ข่าว

ดารารุ่นเก่าร่วมรดน้ำศพ'ภาวนา'

ดารารุ่นเก่าร่วมรดน้ำศพ'ภาวนา'

11 ก.ย. 2555

ผบช.สพฐ.นำทีมลงพื้นที่สูบน้ำออกจากบ่อหาหลักฐานการตายของ "ภาวนา ชนะจิต" เผยรูปการณ์เข้าข่ายจมน้ำตาย ฝ่ายเพื่อนชายที่อยู่กินมาเปิดใจสุดแค้นที่ถูกครอบครัวดาราดังตราหน้าเป็นแมงดา ยันต้องได้ส่วนแบ่งสมบัติจากบุตรบุญธรรม ดารารุ่นเก่าร่วมพิธีรดน้ำศพแน่ที่วัดมกุ

             จากการเสียชีวิตอดีตดาราดังไข่มุกแห่งเอเซีย นางสาวอรัญญาภรณ์ เหล่าแสงทอง หรือ ภาวนา ชนะจิต  อายุ 69 ปี เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 44/22 หมู่ 1 ริมถนนสายบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม  มีผู้พบศพในเวลา 03.00 น. วันที่ 10 ก.ย.นั้น

              เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 กันยายน พล.ต.ท.พีระพงศ์ ดามาพงศ์ ผบช.สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ (สพฐ.) พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธิติพงษ์ เศรษฐีสมบัติ รอง ผบก.ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน7 พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม มาศคีรีวงษ์ สารวัตรงานตรวจสถานที่เกิดเหตุ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รอง ผกก.สส.สภ.นครชัยศรี ได้เดินทางมาตรวจสถานที่เกิดเหตุ บริเวณบ่อน้ำภายในบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง หลังจากเคยเข้ามาตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุก่อนหน้านี้ แต่ยังไม่พบหลักฐานใดๆ ที่จะนำไปสู่สาเหตุฆาตกรรมอดีตนางเอกชื่อดัง

              ทั้งนี้ พล.ต.ท.พีระพงศ์ ได้สั่งการให้สูบน้ำภายในบ่อออกให้หมด เพื่อตรวจสอบสภาพใต้บ่อน้ำ เนื่องจากสงสัยว่าอดีตนางเอกชื่อดังอาจจะตกน้ำแล้วเกิดกระแทกกับของแข็งใต้บ่อจนทำให้หมดสติไปหรือไม่

              พล.ต.ท.พีระพงศ์ กล่าวว่า ได้ตรวจสถานที่เกิดเหตุหลายจุดที่มีความเกี่ยวโยงกับผู้ตาย ยังไม่พบว่ามีจุดไหนที่น่าสงสัย ยกเว้นสภาพการจมน้ำที่ผู้ตายน่าจะต้องตะเกียกตะกายขึ้นมา แต่กลับจมน้ำนิ่งไป ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าผู้ตายอาจตกน้ำแล้วศีรษะไปกระแทกกับของแข็งใต้บ่อก็เป็นได้ จึงสั่งการให้สูบน้ำออกจากบ่อเพื่อตรวจสภาพร่องรอยใต้บ่อว่ามีของแข็งใดอยู่ใต้บ่อหรือไม่

              "ต้องรอผลการผ่าชันสูตรศพจาก สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ว่าผู้ตายเสียชีวิตจากสาเหตุใด จึงจะทำให้ข้อเท็จจริงในคดีนี้กระจ่างชัดขึ้น ส่วนในมือของผู้ตายที่พบว่ามีตะกร้าขนาดเล็กกำอยู่ในมือตอนเสียชีวิตนั้น ยังไม่ได้รับรายงาน" ผบช.สพฐ. กล่าว

              อนึ่งจากการสูบน้ำในบ่อตั้งแต่เวลา 13.30 น. ถึง 15.00 น. หลังจากสูบน้ำแห้งพบธนบัตร 1,000 บาท 1 ใบและใบละ20 บาท 1 ใบ อยู่ก้นบ่อ ไม่พบหลักฐานอื่นใดนอกเหนือจากนี้


