุ่มคนงานด้วยกัน แต่อยู่ด้วยกันไม่นานก็ต้องเลิกรากัน เพราะเป็นรักแบบเด็กๆ

              "ไม่คิดว่าชีวิตจะพลิกผันมามีความสุขอย่างทุกวันนี้"

               เมื่อวันหนึ่งขณะทำงานที่โรงพิมพ์แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ทำงานทุกอย่างทั้งทำความสะอาดบ้าน เลี้ยงเด็ก และงานในโรงพิมพ์ ตามที่ได้รับมอบหมาย "ไมเคิล เมดิสัน" ขณะนั้นอายุ 40 ปี ชาวออสเตรเลีย เจ้าหน้าที่บริษัทขุดเจาะน้ำมัน ดูแลรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยในการทำงาน ได้มาที่โรงพิมพ์เพื่อติดต่อพิมพ์คู่มือการรักษาความปลอดภัยในการทำงาน ระหว่างคุยกับเจ้าของโรงพิมพ์ "ณฐมน" ทำงานอยู่คอยหยิบจับตามที่เจ้าของเรียกใช้

               รอยยิ้มและเสียหัวเราะของหญิงสาวทำให้โลกดูสดใส "ไมเคิล" สนใจหญิงไทยคนนี้ขึ้นมาทันที

              "วันแรกที่เจอคุณไมเคิลเขาเดินเข้ามาดูงาน เลือกกระดาษ เราก็ยืนอยู่ข้างๆ เขา ตื่นเต้น เพราะไม่เคยได้ใกล้ชิดกับฝรั่งแบบนี้ ช่วงนั้นยังพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ยิ้มอย่างเดียว จะคุยแซวเขาเป็นภาษาไทย เขาก็ไม่รู้เรื่อง ก็คุยกับสาวๆ ที่ทำงานด้วยกันว่า เขาหล่อ หน้าตาดี แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะเป็นแฟนกัน คิดว่าเขาคงไม่สนใจ ส่วนเราเองก็เจียมตัวคิดว่าไกลเกินเอื้อมที่จะคบกัน"

               ความสุขุมและเป็นสุภาพบุรุษของไมเคิล ไม่ทำให้ณฐมนระแคะระคายว่าชายหนุ่มตาน้ำข้าวสนใจสาวน้อยบ้านนายิ้มง่ายคนนี้ ไม่นานเขาให้เพื่อนชาวไทยมาสอบถามชีวิตครอบครัว ความเป็นอยู่ เพราะต้องการรู้จักหญิงสาวมากขึ้น

              "ช่วงหลังๆ พอคุณไมเคิลเขามาที่โรงพิมพ์ ก็เข้ามายืนยิ้มใกล้ๆ กับเรา พยายามพูดคุยกัน ไม่ได้คิดอะไร เพราะเขาสุภาพ นิ่งๆ ไม่ทำเจ้าชู้ เป็นสุภาพบุรุษมาก ช่วงใกล้ๆ ปิดงานเพื่อนคุณไมเคิลกับภรรยาคนไทยมาดูงานที่มาว่าจ้างไว้ เขาเข้ามาถามไถ่เราเรื่องครอบครัว ชีวิตความเป็นอยู่ ก็เล่าให้ฟังหมดทุกเรื่องทั้งเรื่องที่บ้าน ภาระครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ คิดว่าเขาพูดคุยตามประสา มาทราบทีหลังว่าคุณไมเคิลให้เพื่อนมาถาม เพราะสนใจและอยากรู้จักมากขึ้น จนมาระแคะระคายช่วงที่เขาโทรศัพท์มาคุยกับเถ้าแก่แล้วถามถึงตลอดว่า เราสบายดีไหม เถ้าแก่ก็บอกว่า สงสัยคุณไมเคิลจะชอบเราแล้ว"

             เมื่องานตีพิมพ์คู่มือแล้วเสร็จ ชายหนุ่มจัดงานเลี้ยงให้พนักงานของโรงพิมพ์ การแสดงออกและการให้ความสนใจทำให้ณฐมนมั่นใจว่า ชายหนุ่มฝากรักไว้แล้ว จนกระทั่งทั้งสองคนมีโอกาสได้พูดคุยเปิดใจถึงความรู้สึกที่มีให้กัน

              "ชวนคุณณฐมนไปกินข้าวกันสองคน บอกเขาว่า ชอบนิสัยใจคอเขา อยากให้มาเป็นคู่ชีวิต ชวนเขาไปอยู่ด้วยเลย ณฐมนก็ขอเวลาตัดสินใจก่อน เพราะถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ ผมก็บอกเขาว่าผมเป็นคนดี สัญญาว่ารักจริงและพร้อมที่จะดูแลเขาและครอบครัวให้มีความสุข"

