ข่าว

'ฆ่าโหดยกครัว'นามสกุลดังสงขลา

'ฆ่าโหดยกครัว'นามสกุลดังสงขลา

17 พ.ย. 2555

สลดปัญหาครอบครัวถึงทางตัน ผัวพม่าทะเลาะเมียคนไทย นามสกุลเหมือนนักการเมืองดังสงขลา พร้อมลูกสาว 2 คน ก่อนแขวนคอตายตาม ตร.ชี้ไม่เกี่ยวคดีดังสังหารนายกเล็กสงขลา

              เหตุสลดจากปัญหาครอบครัวแตกร้าวจนเป็นชนวนฆ่ายกครัวรายนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ร.ต.อ.อำนาจ อนันตพันธุ์ ร้อยเวร สภ.เมืองสงขลา รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายภายในบ้านเลขที่ 18 ซอย 33 ถนนไทยบุรี เขตเทศบาลนครสงขลา จึงรุดไปตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.อ.สุมิตร ศรีนวล ผกก.สภ.เมืองสงขลา นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา    แพทย์โรงพยาบาลสงขลา เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและชุดร่วมใจกู้ภัยเมืองสงขลา
    
              ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเช่าสภาพเก่า ชั้นเดียว ฝาบ้านและหลังคามุงด้วยกระเบื้อง ประตูบ้านซึ่งเป็นไม้ถูกปิดล็อกจากด้านใน เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมืองัดประตูเข้าไป พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ในบ้านรวม 4 ศพ ศพแรกคือ นายเตี้ย อายุ 50 ปี ชาวพม่า ใช้เชือกผูกคอตายห้อยอยู่ใต้คานกลางบ้าน ส่วนอีก 3 ศพ เป็นหญิง นอนเสียชีวิตจมกองเลือดเรียงรายอยู่บริเวณหลังบ้าน ทราบชื่อ นางวันดี ชูช่วย อายุ 45 ปี ด.ญ.ชฎาพร ชูช่วย อายุ 13 ปี และ ด.ญ.ดารุณี ชูช่วย อายุ 12 ปี ภรรยาและลูกสาวของนายเตี้ย
    
              สภาพศพทั้ง 3 คน ถูกจามด้วยขวานเป็นแผลลึก น่าสยดสยอง โดยนางวันดีถูกฟันเข้าที่หน้าผากและขมับซ้าย ด.ญ.ชฎาพรถูกฟันที่หน้าผาก ส่วนด.ญ.ดารุณีถูกฟันเข้าที่หน้าผากและท้ายทอย ทั้งหมดอยู่ในสภาพถูกฟันซ้ำที่บริเวณเดียวกันหลายครั้งอย่างโหดเหี้ยม คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
    
              จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบขวานเปื้อนเลือดตกอยู่ในบ้าน ภายในบ้านพบรถซาเล้ง 2 คัน จอดอยู่ มีวัสดุของเก่า ทั้งขวดแก้ว พลาสติก และเศษเหล็กกองรวมกัน เนื่องจากครอบครัวนี้มีอาชีพเก็บของเก่าขาย
    
              พ.ต.อ.สุมิตร กล่าวว่า เหตุฆ่าหมู่ 4 ศพครั้งนี้ ไม่ใช่ถูกคนร้ายฆาตกรรม แต่เป็นการฆ่ากันเองจากปัญหาภายในครอบครัว เพราะจากการสอบสวนเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันทราบว่า ช่วงคืนเกิดเหตุ นายเตี้ยและนางวันดีทะเลาะกันอย่างรุนแรง และมักมีปากเสียงกันเป็นประจำ เพื่อนบ้านจึงไม่ค่อยสนใจ กระทั่งช่วงบ่ายวันที่ 17 พฤศจิกายน เพื่อนบ้านข้างเคียงสังเกตเห็นสามแม่ลูกนอนเรียงรายอยู่บริเวณหลังบ้าน จึงแจ้งให้ตำรวจมาตรวจสอบก็พบว่าทั้ง 4 คน เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน
    
              พ.ต.อ.สุมิตร กล่าวว่า จากการตรวจที่เกิดเหตุไม่พบหลักฐานอย่างอื่น นอกจากขวานที่ใช้ก่อเหตุ รวมทั้งเพื่อนบ้านไม่พบสิ่งผิดปกติอื่นใด นอกจากการทะเลาะวิวาทของนายเตี้ยและภรรยา  รวมทั้งช่วงเวลาเกิดเหตุไม่มีบุคคลแปลกหน้าเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว จึงคาดว่านายเตี้ยอาจเมาสุราและมีปากเสียงกับภรรยาจนเกิดบันดาลโทสะลงมือฆ่าภรรยาและลูกสาวอีก 2 คน ก่อนตัดสินใจแขวนคอตายตามเพื่อจบปัญหาชีวิต เนื่องจากเพื่อนบ้านยืนยันว่า นายเตี้ยมีพฤติการณ์เป็นคนค่อนข้างเก็บกด ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร  
    
              อย่างไรก็ตาม คดีที่เกิดขึ้นไม่มีประเด็นเกี่ยวโยงกับคดีลอบสังหารนายพีระ ตันติเศรณี นายกเทศมนตรีนครสงขลา แม้นามสกุลของนางวันดีจะเหมือนกับนามสกุลของนักการเมืองท้องถิ่นคนหนึ่งใน จ.สงขลา ที่ตกเป็นข่าวพัวพันในคดีดังกล่าวด้วย
    
              ด้าน นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่า ครอบครัวนี้มีฐานะยากจน มีอาชีพเก็บของเก่าขาย บุตรสาวทั้งสองอายุ 12 ปี และ 13 ปี อยู่ในวัยเรียน  ส่วนนางวันดีผ่านการแต่งงานมาก่อน หลังจากเลิกรากับสามีเก่า ได้มาอยู่กินกับนายเตี้ย สามีใหม่ชาวพม่า ปกติทั้งคู่มักมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง
    
              ขณะที่ญาติของนางวันดี กล่าวว่า นางวันดีกับสามีชาวพม่ามีปากเสียงกันบ่อยจากปัญหาครอบครัว และเคยแยกกันอยู่มาแล้ว แต่กลับมาอยู่กินกันอีก คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้น