เรียกสอบพยานจำลองเหตุการณ์ก่อนตาย

              ขณะเดียวกัน   พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พ.ต.ท.สานิต ชินจอหอ รองผกก.สส. สภ.นครชัยศรี พ.ต.ท.ไชยยศ มุกดาหาญ รองผกก.ป. สภ.นครชัยศรี พร้อมกำลังเดินทางมาสอบตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณบ่อปลา โดยเชิญนางวรางคณา ศรีสมบุญ อายุ 37ปี คนงานประจำ ของ ภาวนา ชนะจิต ที่ทราบเรื่องทั้งหมดมาสรุป ประมวลหาพฤติการณ์การเป็นอยู่ และการใช้ชีวิตประจำวันของอดีตดาราดัง  โดยจำลองเหตุการณ์ว่าทุกวัน ภาวนา ชนะจิต จะต้องมาเดินดูความเรียบร้อยบริเวณบ่อปลาที่รูปปั้นเจ้าแม่นมสาว และจะนำเศษอาหารและข้าวสุกมาเลี้ยงปลาบริเวณขอบบ่อ จากนั้นก็จะเดินดูรอบๆบ้าน แล้วเข้าห้องนอนซึ่งเป็นห้องเดียวกันกับห้องพระเจ้าแม่กวนอิม และหรือหากมีอะไรธุระจะใช้สอยก็จะเปิดบานเกร็ดตะโกนเรียก
 
              กระทั่งช่วงเย็นประมาณ 17.00น.  วันที่  9  ก.ย. เมื่อไปดูที่ห้องนอนไม่พบตัว จึงโทรไปหานายณัฐพงศ์  เพื่อจะถามหา ภาวนา ชนะจิต แต่ไม่รับสาย จึงโทรไปหานายอภิชา เหล่าแสงทอง  ให้มาที่บ้านแล้วช่วยกันตามหากัน และได้เปิดภาพวงจรปิดดูเห็นเดินผ่านกล้องข้างบ่อปลาเวลาประมาณ 16 .00 น.
 
              พล.ต.ท.โสภณ กล่าวว่า พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ผู้บัญชาการตำรวจภาค7 กำชับให้หาพยานหลักฐานให้ละเอียดรอบคอบ เพื่อให้ความยุติธรรมแก่ทุกฝ่าย เนื่องจากเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ  ในส่วนของสาเหตุ การเสียชีวิตต้องรอผลทางวิทยาศาสตร์จากสถาบันนิติเวช ซึ่งได้ขอให้ทางนิติเวชตรวจสอบกระเพาะอาหารและกระแสเลือดเพื่อหาสารพิษ หรือตัวยาบางอย่าง
 
              พ.ต.ท.ณรงค์ธรรม มาศคีรีวงศ์ นักวิทยาศาสตร์(สบ.3) พิสูจน์หลักฐาน7 กล่าวว่า จากการตรวจหาพยานหลักฐานในห้องพระและบริเวณที่นอนของภาวนา ชนะจิต  และเก็บถุงที่นายณัฐพงษ์   หรือเปรม หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี สามีนอกสมรสของผู้ตาย  ยืนยันว่าเป็นยาแก้โรคความดัน และยาลดไขมันในเส้นเลือดที่  อรัญญา รับประทานประจำโดยแพทย์โรงพยาบาลรามาธิบดี และเป็นคนไข้ของนายแพทย์พงษ์อนันต์ บุญนาค  ส่งมอบให้พ.ต.ท.สานิตย์ ชินจอหอ รองผกก.สส.สภ.นครชัยศรี เก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน เพื่อเทียบเคียงกับสารที่ตรวจพบในกระเพาะอาหารและกระแสเลือด

มอบศพให้น้องสาวนำไปทำพิธีทางศาสนา

              พ.ต.ท.สานิตย์ ชินจอหอ รองผกก.สส.สภ.นครชัยศรี กล่าวว่า  สาเหตุแห่งการเสียชีวิต ทราบเพียงว่าการเสียชีวิตเบื้องต้นเกิดจากการขาดอากาศหายใจ หรือจมน้ำเสียชีวิต ส่วนผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ จากชิ้นเนื้อและกระเพาะอาหาร และกระแสเลือดนั้น ต้องรอผลการตรวจหลายวัน สำหรับอำนาจการรับศพไปบำเพ็ญกุศลนั้น ทางพนักงานสอบสวนได้มอบหมายให้นางหัตยา เหล่าแสงทอง ซึ่งยืนยันว่าเป็นน้องสาวตามเอกสารหลักฐานไปรับศพภาวนา ชนะจิต

              "ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลไปหลายปากแล้วและน่าจะสมบูรณ์เกินร้อยละ70 เหลือแต่พยานหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น การทำคดีลักษณะแบบนี้ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และรอบคอบ จะใช้ความรู้สึก หรืออารมณ์ร่วมเข้ามาทำงานสรุปสาเหตุแห่งคดีไม่ได้เด็ดขาด เพราะการเสียชีวิตของภาวนา ชนะจิต นั้นเป็นเรื่องปกติ แต่เรื่องทรัพย์สิน มรดกต่างๆที่มีและสร้างไว้มีมูลค่ามห่ศาล ต้องรอบคอบอย่างยิ่ง" พ.ต.ท.สานิตย์ กล่าว


              ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้นญาติได้นำศพ"ภาวนา ชนะจิต" ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยมีพิธีรดน้ำศพ ซึ่งมีญาติและดารารุ่นเก่าไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

