
ช่างกลโหดชักปืนยิงเทคโนดับ1
เด็กช่างกลโหด ชักปืนยิงเทคโนฯ ดับ 1 ศพ ก่อเผารถจักรยานยนต์ ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดี
วันที่ 10 ส.ค.55 เมื่อเวลา 03.30 น. พ.ต.ท.สมภพ สุภาพร สารวัตรเวร สภ.เมืองสมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธปืนยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าโกดังตากหนังสัตว์ ใกล้ปากทางเข้าหมู่บ้านเมฆฟ้าวิว ถนนสุขุมวิทหลักกิโลเมตรที่ 32 หมู่ 2 ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนมูลนิธิร่วมกุศลสมุทรปราการเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุได้พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ คาวาซากิ วิบากเล็ก รุ่น BXE สีดำ-แดง ทะเบียน อตร-369 กทม. ซึ่งล้มคว่ำอยู่ข้างถนนจึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลตำบลบางปู มาทำการฉีดน้ำดับเพลิงใต้รถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้พบมีกระป๋องสีสเปรย์ซุกอยู่ด้านล่าง ห่างจากจุดรถจักรยานยนต์ถูกเผาประมาณ 50 เมตรได้พบศพ นายระพีภัทร สุดสมัย อายุ 17 ปี อยู่บ้านเลขที่ 165 / 45 หมู่ 7 ตำบลแพรกษาใหม่ อำเภอเมืองสมุทรปราการ นักเรียน ปวช.ปี 2 แผนกช่างกล ภาคค่ำโรงเรียนชำนิเทคโนโลยี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไมทราบขนาดเข้าที่กลางหลังกระสุนทะลุหน้าอก จำนวน 1 นัด นอนจมกองเลือดเสียชีวิตในสภาพนอนคว่ำหน้า สวมกางเกงยีนส์สีดำขายาว สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่ามี 3 รายเพื่อนผู้ตายได้ช่วยกันนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลรัทรินทร์บางปู และโรงพยาบาลสมุทรปราการ ชื่อนาย ไผ่, นายนิว และนายกัน (ทั้งหมดนามสมมุติ) อายุ 16-17 ปี นักเรียน ปวช.และปวส. ปี 1 และปี 2 แผนกช่างกล ภาคค่ำ โรงเรียนชำนิเทคโนโลยีถูกยิงเข้าที่หลังข้างซ้าย หัวไหล่ขวา และศีรษะ คนละ 1 นัด อาการสาหัสแพทย์ได้นำเข้ารักษาในห้องไอซียู
ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุได้พบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 6 ปลอก ปลอกลูกซองเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอก และปลอกลูกปืนขนาด .38 จำนวน 1 ปลอกกระปืนลูกซองพกสั้นแบบไทยประดิษฐ์ จำนวน 2 กระบอก ซึ่งซุกอยู่ใต้ร้ายขายไก่ย่างอีก 1 ปลอก พร้อมลูกระเบิดปิงปองจำนวน 2 ลูก เจ้าหน้าที่จึงเก็บเอาไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณตี 3 ได้พบเห็นกลุ่มชายวัยรุ่นกว่า 20 คนได้ขับรถยนต์กระบะ 4 ประตูสีบอร์นทอง ไม่ทราบสียี่ห้อและทะเบียน ได้ขับมาจอดที่ข้างกำแพงตากหนังสัตว์ที่เกิดเหตุ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดจะลงมาจากรถช่วยกันเอาสีสเปรย์สีแดง มาพ่นข้อความบนกำแพงดังกล่าว หลังพ่นเสร็จได้กลับรถมาจอดซุ่มอยู่ฝั่งตรงข้าม โดยมีรถยนต์กระบะไม่ทราบสียี่ห้อ อีกคันหนึ่ง พร้อมด้วยกลุ่มรถจักรยานยนต์อีกประมาณ 20 คัน มาสมทบ จนกระทั่งพักใหญ่ได้เห็นกลุ่มผู้ตายขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนท้ายกันมาคันละ 2 คน จำนวน 3 คัน มาจอดที่เกิดเหตุและเข้ามาอ่านข้อความและตะโกนด่าคนที่มาพ่นโลโก้ของโรงเรียนกรุงเทพช่างกลภาคค่ำ และข้อความว่า 10 ส.ค. "วันหมาตายหมู่"
หลังจากนั้นกลุ่มผู้ตายได้คว้าเอาสีสเปรย์ ที่กลุ่มผู้ก่อเหตุวางทิ้งเอาไว้ มาพ่นทับข้อความดังกล่าว ในระหว่างนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุซึ่งจอดรถซุ่มรออยู่ฝั่งตรงข้ามได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดยิงกราดใส่กลุ่มผู้ตายประมาณ 10 นัด และกลุ่มรถจักรยานยนต์ที่มาสมทบกับผู้ก่อเหตุ ได้ขับรถย้อนศรขึ้นมาหากลุ่มผู้ตายก่อนใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ตายอีกหลายนัด ก่อนที่จะช่วยกันลากเอารถจักรยานยนต์ของกล่มผู้ตาย มาจุดไฟเผาและพากันหลบหนีไป สิ้นเสียงปืนพบว่ามีผู้ถูกยิงจำนวน 4 ราย หลังเพื่อนผู้ตายตั้งสติได้เข้ามาช่วยหันนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ตายถูกยิงจากด้านหลังจนล้มทั้งยืนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
ในขณะที่เพื่อนผู้ตายได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วงหัวค่ำของวานนี้ผู้ตายและพวกอีก 7 คนได้ตั้งวงดื่มเหล้าอยู่ที่บ้านเพื่อนในซอยนิคมอุสาหกรรมบางปู ได้มีนักเรียนรุ่นน้องโทรมาบอกว่า นักเรียนกรุงเทพช่าง เอาสีสเปรย์มาพ่นข้อความท้าทายที่บนกำแพงดังกล่าว จึงได้ชวนกันขับรถจักรยานยนต์มาดู ได้พบข้อความท้าทายบนกำแพง จึงได้ช่วยกันเอาสีสเปรย์ที่ถูกทิ้งอยู่ใกล้กำแพงมาพ่นสีทับเพื่อลบข้อความดังกล่าว ขณะที่ช่วยกันพ่นสีลบข้อความได้เพียง 3 คำ กลุ่มนักเรียนกรุงเทพช่างซึ่งมาซุ่มดัดรออยู่ก่อนแล้วที่ฝั่งตรงข้ามได้ใช้อาวุธปืนยิงกราดเข้ามาในกลุ่มพวกตนนับสิบนัด แต่แรงกระสุนไม่แรงพอจึงยิงมาไม่ถูกคนร้ายที่เหลือจึงขี่รถจักรยานยนต์ย้อนเข้ามาหาพวกตนก่อนที่จะชักอาวุธปืนไม่ทราบขนาด กระหน่ำยิงใส่จนมีผู้บาดเจ็บ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่า ผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มนักเรียนคู่อริที่มาดักรอทำร้ายโดยอาศัยความมืดในการลงมือ หลังก่อเหตุได้หลบซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาต่อไป