'DSI'ตรวจนับวัตถุดิบผลิตยาพาราฯ100ตัน
'ดีเอสไอ' ตรวจนับวัตถุดิบผลิตยาพาราฯ 100 ตัน ขณะที่ รมว.สธ.เรียกทีมสอบสวนเข้าพบให้ข้อมูลเพิ่มเติม ด้านม็อบสหภาพอภ. แต่งดำเรียกร้องยุติให้ข่าวทำลายภาพลักษณ์
22 เม.ย. 56 นายธานินทร์ เปรมปรีดิ์ ผอ.ศูนย์ป้องกันและปราบปรามทุจริต กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำพนักงานสอบสวนเดินทางเข้าตรวจสอบสถานที่เก็บวัตถุดิบผลิตยาพาราเซตามอลขององค์การเภสัชกรรม (อภ.) ตามที่นพ.ประดิษฐ์ สินธวณรงค์ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ขอให้ตรวจสอบการปนเปื้อนวัตถุดิบการผลิตยาพาราเซตามอล โดยมีเภสัชกรสุนทร วรกุล รองผอ. อภ. และเภสัชกรหญิงอัจฉรา บุญผสม ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ จากอภ. ร่วมพาตรวจสอบ
นายธานินทร์ กล่าวว่า โกดังที่ไปรษณีย์คือสถานที่ใช้เก็บวัตถุดิบผลิตยาพาราฯ จำนวน 100 ตัน ซึ่งจำนวนของวัตถุดิบเป็นหนึ่งในประเด็นสอบสวนที่ดีเอสไอตั้งไว้ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า จำนวนวัตถุดิบยังอยู่ครบคือ 2,000 ถัง ปริมาณ 100 ตัน แม้ก่อนหน้านี้จะมีการส่งไปตรวจสอบการปนเปื้อน แต่ก็ได้ส่งกลับคืนมาเก็บไว้ทั้งหมด โดยวัตถุดิบที่เก็บไว้ในโกดังดังกล่าวเป็นวัตถุดิบที่ผลิตมาเมื่อปี 2011 และ 2012 ซึ่งยังไม่หมดอายุ แต่จะหมดอายุในปี 2014 และ 2015 อย่างไรก็ตาม ดีเอสไอจะมีหนังสือสอบถามไปยังบริษัท ไปรษณีย์ฯ เพื่อให้ยืนยันว่าวัตถุดิบยังอยู่ครบ จากนั้นพนักงานสอบสวนจะตัดประเด็นเรื่องจำนวนวัตถุดิบและสภาพการจัดเก็บเหมาะสมหรือไม่ โดยในส่วนการจัดเก็บก็พบว่าอยู่ในอุณหภูมิตามมาตรฐานการจัด
นายธานินทร์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ดีเอสไอจะมุ่งตรวจสอบประเด็นการจัดซื้อวัตถุดิบผลิตยาพาราฯมาสำรองไว้จำนวนมาก ส่วนประเด็นเรื่องการปนเปื้อนจะรอผลตรวจสอบการปนเปื้อนจาก 3 หน่วยงาน คือ อภ.ของทหาร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และองค์การอาหารและยา(อย.) มาประกอบการพิจารณาอีกครั้ง โดยช่วงบ่ายวันนี้ นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ผอ.อภ. จะเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงตามประเด็นที่มีข้อสงสัยทั้งการการก่อสร้างโรงงานผลิตวัคซีนที่จ.สระบุรี และเรื่องสต๊อกวัตถุดิบยาพาราฯ ทั้งนี้ ล่าสุดตนยังได้รับการประสานให้เข้าพบรมว.สาธารณสุข ในเวลา 11.00 น.วันนี้ เพื่อรับเอกสารข้อมูลเพิ่มเติมด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ที่หน้าอาคารดีเอสไอ กลุ่มสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจองค์การเภสัชกรรม นำโดยนายระวัย ภู่ผะกา ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจฯ ร่วมกันแต่งชุดดำ เข้ายื่นหนังสือเรียกร้องอธิบดีดีเอสไอ ปฏิบัติหน้าที่สอบข้อเท็จจริงกรณีอภ.ด้วยความเป็นธรรม และเป็นกลาง โดยขอให้ยุติการให้ข่าวทำลายภาพลักษณ์ของอภ. จนกว่าผลการสอบข้อเท็จจริงจะได้ข้อยุติ เนื่องจากการให้ข่าวทั้งที่การสอบสวนข้อเท็จจริงยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ครบถ้วนทำให้อภ.ได้รับเสียหายอย่างมาก