บรรยากาศงานศพ"ภาวนา"สุดโศกเศร้า

              นายอภิชา เหล่าแสงทอง บุตรชายบุญธรรมของ ภาวนา ชนะจิต กล่าวว่า รู้สึกเสียใจกับการจากไปของแม่ วันเกิดเหตุตนไปเที่ยวจังหวัดระยองกับเพื่อน โดยระหว่างทางกลับบ้านมีคนโทรมาแจ้ง ตนจึงรีบเดินทางไปที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงก็พบแม่จมอยู่ในบ่อน้ำขณะเดียกันก็พบสามีของแม่อยู่ในที่เกิดเหตุ โดยภายหลังเกิดเหตุตนทราบว่าทางฝั่งสามีของแม่ได้พยายามที่จะนำเอกสารสำคัญของแม่ไปซ่อนซึ่งตอนแรกตนไม่ได้สนใจเนื่องจากตนมัวแต่ตามหาแม่ จนกระทั่งทราบเรื่องจึงได้นำเอกสารสำคัญต่างๆไปเก็บไว้เนื่องจากกลัวว่าทางฝั่งสามีแม่จะนำไปซ่อนอีก

              ผู้สื่อข่าวถามว่าทางครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ นายอภิชากล่าวว่า ก็ยังมีบางอย่างที่น่าสงสัย แต่จะให้ฟันธงเลยก็ไม่ได้ อย่างไรก็ตามก็คงปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการพิสูจน์หาความจริง แต่โดยปกติแล้วแม้ว่าแม่จะอายุมากจะมีเจ็บป่วยเล็กๆน้อยบ้าง แต่ไม่เคยเห็นอาการที่ว่าล้มหมดสติไปเลย ซึ่งก่อนเสียชีวิตก็ไม่มีลางบอกเหตุ ตนไม่คิดว่าจะมาเสียแม่ไปแบบกระทันหัน ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในบ้าน เจ้าหน้าที่ตรวจดูแล้วมุมกล้องไม่ได้จับภาพตรงจุดที่เกิดเหตุ

              ด้าน นายณัฐพงษ์ หรือเปรม หลวงศิริกุล อายุ 57 ปี สามีนอกสมรสของผู้ตาย กล่าวยืนยันอีกครั้งว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.อรัญญาภรณ์ และไม่ได้อยู่กับผู้ตายในช่วงเกิดเหตุ พร้อมทั้งชี้แจงถึงการใช้อาวุธปืนข่มขู่ญาติของภรรยาในวันเกิดเหตุว่าเป็นเพราะถูกญาติพูดจาดูถูกว่าเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกินและฉกเอากระเป๋าของผู้ตายซึ่งบรรจุเงินสด 2 แสนบาท สร้อยคอทองคำพร้อมพระเลี่ยมทองอีกหลายเส้น และโฉนดที่ดินอีกหลายแปลงไป อีกทั้งญาติผู้ตายยังนำโซ่มาคล้องประตูบ้านล็อกกุญแจ จึงใช้อาวุธปืนแก๊ปมายิงขู่เท่านั้น

              "วันนั้นผมกลับมาถึงบ้านประมาณ 23.00 น. เห็นญาติของภรรยามาเต็มบ้านและมีเจ้าหน้าที่มูลนิธิมาหลายคน รู้สึกงงมาก และยังไม่ทราบว่าภรรยาเสียชีวิต แถมถูกน้องสาวของภรรยาด่าว่าเป็นแมงดาเกาะผู้หญิงกิน ทั้งที่ผมก็มีเงินมีทรัพย์สมบัติเหมือนกัน และเขาเองก็เดือดร้อนมาหยิบยืมเงินของผมไปใช้หลายแสนบาท พวกนั้นยังเอาโซ่มาล็อกกุญแจบ้านผมไม่ให้เข้าบ้าน ทั้งที่ผมอาศัยอยู่ที่นี่กับภรรยามาหลายปีแล้ว เขามีอำนาจอะไรมาทำแบบนี้และยังเอากระเป๋าซึ่งมีเงินสดอยู่ 2 แสนบาท สร้อยคอทองคำและพระเลี่ยมทอง โฉนดที่ดินอีกหลายแปลง ผมขอคืนก็ไม่ยอมให้ จึงต้องเอาปืนแก๊ปออกมายิงขู่เท่านั้นเอง" สามีผู้ตาย กล่าว

