
ดอกเตอร์เมืองผู้ดี-สาวอำนาจเจริญ
ดอกเตอร์นักประวัติศาสตร์เมืองผู้ดี-สาวร่างเล็กอำนาจเจริญ : คอลัมน์ เขยฝรั่งสะใภ้อินเตอร์ โดย...เสาวลักษ์ คงภัคพูน - สุชาติ สูงเรือง
ทุกเช้า "พอล วิทเลย์" ดอกเตอร์หนุ่มใหญ่ชาวอังกฤษวัย 51 ปี ฝรั่งตัวโตท่าทางใจดี สีหน้าเปื้อนรอยยิ้ม จะเตรียมอุปกรณ์การสอนเดินทางไปยังโรงเรียนหรือสถานที่ต่างๆ ตามที่ได้รับติดต่อมาล่วงหน้า เพื่อสอนภาษาอังกฤษให้นักเรียน ด้วยหัวใจที่เปี่ยมสุขซึ่งจะฉายออกมาที่แววตาและรอยยิ้ม เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความประทับใจแก่คนทั่วไป สมดังเจตนารมณ์ของเจ้าตัวที่มุ่งมั่นทำงานจิตอาสา ทำงานกับคนยากจนด้อยโอกาสใน จ.อำนาจเจริญ
"ทำแบบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คืออยู่อย่างพอเพียง ช่วยเหลือสังคมบ้าง" เป็นสิ่งที่ดอกเตอร์พอลยึดไว้เป็นแบบอย่างเรื่อยมา
เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ดอกเตอร์ด้านประวัติศาสตร์หนุ่มเมืองผู้ดีคนนี้ ลาพักผ่อนจากงานประจำที่เป็นนักวิชาการในประเทศบ้านเกิด เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย มุ่งหน้าสู่ จ.ภูเก็ต เมืองสวรรค์ที่ได้ยินชื่อเสียงมานาน และไม่ผิดหวัง ทันทีที่เห็นท้องฟ้าสีคราม ทะเลใสสวยงาม ผู้คนมากหน้าหลายตาที่ดูเป็นมิตร โดยเฉพาะคนไทยพูดคุยง่าย ยิ้มเก่ง มีน้ำใจ
การมาเที่ยวเมืองไทยครั้งนั้นทำให้ดอกเตอร์พอลหลงเสน่ห์เมืองไทย ตัดสินใจกลับบ้านไปยื่นหนังสือลาออกจากงาน เก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัว บินกลับมาปักหลักใช้ชีวิตที่ภูเก็ต โดยตั้งใจจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ทั้งหมดอยู่ที่ประเทศไทยอย่างถาวร
เมื่ออยู่ภูเก็ต ดอกเตอร์พอลยึดอาชีพเป็นครูสอนว่ายน้ำในสปอร์ตคลับ แม้รายได้จะไม่มากแต่ก็เพียงพอในการใช้จ่าย เพราะค่าครองชีพที่ประเทศไทยไม่สูง
"ผมเรียนจบ ป.ตรีทางด้านกฎหมาย ต่อ ป.โท ที่ออกซ์ฟอร์ด ปริญญาเอกที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ลอนดอน ทางด้านประวัติศาสตร์ เป็นชาวนอตติงแฮม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัวทนายความและรับออกแบบตกแต่งสวน ซึ่งมีชื่อเสียงในประเทศระดับหนึ่ง และมีโอกาสได้ทำสวนให้บุคคลสำคัญของประเทศอังกฤษด้วย"
ระหว่างนั้น "น้องไก่" พุทเพ็ง ทิพย์อุด สาวร่างเล็กจาก จ.อำนาจเจริญ แบกความช้ำกับเรื่องราวชีวิตที่ไปไม่ถึงฝั่ง ทั้งที่มีลูกสาวเป็นโซ่ทองคล้องใจถึง 2 คน แต่เมื่อไปด้วยกันไม่ได้ก็ต้องแยกทางกันไป การงานก็ไม่มั่นคง สอบบรรจุที่ไหนก็ไม่ติด จึงตัดสินใจฝากลูกให้พ่อแม่เลี้ยง ตัวเองมุ่งหน้าไปหางานทำที่ จ.ภูเก็ต ด้วยมีดีกรีปริญญาตรีด้านการสื่อสาร ทำให้เธอได้งานเป็นเจ้าหน่าที่ฝ่ายการตลาดหนังสืออันดามันโพสต์ฉบับภาษาอังกฤษ ต้องติดต่อกับคนต่างชาติต่างภาษาอยู่เสมอ กระทั่งมาพบกับดอกเตอร์พอลที่สถาบันความงามแห่งหนึ่ง
