ยาโป๊ใหม่'จีน'ล่าไส้กรอง'ราหูยักษ์'
ยาโป๊ใหม่'จีน' ล่าไส้กรอง'ราหูยักษ์' : ทีมข่าวรายงานพิเศษ
นักอนุรักษ์สัตว์น้ำทางทะเลทั่วโลกลุ้นระทึกว่า "ราหูยักษ์" หรือปลากระเบนราหูจะสามารถผ่านด่านอรหันต์เข้าสู่บัญชี 2 ของไซเตสได้หรือไม่ ?
การประชุม "ไซเตสคอป 16" หรือการประชุมอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมค้าสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ จะพิจารณาเรื่องนี้ภายในวันที่ 14 มีนาคม โดยตัวแทนผู้เข้าร่วม 177 ประเทศทั่วโลก ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ หลายฝ่ายกลัวว่าหาก "ปลากระเบนยักษ์" ไม่ผ่านการพิจารณ จะกลายเป็นหนึ่งในสัตว์ที่ถูกใบสั่งให้ล่าเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำกัดโควตา
ปลากระเบนราหูยักษ์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า "แมนตา เรย์" ถูกเสนอให้ขึ้นบัญชี 2 ชนิดคู่กัน คือ ปลากระเบนแมนตาแนวปะการัง (Manta alfredi) และ ปลากระเบนแมนตามหาสมุทร (Manta birostris?) จัดเป็นปลากระเบนสายพันธุ์ใหญ่ที่สุดในโลก บางตัวมีความกว้างเกือบ 7 เมตร น้ำหนัก 1,300 กิโลกรัม ถิ่นอาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตร้อนในมหาสมุทรอินเดีย รวมถึงทะเลไทยด้วย พบมากในหมู่เกาะสุรินทร์ เกาะหินแดง เกาะบอน รวมถึงฝั่งอ่าวไทยบางแห่ง พวกมันชอบกินแพลงก์ตอนตัวอ่อนปลา และสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ทั่วไป เพราะมีลำตัวขนาดใหญ่ทำให้ปลากระเบนราหูมีศัตรูตามธรรมชาติน้อยมาก ในน่านน้ำไทยศัตรูตัวฉกาจคือ "วาฬเพชฌฆาต"
ที่ผ่านมา เครือข่ายนักอนุรักษ์ไม่ค่อยเป็นห่วงปลาราหูยักษ์ เนื่องจากไม่ได้เป็นที่ต้องการของชาวประมงหรือตลาดค้าสัตว์ทะเล เนื้อของมันกินไม่อร่อย หากจับได้มักจะปล่อยโยนกลับไปในทะเล แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมามีรายงานการพบแก๊งเรือล่าปลาราหูยักษ์ในท้องทะเลแถบเอเชีย เพื่อส่งไปขายให้ประเทศจีน ซึ่งคนจีนบางกลุ่มเชื่อว่าอวัยวะของมันเป็นยาขนานวิเศษ
"จิรายุ เอกกุล" หัวหน้าแผนกโครงการอนุรักษ์ทางทะเลของมูลนิธิรักสัตว์ป่า (Lovewildlife) ให้ข้อมูลว่า ราหูยักษ์ถูกล่าอย่างง่ายดาย เพราะเป็นสัตว์เชื่องช้า ระยะหลังใบสั่งจากจีนเข้ามาเยอะมาก เพราะความเชื่อตามตำรายาจีนโบราณว่า "ซี่กรอง" (Gill-plates) หรือไส้กรองของราหูยักษ์เป็นแหล่งรวมสารอาหารทำให้หายจากโรคปวดกระดูก ไขข้อและความจำเสื่อมต่างๆ นานา แต่ละตัวมีซี่กรองอยู่แค่ตัวละ 10 ซี่ ตามแนวเหงือกบริเวณใต้ตัวด้านหลังของปาก หากจับได้จะถูกฆ่าทิ้งเพื่อกรีดหน้าท้องผ่าแล่เอาเฉพาะไส้กรองที่มีความยาวขนาด 10 ซม. ออกไปขาย กระเบนราหูถูกฆ่าอย่างทารุณเพิ่มมากขึ้นทุกปี ทำให้เสี่ยงสูญพันธุ์
"สำหรับเมืองไทยนั้น ต้องรีบอนุรักษ์ไว้ เพราะเราเป็นเมืองท่องเที่ยว มีนักดำน้ำจากทั่วโลกมาเพื่อดูกระเบนยักษ์เหล่านี้ ธุรกิจดำน้ำทำเงินให้ประเทศไทยไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาทต่อปี อยากถามว่าหากปล่อยให้มีการล่าเพิ่มมากขึ้น ผู้ที่เสียประโยชน์คือใคร ?"