              วันต่อมาคุณไมเคิลมาหา เราคุยกันทั้งหมด 4 คน มีเพื่อนของไมเคิล และเถ้าแก่ของเราด้วย ต้องคุยผ่านล่าม เพราะพูดภาษาอังกฤษได้น้อย ทุกคนต่างเห็นด้วยเพราะคุณไมเคิลเป็นคนดี รักจริง ต้องการให้เราไปอยู่ด้วย วันนั้นก็เลยบอกเขาไปทั้งหมดว่าเรามีภาระอะไรบ้าง เขาก็เข้าใจพร้อมที่จะดูแลและรับผิดชอบภาระทั้งหมด จึงตัดสินใจตกลงใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน

                จากนั้นทั้งคู่จึงเดินทางกลับบ้านที่ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อแนะนำตัวให้ลูกเขยฝรั่งให้รู้จักกับพ่อแม่ ท่ามกลางความกังวลของพ่อแม่ เพราะกลัวว่าลูกเขยจะอยู่จะกินอาหารแบบชาวบ้านไม่ได้

               "พ่อแม่ของณฐมนนั่งเงียบไม่มีใครพูดอะไรกัน ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะภาษา ผมไม่สนใจว่าบ้านเขาจะเล็กหรือใหญ่ แต่สิ่งที่ผมนับถือพ่อกับแม่คือ ท่านทั้งสองคนมีความขยัน มุมานะ และสามารถเลี้ยงลูกได้ถึง 8 คนให้โตขึ้นมาเป็นคนดีของสังคม สิ่งเดียวที่พ่อขอจากผม คือ ให้ทำพิธีขอขมาที่เราสองคนอยู่กันก่อนแต่ง ท่านบอกให้ผมและภรรยาเตรียมเงิน 12 บาท ไก่ 1 ตัว เหล้าขาว 1 ขวด และดอกไม้ธูปเทียน แล้วท่านก็ผูกข้อไม้ข้อมือให้ บอกว่า ถือเป็นการแต่งงานไปด้วย จากนั้นท่านก็อวยพรให้เราทั้งสองคนอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข"

                  ปัจจุบัน ณฐมน ในวัย 33 ปี ไมเคิลวัย 49 ปี ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมานาน 9 ปีแล้ว ทั้งคู่ต่างเรียนรู้ปรับตัวเข้าหากัน ดูแลซึ่งกันและกันด้วยความรัก ทำให้ไม่เคยทะเลาะกันรุนแรง เพราะทุกครั้งที่เข้าใจผิดจะพูดคุยปรับความเข้าใจทันที เพื่อให้ชีวิตครอบครัวอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข

                 "หลังจากที่แต่งงานกับคุณไมเคิล มีเพื่อนบ้านทั้งสาวน้อยสาวใหญ่ รวมถึงเพื่อนของสามีที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน ต้องการให้แนะนำรู้จักกับหญิงไทยหรือชายต่างชาติ หลายคนบอกว่า ต้องการมีครอบครัวที่มีความสุข มีคนดูแลเอาใจใส่แบบเรา แนะนำให้รู้จักกันจนแต่งงานสร้างครอบครัวไปแล้วหลายคู่ ช่วงนั้นจะเป็นที่ร่ำลือกันในหมู่เพื่อนฝูงของเราทั้งสองฝ่ายว่า หากใครต้องการมีคู่ชีวิตที่ดี ให้มาหาภรรยาคุณไมเคิลเขาจะช่วยหาผู้หญิงดีดีให้ได้"

                และนี่คือจุดเริ่มต้นของการเปิดบริษัท มีทมีนาวแบงค็อค จำกัด เพื่อจัดหาคู่หญิงไทย สามีต่างชาติอย่างเป็นระบบ เป็นการช่วยเหลือหญิงไทยไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่อาจเข้ามาหลอกลวงได้ "ณฐมน-ไมเคิล" ยังได้ถ่ายทอดประสบการณ์จริงบอกเล่าเผยแพร่ผ่านในแบบรูปเล่ม ทั้งบอกเล่าเรื่องราวธรรมเนียมฝรั่ง เรื่องน่ารู้เมื่อแต่งงานกับชาวต่างชาติ ข้อพึงระวังสำหรับหญิงไทยในการคุยผ่านออนไลน์ป้องกันการถูกหลอกลวง สามารถดูข้อมูลอื่นและดาวน์โหลดได้ที่ http://www.meetfarangmen.com

              "เมื่อแต่งงานอยู่กินกับชาวต่างชาติแล้ว นอกจากต้องมีความจริงใจ ดูแลเอาใจใส่ครอบครัว ไม่ทำตัวเป็นภาระให้สามีแล้ว อย่าคิดว่าเป็นภรรยาฝรั่งจะสบาย ต้องหางานทำรวมถึงขวนขวายหาความรู้ตลอดไม่หยุดนิ่งกับที่ นอกจากจะเป็นการเพิ่มพูนความรู้แล้ว ยังเป็นการเพิ่มคุณค่าให้ตัวเองด้วย" ณฐมนบอก

..........................................
(ชีวิตลิขิตแล้ว หนุ่มออสเตรเลียข้ามฟ้ามาเจอรักสาวโรงพิมพ์ : คอลัมน์เขยฝรั่ง สะใภ้อินเตอร์ : โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน/กวินทรา ใจซื่อ)