
เจาะลึก..ขบวนการโกงสอบตำรวจ(2)
เจาะลึก..ขบวนการโกงสอบตำรวจ(2) : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ
จากข้อเสนอ "ช่วยให้สอบได้" แต่ต้องจ่ายมัดจำก้อนแรก 3 หมื่นบาท หาก "สอบได้" ค่อยจ่ายเพิ่มอีก 4.7 แสนบาท รวมเบ็ดเสร็จ 5 แสนบาท เพื่อซื้อหนทางก้าวหน้าในอาชีพ "ตำรวจ"..ผู้ทุจริตการสอบ 217 ราย จากผู้สมัครสอบ 278,063 ราย ประมาณการเป็นเม็ดเงินนับร้อยล้านบาทที่ไหลเข้าสู่กระเป๋าของขบวนการโกงสอบตำรวจนั้น จะขอโฟกัสไปที่ "การทุจริตในห้องสอบ" ซึ่งเป็นเสมือน "หัวใจ" ของขบวนการโกงสอบครั้งนี้ จะมีอยู่ 2 ขั้นตอนสำคัญ คือ "เฉลยข้อสอบ" และ "บอกข้อสอบ"
ชั่วโมงแรกของการทำข้อสอบ ผู้สมัครสอบ ซึ่งได้เครื่องรับสัญญาณที่ซุกซ่อนอยู่ตามร่างกาย จะแค่อ่านข้อสอบไปเรื่อยๆ รอให้ขบวนการทุจริตทำการ "เฉลยข้อสอบ" ก่อน โดยอันดับแรกจะต้องทำทุกวิธีทางเพื่อให้ได้ "ข้อสอบตัวจริง" มานับสระและวรรณยุกต์ของคำถามข้อแรกในแต่ละชุด เพื่อนำมาเป็นรหัสบอกให้แก่ผู้ที่เข้าสอบรู้ว่า "คำตอบที่กำลังจะบอกเป็นคำตอบของข้อสอบชุดไหน"
แม้ว่าข้อสอบทั้งหมดจะมี 8 ชุด แต่ทั้งหมดก็เป็นข้อสอบเดียวกัน เพียงแต่สลับข้อกันเท่านั้น วิธีการนับสระและวรรณยุกต์ของคำถามจึงเป็นสิ่งที่สามารถบอกว่า คำตอบที่ถูกส่งไปให้ผู้เข้าสอบเป็นคำตอบของชุดไหน?!!
ขั้นตอนการ "เฉลยข้อสอบ" นี้ อาจใช้วิธีจ้างคนที่เรียกกันว่า "มือปืน" ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนแรกรับจ้างเข้าไปสอบแล้วฉกข้อสอบออกมา บางครั้งซ่อนกล้องเล็กๆ อาทิ กล้องกระดุม กล้องปากกา กล้องดินสอ และกล้องยางลบ เป็นต้น เข้าห้องสอบ เพื่อถ่ายข้อสอบออกมาแล้วส่งสัญญาณภาพให้ "มือปืน" อีกคน "เฉลยข้อสอบ" โดยมี "มือปืน" อีกคนทำหน้าที่ส่งสัญญาณให้ผู้ที่เข้าสอบผ่านอุปกรณ์รับ-ส่งสัญญาณ หรืออาจลดขั้นตอนใช้ "มือปืนหัวกะทิ" เข้าไปทำข้อสอบ แล้วทำทุกวิธีทางส่ง "คำตอบ"ให้มือปืนอีกคน
จึงเข้าสู่ขั้นตอน "บอกข้อสอบ" ด้วยการส่งสัญญาณลักษณะคลื่นวิทยุเข้ามาแบบสั่นยาวๆ 1 ครั้ง นั่นหมายความว่า "พร้อม" แล้ว จะเว้นช่วงระหว่างข้อไม่นาน แล้วจะ "สั่นสั้นๆ" ครั้งเดียวหมายถึงคำตอบ "ข้อ ก" การสั่นสองครั้งหมายถึงคำตอบ "ข้อ ข" การสั่นสามครั้งหมายถึงคำตอบ "ข้อ ค" และการสั่นสี่ครั้งหมายถึงคำตอบ "ข้อ ง" หลังจากบอกข้อสอบเสร็จแล้ว จะสั่นยาวๆ 1 ครั้งหมายถึง "เสร็จสิ้น" จากนั้นจะเว้นระยะไม่กี่นาที ก็จะย้อนทำเหมือนครั้งแรกอีกครั้ง เพื่อตรวจทานว่าทำข้อสอบถูกที่เฉลยถูกหรือไม่
