ข่าว

'หนุ่มนครศรีฯ'ปัดแฮ็กเว็บด่า'ปู'

'หนุ่มนครศรีฯ'ปัดแฮ็กเว็บด่า'ปู'

10 พ.ค. 2556

'หนุ่มนครศรีฯ'พบปอท.แล้ว! ปัดแฮ็กเว็บด่า'ปู'ลั่นถูกกลั่นแกล้ง ด้าน'ปอท.'รับอาจปล่อยแฮ็กเกอร์ก่อน

               เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ค. นายณรงค์ฤทธิ์ สุขสาร หรือฉายา “ตาเล็ก วินโดว์ 98 เอสอี” อายุ 29 ปี อาชีพนักพัฒนาระบบซอฟแวร์(โปรแกรมเมอร์) ผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแฮกเว็บไซด์ของสำนักนายกรัฐมนตรีเข้าพบ พล.ต.ต.พิสิษฐ์ เปาอินทร์ ผบก.ปอท. เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว

               นายณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งตนยืนยันว่า ไม่ได้เป็นผู้ที่แฮ็กเข้าเว็บไซต์ดังกล่าว และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ โดยตั้งข้อสังเกตว่า ตนเองอาจถูกกลั่นแกล้งจากฝ่ายตรงข้าม ซึ่งตนเคยมีปัญหาขัดแย้งกันมาก่อนกับทีมแฮ็กเกอร์ชื่อดัง ซึ่งได้มีการท้าทายให้ตนแฮ็กเจาะเข้าเว็บไซต์ของกลุ่มนี้ ตนเลยลองทำดูจึงได้เจาะแฮ็กเข้าเว็บเขา คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า โดยกลุ่มดังกล่าวได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องทำให้ตนเองตกเป็นผู้ต้องสงสัย ทั้งนี้การเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจในครั้งนี้เพื่อที่ตนจะให้คำแนะนำในการสืบหาตัวผู้กระทำความผิดตัวจริง เนื่องจากตนเองมีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ รวมถึงเคยเป็นผู้สอนการแฮ็กข้อมูลในคอมพิวเตอร์ ทำให้รู้ระบบของการแฮ็กซึ่งครั้งนี้จะเข้าไปดูว่าผู้แฮ็กใช้วิธีใดในการแฮ็กข้อมูล เพราะโดยปกติแฮ็กเกอร์จะมีการปลอมตัว แต่จะมีพฤติกรรมบางอย่างที่สามารถทำให้ติดตามได้ โดยขอเปรียบเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบหาคนร้าย ขณะที่คนร้ายพยายามหลบหนี ตนเองจะพยายามเส้นทางของแฮ็กเกอร์ตัวจริง

               “สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวในวงการแฮกเกอร์ก็มีการพูดคุยกันบ้าง แต่ก็เป็นการพูดคุยกันตามปกติว่าถูกแฮ็กอีกแล้วเหรอ เพราะว่ากลุ่มดังกล่าวมักจะชอบแฮ็กเจาะเข้าเว็บไซต์ต่างๆเป็นประจำอยู่แล้ว ทั้งหน่วยงานราชการและเอกชน หรือเว็ตไซต์ช่อง 3 ก็เคยโดนแฮ็กด้วยเหมือนกัน ซึ่งตนยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำอย่างแน่นอน” ตาเล็ก กล่าว

               ด้าน พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้น นายณรงค์ฤทธิ์ ยังไม่ตกเป็นผู้ต้องหาและยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ซึ่งนายณรงค์ฤทธิ์ เป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มผู้ต้องสงสัย จึงได้เชิญตัวเข้าพบเจ้าหน้าที่เพื่อต้องการให้ช่วยเหลือนำความรู้ด้านแฮ็กเกอร์มาช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนหาผู้กระทำความผิดตัวจริง ซึ่งในวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำนายณรงค์ฤทธิ์ รวมถึงจะไปตรวจค้นที่บ้านและนำคอมพิวเตอร์ที่นายณรงค์ฤทธิ์ใช้ประจำมาตรวจสอบหาพยานหลักฐานทางดิจิตอล พร้อมยอมรับว่า การสืบหาหลักฐานทางดิจิตอลทำได้ยาก เพราะกลุ่มคนเหล่านี้มักพรางตัว หากเชื่อตามพยานหลักฐานที่เห็นอาจทำให้หลงทางได้ ซึ่งนอกจากนายณรงค์ฤทธิ์แล้วยังมีกลุ่มแฮ็กเกอร์ต้องสงสัยอยู่ประมาณ 20 คน จึงจะใช้วิธีการให้แฮ็กเกอร์จับแฮ็กเกอร์ ซึ่งเชื่อว่าจะสามารถหาตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงได้ และในวันนี้จะได้รายชื่อแฮกเกอร์ในเมืองไทยทั้งหมดถึงมือเจ้าหน้าที่อย่างแน่นอน

               พล.ต.ต.พิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า สำหรับโทษในการแฮกเข้าระบบคอมพิวเตอร์นั้น จะมีความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ ฐานบุกรุกเข้าระบบพบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ทั้งนี้หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์ ก็จะมีความผิดทางอาญาด้วย ส่วนจะเป็นการว่าจ้างจากฝ่ายตรงข้ามหรือไม่นั้น ในจุดนี้ยังไม่ถึงขั้นนั้น ซึ่งคงต้องรอให้ได้ผู้กระทำผิดตัวจริงมาเสียก่อน ถึงจะสอบสวนขยายผลต่อไป