ข่าว

ซื้อผักสนุก...ยุคคิวอาร์โค้ด

ซื้อผักสนุก...ยุคคิวอาร์โค้ด

17 มิ.ย. 2556

ซื้อผักสนุก...ยุคคิวอาร์โค้ด : ไลฟ์สไตล์

 

          พฤติกรรมคุ้นเคยของแม่บ้านเวลาเลือกซื้อผักสดตามตลาดสดทั่วไปที่พบบ่อยคือ การสังเกตว่าผักมีสีเข้มไปหรือไม่ มีร่องรอยหนอนเจาะให้เห็นหรือเปล่า เป็นเจ้าประจำที่พอรู้แหล่งผลิตหรือไม่ มีกลิ่นแปลกๆ อย่างสารเคมีแฝงอยู่หรือเปล่า กว่าจะมั่นใจจริงๆ จึงใช้เวลาไม่น้อย แต่ภาพเช่นนี้กำลังจะเปลี่ยนไป เมื่อเทสโก้ โลตัส นำ “คิวอาร์โค้ด” มาใช้ในถุงบรรจุผักสดอย่าง ผักบุ้ง กะหล่ำปลี ที่วางให้เลือกซื้อในชั้นขาย เพื่อสร้างประสบการณ์ในการเลือกซื้อผักแบบใหม่เข้ายุคสมัยความเป็นดิจิตอล และความนิยมใช้สมาร์ทโฟนของผู้คนยุค 3จี
 
          พรเพ็ญ นาถพิริยรัตน์ รองประธานกรรมการฝ่ายกฎหมายการค้าและเทคนิค เทสโก้ โลตัส เล่าที่มาของการพัฒนาคิวอาร์โค้ดเพื่อใช้กับสินค้าอาหารสดว่า เทสโก้ โลตัสได้พัฒนานวัตกรรมคิวอาร์โค้ดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ และเห็นความสำคัญของการเลือกซื้อผักที่สะอาด ปลอดภัย แค่เพียงสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยสมาร์ทโฟนจากถุงบรรจุผักก็จะสามารถรับรู้ได้ถึงข้อมูลเชิงลึก ไม่ว่าจะเป็น แปลงปลูก แหล่งปลูก ข้อมูลโภชนาการ ตลอดจนมีเมนูอาหารแนะนำเพื่อเป็นทางเลือกใหม่ๆ ที่จะอัพเดททุกเดือน
 
          “นวัตกรรมนี้ถือเป็นความก้าวหน้าอีกขั้นในการบริโภคของคนไทย โดยเฉพาะสินค้าประเภทผักสด ที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญในการเลือกซื้อมาก การมีคิวอาร์โค้ดจะทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัย ผักบุ้งและกะหล่ำปลีคือผักสองชนิดแรกที่จะมีคิวอาร์โค้ดติดไว้ที่ถุงบรรจุให้แม่บ้านสมัยใหม่ได้สนุกกับการสแกนหาข้อมูล เวลาหยิบผักมาสแกนจึงน่าตื่นเต้น เพราะแม้ผักเหมือนกัน แต่อาจมาจากแปลงปลูกต่างกัน แหล่งผลิตต่างกัน นอกจากนี้ยังจะได้ไอเดียเมนูกับข้าวใหม่ๆ ที่บรรจุอยู่ในคิวอาร์โค้ดอีกด้วยก็ได้ จากนั้นภายในอีก 2-3 เดือน จะมีผักอีก 20 ชนิด บรรจุถุงประทับเครื่องหมายคิวอาร์โค้ดกระจายทั่วชั้นผักมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผักกาดขาว ผักกาดหอม กวางตุ้งไต้หวัน กวางตุ้งใบ" ผู้บริหารเทสโก้ แจง
 
          พร้อมกับให้ข้อมูลปิดท้ายด้วยว่า ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปี 2555 ระบุมูลค่าตลาดรวมของสินค้าเพื่อผู้บริโภคสีเขียวมีมากถึง 126,000 ล้านบาท เป็นหมวดอาหาร เครื่องดื่ม ผักผลไม้เพื่อสุขภาพ มูลค่า 10,000 ล้านบาท โดยสถานที่ในการเลือกซื้อของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัย มากที่สุด ได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต รองลงมาคือ ร้านจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ร้านอีโค่ ช็อป งานแฟร์ หรืองานนิทรรศการต่างๆ