"บางครั้งขบวนการทุจริตสอบจะว่าจ้างบุคคลสวมรอยเป็นผู้มีสิทธิ์สอบตัวจริงเข้าไปสอบแทน และปลอมแปลงบัตรประชาชนให้ตัวแทนที่เข้าสอบทุกคน โดยให้ค่าจ้างสอบแทนรายละ 2.2 หมื่นบาท จ่ายก่อน 2,000 บาท หากสอบผ่านจะได้รับเงินส่วนที่เหลืออีก 2 หมื่นบาท จากนั้นนัดหมายตัวแทนมาพบกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เหมารถตู้เดินทางไปยังสนามสอบต่างจังหวัด เมื่อเดินทางมาที่สนามสอบเพื่อเตรียมยื่นเอกสารเข้าสอบ แต่เกิดความผิดพลาดกับผู้จ้างวาน ทำให้ถูกเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจสอบเอกสารพบพิรุธ จนนำไปสู่การจับทุจริตในครั้งนี้" แหล่งข่าวชุดสืบสวนสอบสวนกล่าว
สำหรับเครื่องมืออุปกรณ์ที่ช่วยทุจริตการสอบตำรวจครั้งนี้ นายวิบูลย์ศักดิ์ หรือ อบ แสงจักร์ เป็นผู้สั่งประกอบเครื่องรับ-ส่งสัญญาณจากบริษัท 4 แห่ง ซึ่งรับผลิตแผ่นวงจรขนาดใหญ่ ผลิตแผ่นวงจรขนาดเล็กตามรายการสั่งของลูกค้า และนำแผ่นวงจรพิมพ์มาประกอบเป็นเครื่องรับส่งสัญญาณ
"บริษัทแห่งแรก ทำหน้าที่จัดจำหน่าย GSM MODULE ให้ลูกค้า อุปกรณ์ดังกล่าวใช้ในการเชื่อมต่อข้อมูล โดยระบบสัญญาณโทรศัพท์ เปรียบเหมือนเป็นโมเด็มอินเทอร์เน็ต ที่ใช้สัญญาณจีพีอาร์เอส เป็นตัวเชื่อม จากนั้นตัวส่งสัญญาณคลื่นวิทยุมีหน้าที่รับและส่งข้อมูลที่ได้รับจากตัว GSM MODULE ที่มีการสั่งงานมาจากเครื่องแม่ผ่านระบบเครือข่ายโทรศัพท์ในลักษณะ "รหัส" ซึ่งตัวส่งสัญญาณวิทยุจะมีชิพประมวลคำสั่งที่ได้รับและส่งคลื่นวิทยุไปยังตัวรับในลักษณะการสั่นตามโปรแกรมที่ได้ตั้งไว้ ส่วนตัวรับสัญญาณวิทยุ ซึ่งผู้สมัครสอบแอบพกเข้าห้องสอบ ทำหน้าที่สั่นเพื่อแสดงคำตอบข้อสอบ ในตัวอุปกรณ์จะมีไอซี กำหนดค่าความถี่วิทยุ และไอซี คำสั่งซึ่งมีค่าและเบอร์เดียวกันกับที่ติดตั้งลงในชุดส่งสัญญาณ ซึ่งเบอร์และค่าต่างๆ จะถูกขูดลบเพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ" แหล่งข่าวชุดสืบสวนสอบสวนด้านเทคนิคกล่าว
จากนี้ไป..คงเป็นช่วงเวลาไล่ล่าขบวนการโกงสอบตำรวจมาลงโทษตามกฎหมายให้สิ้นซากเสียที แล้วเปิดโอกาสให้ "ตำรวจเลือดใหม่" ที่ใช้ความสามารถของตัวเอง ก้าวสู่อาชีพตำรวจอย่างภาคภูมิใจ!!
...........
(หมายเหตุ : เจาะลึก..ขบวนการโกงสอบตำรวจ(2) : ตะลุยข่าว โต๊ะรายงานพิเศษ)