ข่าว

จนท.รื้อถอนรีสอร์ทบุกรุก'ทับลาน'แล้ว

จนท.รื้อถอนรีสอร์ทบุกรุก'ทับลาน'แล้ว

28 ก.ค. 2555

จนท.ปฎิบัติการรื้อถอนรีสอร์ทบุกรุกทับลาน นำร่องรีสอร์ทบ้านทะเลหมอก 200 ห้องพัก ผู้ประกอบการครวญเจ้าหน้าที่รัฐไม่รอคำสั่งศาลปกครอง

                    28 ก.ค.55 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คืนวันที่ 27 ก.คที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จากกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช  รวม 3,000 นาย  ได้มารวมตัวอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เพื่อรับคำสั่งจาก นายดำรง  พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เข้าทำการรื้อถอน รีสอร์ทผิดกฎหมายที่บุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ในเขตรอยต่อ จ.ปราจีนบุรี  และ   จ.นครราชสีมา  จำนวน 9 แห่ง ที่ศาลมีคำสั่งให้รื้อถอน ซึ่งรีสอร์ทดังกล่าว อยู่ในเขต อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา จำนวน 7 แห่ง และอยู่ในเขต อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี จำนวน 2 แห่ง ซึ่งในจำนวน 2 แห่ง นี้ มีรีสอร์ทหรู คือบ้านทะเลหมอก  ซึ่งเป็นรีสอร์ทขนาดใหญ่ มีห้องพักรวม  200 ห้อง

                  ทั้งนี้ ขณะที่มีการเคลื่อนกำลังเข้ารื้อถอนของเจ้าหน้า ได้มีการต่อต้านจากผู้ประกอบการและกลุ่มมวลชน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ที่ทำงานในรีสอร์ท โดยมีกลุ่มชาวบ้านรวม  30 คน นำยางรถยนต์มาจุดไฟเผาขวางเส้นทางที่จะขึ้นรีสอร์ทบ้านทะเลหมอก และอีกส่วนหนึ่งกว่า 100 ปักหลัก ก่อนถึงรีสอร์ทโดยการนำรถยนต์มาจอดขวางทางพร้อมทั้งตรวจตรารถที่จะผ่านเข้าออก ขณะที่กำลังเจ้าหน้าที่ที่แบ่งออกเป็น 9 ชุด ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่รีสอร์ท

                 ด้านนายดำรง  พิเดช อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช  ได้สั่งให้เจ้าหน้าที่นำเครื่องจักรกลหนักเข้าทำลายทันที  ทั้งที่ขณะนั้น นายสมชาย  เพ็ญป้อนกุล และนางวไลลักษณ์  วิชชาบุญศิริ เจ้าของรีสอร์ทะเลหมอก พยายามที่จะเข้ามาชี้แจงกับ นายดำรง  และนำหนังสือที่ขออนุญาตเข้าไปดำเนินกิจการท่องเที่ยวเมื่อครั้ง นายดำรง เป็นรองอธิบดีกรมป่าไม้ รักษาการอธิบดีกรมอุทยาน ฯ มาให้ดู แต่นายดำรง  ก็ยืนยันคำสั่งรื้อถอน

               "การเข้ารื้อรีสอร์ท บ้านทะเลหมอก และ รีสอร์ทอื่นๆ เป็นการทำหน้าที่ตามคำสั่งศาล ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งใคร เมื่อบุกรุกก็ต้องเอาที่ดินคืน" นายดำรง กล่าว

                 นายสมชาย  เพ็ญป้อนกุล เจ้าของรีสอร์ทะเลหมอก กล่าวว่า  พื้นที่ดังกล่าวซื้อต่อมาจากชาวบ้านที่หลักฐานแสดงชัดเจน  จนมารู้ภายหลังว่าอยู่ในพื้นที่อุทยานที่มีการผ่อนปรน ไม่ได้อยู่เลยเขตอุทยาน  ซึ่งต่อมาได้มีการตรวจความเป็นมาถึงเรื่องการก่อสร้างอาคาร ต่อมาอธิบดีเก่า  แนะนำว่าให้รีบมอบอาคารให้กรมป่าไม้ เพื่อจะได้มีการพิจารณาให้เช่า และจะไม่บังคับคดีต่อ โดยจะไม่ใช้ มาตรา 22 ในการรื้อถอน แต่หลัง นายดำรง มาเป็นอธิบดีกลับยกเลิกทั้งหมดพร้อมกับอ้างคำสั่งศาลถึงที่สุด ไม่ยอมรับพิจารณาที่ผู้ประกอบการที่ยื่นศาลปกครองให้ไต่สวนฉุกเฉินเมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2555 และนัดฟังคดีวันที่ 14 ส.ค. 2555  แต่ก็มาถูกรื้อถอนดังกล่าว             

 

...............................................

(หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มข่าว)