ด้าน "มิสเตอร์ราล์ฟ ซอนแท็ก" ผอ.กองทุนสงเคราะห์สัตว์ป่านานาชาติ ประเทศเยอรมนี (IFAW) ยอมรับว่า ยังไม่มีใครรู้จำนวนปริมาณที่แน่นอนของราหูยักษ์ว่ามีมากน้อยเท่าไร เพราะการสำรวจท้องทะเลมหาสมุทรทั่วโลกทำได้ยาก มีเพียงตัวเลขจำนวนไส้กรองที่ซื้อขายในท้องตลาดเท่านั้น พบว่าไม่ต่ำกว่า 2.1 หมื่นกิโลกรัม หมายถึงมีราหูยักษ์ถูกล่าไปแล้วมากกว่า 4,600 ตัว คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท ตลาดใหญ่ที่ล่าและขายจะอยู่ในหมู่เกาะอินโดนีเซีย นักอนุรักษ์พบเห็นกระเบนยักษ์ในท้องทะเลเมื่อ 3 ปีที่แล้วมากกว่าปัจจุบันหลายเท่า ดังนั้นการเสนอขึ้นบัญชีไซเตสครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญที่จะคุ้มครองพวกมันไว้
ทั้งนี้ ประเทศที่ยื่นเสนอให้บรรจุ "แมนตาเรย์" เข้าไว้ในบัญชี 2 คือ บราซิล โคลัมเบีย และเอกวาดอร์ ขณะที่ประเทศไม่เห็นด้วยคือ ฟิลิปปินส์ อ้างว่ามีกฎหมายคุ้มครองปลากลุ่มนี้อยู่แล้ว ขณะที่ประเทศไทยมีข่าวลือว่าอาจไม่สนับสนุน เพราะกลัวจะกระทบกับปลากระเบนน้ำจืดที่คนไทยสามารถเพาะเลี้ยงได้แล้วขายเป็นปลาสวยงาม มีฟาร์มหลายแห่งส่งขายประเทศอื่นราคา 7,000-30,000 บาท
"แนนซี่ กิ๊บสัน" ผอ.มูลนิธิรักสัตว์ป่า กล่าวว่า นอกจากจะถูกล่าเอาไปทำยาจีนแล้ว หากคำนึงถึงปัจจัยตามธรรมชาติราหูยักษ์มีโอกาสเสี่ยงสูญพันธุ์อยู่แล้ว เพราะมีลูกยาก ตัวเมียหนึ่งตัวอายุขัยประมาณ 30 ปี แต่ให้ลูกได้แค่ไม่เกิน 8 ตัวเท่านั้น ไม่เหมือนปลาทะเลชนิดอื่นที่ออกลูกเป็นฝูงหลายร้อยตัวพร้อมๆ กัน พร้อมฝากความหวังว่าตัวแทนรัฐบาลไทยจะสนับสนุนข้อเสนอนี้ เพราะ 2 ชนิดที่เสนอให้ขึ้นบัญชีไซเตสเป็นสายพันธุ์น้ำเค็ม ไม่ใช่เป็นกระเบนน้ำจืดที่ฟาร์มคนไทยเพาะเลี้ยงได้
............
(หมายเหตุ : ยาโป๊ใหม่'จีน' ล่าไส้กรอง'ราหูยักษ์' : ทีมข่าวรายงานพิเศษ)