ความคาดหวังต่อตำรวจจราจร
ความคาดหวังต่อตำรวจจราจร : เลียบค่าย โดย ชัยกร ใบเงิน
มีข่าวดีๆ บ้างหลังจากพล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร, พล.ต.ต.อุทัยวรรณ แก้วสอาด 2 รองผบช.น. ที่ดูแลงานจราจรได้มอบรางวัลให้แก่นายตำรวจชั้นประทวนที่ไม่รับสินบน
ด.ต.มนัส ธงริ้ว ด.ต.กิตติศักดิ์ ประทิน ผบ.หมู่งานจราจร สน.โชคชัย และด.ต.บุญธรรม แผนสะท้าน ผบ.หมู่งานจราจร สน.คลองตัน
ที่ได้รับรางวัลเพราะไม่รับสินบนจากผู้ใช้รถใช้ถนนขณะถูกจับกุม เป็นแบบอย่างที่ดีกับตำรวจโดยทั่วไปไม่ใช่แต่งานจราจรเท่านั้น ทั้งฝ่ายสืบสวน ปราบปรามก็ควรมีจิตสำนึกที่ดีเช่นกัน
ความจริงตำรวจจราจรมีความสำคัญในแง่การป้องปรามเบื้องต้นด้วยซ้ำเพราะจราจรอยู่บนท้องถนนอาชญากรรมต่างๆ ก็ใช้เส้นทางหลบหนี ถ้ามีการตั้งจุดตรวจที่ดีและมากพอ ก็จะช่วยลดตัวเลขคดีลงทางอ้อม
ที่ผ่านมาจราจรมักถูกมองในภาพลบ ตั้งด่านรีดไถ หาเศษหาเลยบนท้องถนน แต่ปัจจุบันภาพลักษณ์เริ่มดีขึ้นตามลำดับหากดูโดยรวม
ดูตัวเลขการตายของคนไทยจากข้อมูล World Road Statistics เมื่อปี 2554 ที่รวบรวมโดยสหพนธ์ทางหลวงนานาชาติ พบว่าเราอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่ประชากรเสียชีวิตจากรถจักรยานยนต์มากที่สุดเป็นอันดับ 5 ของโลก สาเหตุสำคัญเกิดจากการไม่สวมหมวกนิรภัย
สอดคล้องกับตัวเลขของกระทรวงมหาดไทยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากกว่า 1 แสนคน หรือเฉลี่ยวันละ 30 คน โดย 70-80% ของการเสียชีวิตนั้น เกิดจากผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย
ตัวเลขนี้ถ้าตำรวจจราจรยังทำหน้าที่ได้อย่างเต็มกำลังเชื่อว่าจะลดลงได้
พื้นที่กรุงเทพฯ ปัญหาการสวมหมวกกันน็อกน่าจะเอาอยู่
แต่ในต่างจังหวัดชาวบ้านไม่ค่อยสนใจ ตำรวจก็ไม่เข้มงวด ตัวเลขการตายจึงสูง ดูจากเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์ได้
พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร. เป็นนายตำรวจหนุ่มมีฝีมือเชื่อว่าน่าจะปรับเปลี่ยนวิธีคิดของตำรวจจราจรเสียใหม่ รวมถึงการปลูกฝังจิตสำนักที่ดี อย่างน้อยก็เริ่มมีตัวอย่างให้เห็น
ถ้าจะมีหน่วยงานไหนหรือโพลล์สำรวจก็ลองไปหาความเห็นความพึงพอใจของผู้ใช้รถใช้ถนนมาเป็นข้อมูลเพื่อเดินหน้าปรับรูปแบบการทำงานเสียใหม่ให้เป็นสากล
อีกไม่นานอาเซียนก็จะรวมเป็นหนึ่ง เป็นประชาคมเดียวกันจะมาสุ่มตามต้นมะขาม ตั้งด่านเถื่อนคอยรีดไถคงไม่ได้แล้ว