              สามีผู้ตาย กล่าวย้ำว่า กระเป๋าทรัพย์สินที่อ้างว่าญาติของผู้ตายหยิบไปนั้น ขอให้นำกลับมาคืนไม่เช่นนั้นจะแจ้งความดำเนินคดี  ส่วนเรื่องมรดกของผู้ตายนั้น เนื่องจากตนและภรรยาไม่มีลูกด้วยกัน แต่ไปรับลูกของน้องสาวภรรยามาเป็นลูกบุญธรรม ดังนั้นสมบัติของภรรยาซึ่งตนก็มีส่วนช่วยกันสร้างมาก็ต้องแบ่งกันตามส่วนที่สมควรจะได้ ไม่ใช่ลูกบุญธรรมจะได้ไปทั้งหมด ถ้ามีปัญหาก็ต้องสู้กันยาวแน่นอน

สุดทนถูกตราหน้าเป็นฆาตกร
 
              นายณัฐพงษ์  ให้สัมภาษณ์ เพิ่มเติมว่า  "ภาวนา ชนะจิต เป็นภรรยาตน  เราอยู่กินมากว่า 10 ปี  ปีผมก็รักของผม แต่เมื่อเขาเสียชีวิตกลับโยนบาปมาให้ผม สงสัยผมเป็นฆาตรกร เมื่อวันที่ 10ก.ย. ตำรวจพาผมไปที่นั่นที่นี่  เพื่อหาพยานหลักฐาน และหรือเพื่อจับผิดผม ซึ่งทุกที่ทีผมกล่าวมีที่มาที่ไปหมด   ผมขอถามว่าผมมีสาเหตุอะไรที่จะต้องไปทำร้ายภรรยาที่ผมรักมาก ผมกับเขารู้จักกันมาตั้งแต่ผมอยู่บ้านเดิมที่ย่านตลาดพลู ผมเป็นเด็กยังชอบดูภาพยนตร์ที่เขาแสดง กระทั่งปีพ.ศ.2541 ภรรยาผมเสียชีวิต ขณะที่คุณภาวนา ก็เลิกทำร้านอาหารแล้วมาให้ผมตรวจดวงดู ฮวงจุ้ยให้ และเป็นคนเปลี่ยนชื่อให้เขาจาก “อรัญญา”เป็น”อรัญญาภรณ์” กระทั่งรู้จักกันนานพอสมควรจึงหันมาร่วมชีวิตกันที่บ้านหลังนี้"

ยืนยันที่ผ่านมาตัวเองก็มีฐานะทางการเงินที่ดี

              นายณัฐพงษ์  กล่าวว่า ที่ดินที่เขาใหญ่ ที่ญาติภาวนา ชนะจิต  อ้างว่า  อดีตดาราดังขายไปมูลค่า 100 ล้านบาท นั้น ไม่เป็นความจริง  มีที่ดินแค่ 3 ไร่ 20 ตารางวา ขายไปได้แค่ 20 ล้านบาท มีที่มาที่ไป  ส่วนตนยังขายที่ดินอีกแปลงย่านทวีวัฒนา ได้เงินมา 40ล้านบาท และที่ดินที่อยู่ปัจจุบันนี้ 16 ไร่ มีคนมาติดต่อจะซื้อ ตนก็ปรึกษากับภาวนา ชนะจิตว่า จะขายแค่ 10 ไร่  หรือประมาณ 31 ล้านบาท  แต่ก็มีการต่อรองกันเหลือ 28.3 ล้านบาท 

              "เมื่อเงินได้มามากก็เอาเข้าธนาคารธนชาต และที่มาว่าผมไม่ทำกินเป็นแมงดาเกาะพี่สาวเขา อยากจะบอกว่าที่อยู่ปัจจุบันนี้จะเห็นมีโครงสร้างอาคารและโรงเก็บรถยนต์เก่า มีรถหลายสิบคันมูลค่ามากมายมหาศาล ผมมีรีสอร์ทของผมที่ดำเนินการสร้าง เป็นโครงสร้างใหญ่โตต้องเลิกล้มยุติลง เพราะเกิดการปฎิวัติรัฐประหารปี2549 ก็ต้องหยุด จากนั้นมาสร้างร้านอาหารเพื่อชีวิต และสปา ซาวน่า ยังไม่เสร็จ เพราะไม่มีเงินสดในบัญชี เราจะใช้เงินที่ได้จากการหาเก็บ ขายที่ดิน เป็นนายหน้าใช้จ่ายในการทำงาน เงินขาดมือก็หยุด "นายณัฐพงษ์ กล่าว

              นายเริงยศ ทรัพย์เงินทอง ทนายความของนายณัฐพงษ์  กล่าวว่า ในขณะนี้ขอให้เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และพนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและผลการตรวจพิสูจน์ศพก่อน เรื่องการเสียชีวิตก็ต้องดำเนินการไป ขณะเดียวกันมีเรื่องของทรัพย์สิน มรดกเข้ามาเกี่ยวข้อง และเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องมีการพูดคุย เจรจากันก่อน ส่วนบุตรบุญธรรมนั้นก็ต้องสืบกันต่อโดยต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และน่าจะพุดคุยกันได้เพราะเป็นญาติกัน