ข่าว

น้องปริญญาร้อง'อดุลย์'ขอความเป็นธรรม

น้องปริญญาร้อง'อดุลย์'ขอความเป็นธรรม

04 ก.พ. 2556

ตระกูลธรรมวัฒนะยังวุ่น!น้องสาวโร่ร้อง'ผบ.ตร.'ขอความเป็นธรรม คดีฟ้องร้อง'ปริญญา'แจ้งบัญชีเท็จ

               4 ก.พ.56 นางณฤมล มังกรพานิชย์ พร้อมด้วย น.ส.คนึงนิตย์ ธรรมวัฒนะ น้องสาวนายปริญญา ธรรมวัฒนะ เจ้าของตลาดยิ่งเจริญ และทนายความเดินทางมาที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)เพื่อยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. หลังจาก นายปริญญา พร้อมด้วยนายจรินทร์ ธรรมวัฒนะ ลูกชาย เดินทางมายื่นหนังสือขอเปลี่ยนพนักงานสอบสวนคดีที่นายปริญญาถูกนางณฤมล แจ้งความกระทำผิด พรบ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม มูลนิธิ พ.ศ.2499

               นางณฤมล กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2549 นายปริญญา และพวก ได้เข้าครอบครองกิจการของตลาดยิ่งเจริญแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่เคยแบ่งเงินปันผลให้แก่ตน น.ส.คนึงนิตย์ และน.ส.กัญจนิดา ทั้งที่พวกตนถือหุ้นของบริษัทสุวพีร์ ธรรมวัฒนะ จำกัด ซึ่งบริหารกิจการของตลาดยิ่งเจริญ ต่อมาตนได้ตรวจสอบเอกสารการหักภาษี ณ ที่จ่าย ของบริษัท ก้าวไว จำกัด บริษัท ยิ่งเจริญ บางพลี จำกัด บริษัท การเรือนยิ่งเจริญ จำกัด และบริษัท สุวพีร์ โฮลดิ้ง 2 จำกัด พบว่า มีการลงข้อความเท็จในบัญชีเหล่านั้นอีกหลายรายการ รวมเป็นเงินกว่า 40 ล้านบาท ตนจึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีกับนายปริญญา และพวกในข้อหากระทำผิดตาม มาตรา 42 แห่งพรบ.กำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัท จำกัด สมาคม มูลนิธิ พ.ศ.2499 โดยหลังรับแจ้งพนักงานสอบสวนได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา เพื่อขอให้ศาลออกหมายค้นเอกสารทางบัญชีของ บริษัท ก้าวไว จำกัด และได้ยึดหน่วยความจำของคอมพิวเตอร์ จำนวน 4 เครื่องมาไว้เป็นของกลางเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการประกอบคดี โดยการตรวจยึดพนักงานสอบสวนได้นำเอกสารทางบัญชีทั้งหมดบรรจุลงในกล่องและปิดผนึก และปิดผนึกจุดเชื่อมต่อของกล่องเก็บหน่วยบันทึกความจำของคอมพิวเตอร์ไว้ โดยให้พนักงานฝ่ายนายปริญญาลงนามกำกับ และนำของกลางไปเก็บไว้ที่กองบังคับการกองปราบ

               นางณฤมล กล่าวต่อว่า ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือนัดให้คู่กรณีมาร่วมเปิดผนึกกล่องเอกสารทางบัญชีที่เป็นของกลาง จำนวน 4 ครั้ง โดยมีเจ้าหน้าที่ของสรรพากร เจ้าหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองคดีเศรษฐกิจ ร่วมเป็นพยาน แต่ปรากฏว่า นายปริญญา ได้คัดค้านการเปิดกล่องเอกสารทุกครั้ง หากเอกสารดังกล่าวเป็นการลงบัญชีที่ถูกต้องเหตุใดนายปริญญาจึงไม่ยอมให้เปิด การกระทำของนายปริญญาเป็นการขัดขวางการดำเนินกระบวนการยุติธรรมและเป็นการก้าวล่วงการปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานสอบสวน ที่กำลังใช้อำนาจหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐานตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ดังนั้น ขอให้ พล.ต.อ.อดุลย์ ให้ความเป็นธรรมโดยการออกคำสั่งให้พนักงานสอบสวนเปิดกล่องบรรจุเอกสารของกลางที่ปิดผนึกไว้ต่อหน้าคู่ความทั้งสองฝ่าย เพื่อนำเอกสารดังกล่าวมาตรวจสอบถึงความถูกต้อง และให้พนักงานสอบสวนนำหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ของกลางทั้ง 4 เครื่องไปดำเนินการตรวจพิสูจน์ข้อมูลที่บรรจุอยู่ตามระเบียบและกฎหมาย เพื่อนำข้อมูลเอกสารทางบัญชีและข้อมูลในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์ดังกล่าว ไปใช้เป็นพยานหลักฐานในการประกอบคดีด้วย

 

...................................

(หมายเหตุ : ภาพจากแฟ้มข่าว)