ปมแค้น..ถูกไล่ออกฆ่าผู้จัดการโรงแรม | คมชัดลึก

              คดีฆาตกรรมผู้จัดการฝ่ายบุคคล โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ยังคงเป็นคดีปริศนาให้ชุดสืบสวนเร่งคลี่คลายคดีว่า มูลเหตุจูงใจในการฆาตกรรมเกิดจากสาเหตุใด!!

              "จินตนา มหัทธนพรรค" ผู้จัดการฝ่ายบุคคลของโรงแรมชื่อดังใน จ.ภูเก็ต ถูกคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ยิงผ่านกระจกด้านข้าง ขณะขับรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นแคปติวา สีขาว ทะเบียน กพ 9131 ภูเก็ต เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันที  บริเวณสามแยกถนนขวาง ฝั่งถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมา

              ตลอดทั้งสัปดาห์ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ ผบก.สส.ภ.8 และ พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อคลี่คลายคดีติดตามคนร้ายทุกวัน เบื้องต้นชุดสืบสวนตั้งข้อสันนิษฐานมูลเหตจูงใจไว้ไม่กี่ประเด็น

              ประเด็นที่ค่อนข้างให้น้ำหนักคือ เรื่องความขัดแย้งในองค์กร ที่ จินตนา ทำงานอยู่ ซึ่งชุดสืบสวนได้ตรวจสอบหาข้อมูลการทำงานของ จินตนา พบว่า เคยทำงานที่โรงแรมในเครือดุสิตธานี และโรงแรมในเครืออนันตรา ก่อนจะมาทำงานที่โรงแรมฮิลตัน ภูเก็ต อาร์คาเดีย รีสอร์ท แอนด์ สปา ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคล โดยได้รับเงินเดือนเดือนละประมาณ 1.5 แสนบาท ได้เพียงแค่ประมาณ 6 เดือน โดยประเด็นนี้ให้น้ำหนักมากที่สุด

              "เบื้องต้นทราบข้อมูลว่า จินตนา เป็นผู้ที่ทำงานตรงไปตรงมา ดูแลพนักงานของโรงแรมทั้งหมด ข้อมูลเท่าที่ทราบพนักงานส่วนใหญ่ค่อนข้างอึดอัด พนักงานบางคนลาออก เพื่อหาที่ทำงานใหม่ พนักงานบางคนก็ถูกไล่ออก การทำงานของ จินตนา ถูกวิจารณ์อย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ข้อมูลการสืบสวนทราบว่า จินตนามีปัญหากับพนักงานบางคนบางฝ่ายเกี่ยวกับการจัดซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบเข้ามาใช้ในโรงแรมหรือนำมาบริการให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ซึ่งจินตนาก็พยายามขัดขวางผลประโยชน์เพื่อปกป้ององค์กรที่ตนเองทำงานอยู่" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน กล่าว

              อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ชุดสืบสวนให้น้ำหนัก ทำให้ชุดสืบสวนต้องหาข้อมูลจากสถานที่ทำงานเก่าทั้งสองแห่ง เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์กับการทำงานของจินตนา ในสถานที่ทำงานแห่งใหม่ ส่วนประเด็นที่ชุดสืบสวนให้ความสำคัญรองลงมาคือ ปัญหาเรื่องชู้สาว เพราะในวันเกิดเหตุชุดสืบสวนพบยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินภายในรถยนต์คันเกิดเหตุ และจากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า สามีของจินตนาเป็นผู้ที่ซื้อยาประเภทดังกล่าวให้จินตนา  "ประเด็นนี้ ชุดสืบสวนก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง ถึงแม้ว่ายาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินที่สามีของจินตนาเป็นผู้ซื้อให้ไว้กินเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ อีกทั้งทราบข้อมูลว่า ทั้งคู่ไม่มีปัญหาระหองระแหงกัน ไม่ค่อยทะเลาะกัน เพราะทั้งสองคนนับถือศาสนาคริสต์ มักไปโบสถ์เพื่อขอพรจากพระเจ้าบ่อยครั้ง เชื่อว่าประเด็นนี้อาจไม่ใช่มูลเหตุจูงใจ" แหล่งข่าวในชุดสืบสวน กล่าว

              ส่วนแนวทางการติดตามคนร้ายหลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนจำลองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อเทียบเคียงจากกล้องวงจรปิดจำนวน 11 ตัว ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ โดยสรุปว่า วันเกิดเหตุจินตนาขับรถยนต์ออกจากโรงแรมเวลา 19.45 น. จนกระทั่งมาถึงที่เกิดเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 15 นาที เชื่อว่าคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ตามตั้งแต่ออกจากโรงแรม แต่ไม่มีจังหวะลงมือ กระทั่งใกล้จุดเกิดเหตุสามแยกถนนขวาง จินตนาต้องชะลอความเร็ว เพราะมีสัญญาณไฟจราจร จากนั้นคนร้ายสวมหมวกกันน็อกปิดบังใบหน้าขี่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและสีรวมถึงหมายเลขทะเบียนเข้ามาประกบ โดยคนซ้อนท้ายใช้อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ หรือปืนอิโบ๊ะ จ่อยิงจินตนาผ่านกระจกด้านข้างคนผู้ขับแล้วหลบหนีไป

              พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา (สบ 10) กล่าวว่า ความคืบหน้าการสืบสวนมีมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งมูลเหตุจูงใจในการฆาตกรรมมีแนวโน้มเกิดจากปัญหาภายในที่ทำงาน เชื่อว่าอีกไม่กี่วันคงมีความชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม

              รายงานข่าวระบุว่า ชุดสืบสวนพยายามหาข้อมูลของมูลเหตุจูงใจ โดยได้เบาะแสว่า ผู้ต้องสงสัยในคดีเป็นอดีตพนักงานที่ถูกไล่ออก มีภูมิลำเนาอยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนและหลังถูกไล่ออกมีปัญหากันค่อนข้างรุนแรง ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการหาข้อมูลและรวบรวมพยานหลักฐาน!!

......

(หมายเหตุ : ปมแค้น..ถูกไล่ออกฆ่าผู้จัดการโรงแรม : ตะลุยข่าว โดยโต๊ะรายงานพิเศษ)