"พบครั้งแรกก็ประทับใจกัน พูดคุยกันถูกคอ คบกันได้ระยะหนึ่ง พอลทำท่าจะจริงจังดัวย ก็บอกไปตรงๆ ว่าเราเคยมีครอบครัวมาแล้ว มีลูกสาวสองคนจะรังเกียจไหม เขาก็บอกว่าจะรังเกียจทำไม นั่นคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว จึงตัดสินใจลองคบหากัน เขาดูแลเราดี เสมอต้นเสมอปลาย เมื่อคบกันมา 2 ปี ความรักสุกงอม เขาขอแต่งงานจึงตัดสินใจพากลับบ้านไปสู่ขอกับพ่อแม่ เมื่อปี 2551 ด้วยสินสอด 2 แสนบาทและสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง เงินสินสอดส่วนหนึ่งมอบให้พ่อแม่และก็นำมาใช้จ่ายค่าอยู่กินของลูกๆ"
ดอกเตอร์พอล บอกว่า ค่าสินสอดไม่มาก เพราะเขาไม่ได้รวย ไม่มีเงินเดือนเหมือนฝรั่งทั่วไปที่มาแต่งงานกับเมียไทย ส่วนมากมีบำนาญจากรัฐบาล มีเงินเดือนประจำ แต่เขาเป็นอดีตอาจารย์สอนที่มหาวิทยาลัย เมื่อลาออกก็จบกันไป ไม่มีเงินบำเหน็จบำนาญใดๆ ทั้งสิ้น แต่การทำงานที่เมืองไทยกับรายได้ไม่มากมาย ก็ทำให้พอกินพอใช้ไปได้
จากนั้นทั้งสองคนก็ปักหลักอยู่ที่บ้านตำบลบุ่ง อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ แต่บ้านอยู่ห่างจากตัวเมืองร่วม 30 กม.ซึ่งอยู่ไกลเกินไป จึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองเพื่อความสะดวกในการหางานทำ ยกหมอนมุ้งขึ้นรถกระบะ มาเช่าบ้านหลังเล็กๆ ในเขตเทศบาลอยู่ด้วยกันอย่างมีสุข
เมื่อพ่อแม่ที่ประเทศอังกฤษทราบข่าว พอลได้เมียไทย พ่อแม่จึงส่งเงินมาให้ใช้จ่าย ก็ใช้เงินจำนวนนั้นซื้อที่ดินสร้างบ้าน ลงทุนปลูกสวนยางพารา 10 ไร่
"ปัจจุบันก็ยังอยู่ในชั้นหาเช้ากินค่ำเหมือนคนไทยทั่วไป พวกเราไปช่วยกันทำงานพิเศษ สอนภาษาอังกฤษให้นักเรียนไทย เดือนหนึ่งก็ไม่มาก พอได้กินได้ใช้ผ่านไปวันๆ ปัจจุบันได้รับการติดต่อให้สอนภาษาอังกฤษรับประชาคมอาเซียน ก็มีรายได้เพิ่มเข้ามาบ้าง ส่วนสวนยางพารา 10 ไร่ใกล้กรีดน้ำยางแล้ว"
ถามว่าอยากกลับบ้านที่เมืองนอกไหม พอลจะตอบทันทีว่า ไม่ เพราะหลงรักเมืองไทย หลงรักสาวไทยที่มีความจริงใจ ซื่อสัตย์ ฉลาดและสวย
สำหรับสะใภ้อินเตอร์คนนี้ ในชีวิตยังไม่เคยเห็นหน้าตาคุณปู่-คุณย่าและญาติๆ ฝ่ายสามีเลย อยากไปแต่ไม่มีเงิน ยังไม่เคยได้ขึ้นเครื่องบิน บินไปอังกฤษแม้แต่ครั้งเดียว จะใช้วิธีติดต่อกันทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ได้ทราบข่าวว่าพ่อแม่ของพอลยังแข็งแรง อายุ 74-75 ปีแต่แข็งแรงดี
"เราเป็นครอบครัวเล็กๆ ที่สามีไม่มีงานทำแต่ก็ใจสู้ จึงกินน้อย ไม่ฟุ่มเฟือย อยู่อย่างพอเพียง อาหารโปรดของพอลชอบแกงเขียวหวาน ชอบรสต้มยำ ชอบข้าวผัดและผัดซีอิ๊ว พอลบอกเสมอว่า อากาศเมืองไทยดี สดชื่น มาอยู่เมืองไทยต้องการทำงานกับคนจน ทำแบบพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คืออยู่อย่างพอเพียง ช่วยเหลือสังคมบ้าง โดยตั้งใจแน่วแน่ขออยู่เมืองไทยไม่กลับอังกฤษแน่นอน ส่วนลูกสาวสองคน เขาก็รักก็หวง ให้ความอบอุ่นเหมือนครอบครัวทั่วๆ ไป สามีพูดเสมอๆว่า อากาศเมืองไทยดีสดชื่น"
.......................................
(หมายเหตุ ดอกเตอร์นักประวัติศาสตร์เมืองผู้ดี-สาวร่างเล็กอำนาจเจริญ : คอลัมน์ เขยฝรั่งสะใภ้อินเตอร์ โดย... เสาวลักษ์ คงภัคพูน - สุชาติ สูงเรือง)
?