
จากไปแต่ตัวหัวใจยังเพรียกหา
จากไปแต่ตัวหัวใจยังเพรียกหา : คอลัมน์ เขยฝรั่งสะใภ้อินเตอร์ เรื่อง... สุชาติ สูงเรือง เรียบเรียง... เสาวลักษ์ คงภัคพูน
"ยุพิน โลหะชาติ" อดีตนักวิ่งมาราธอนที่เคยรุ่งโรจน์ในปี 2527 ปัจจุบันอายุ 62 ปี และใช้นามสกุล "แมคแคลแนล" ของสามี อาศัยอยู่ที่บ้านเกิดในตำบลกุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ ลูกสองคนก็โตไปมีครอบครัวหมดแล้ว ส่วนสามีคือ "ฟรานซิส แมคแคลแนล" เสียชีวิตไปแล้วเมื่อสิบปีที่ผ่านมาจากอุบัติเหตุ
แต่เรื่องราวทั้งหมดยังแจ่มชัดในความทรงจำของยุพิน ที่ยังคงอาลัยรักสามีอย่างมาก และคิดว่าเขาอยู่ใกล้ๆ คอยให้กำลังใจในยามท้อแท้ คอยกอดให้อุ่นในยามเหน็บหนาว เหมือนดังเช่นช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหลายสิบปี
ในวัยเด็ก ยุพิน สาวบ้านนอกตัวดำที่ผ่านการกรำชีวิตมาอย่างหนัก แต่เมื่อมาคบหาและแต่งงานกับสามีชาวอังกฤษ ชีวิตก็ก้าวหน้าร่ำรวย มีทรัพย์สินกว่าพันล้าน พร้อมจะช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะการไถ่ชีวิตโค กระบือทุกตัวที่มีคนมาเสนอขาย เพื่ออุทิศส่วนกุศลทั้งหมดให้ "ฟรานซิส "สามีอันเป็นที่รัก
ถูกล้อเรียกเหยียดสีผิวว่า "ดำ" มาตลอด พอย่างเข้าวัยสาวอายุ 14 ปี ยุพิน ขโมยเงินยาย 15 บาท เพื่อไปซื้อครีมที่โฆษณาอวดอ้างว่าทำให้ขาวสวย แต่ยังไม่ทันได้ทา ยายจับได้ว่าขโมยถูกไม้คานตีที่หัวจนบวมเป่ง เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้านในวันนั้นหวังไปทำงานหาเงินมาคืนยาย
"ตอนนั้นทำผิดซ้ำอีกด้วยการขโมยเงินพ่อ 100 บาท สำหรับเป็นค่ารถจะเดินทางไปหางานทำที่กรุงเทพฯ เดินออกจากหมู่บ้านเสื้อผ้าชุดเดียวไปถึงอำเภอ ต่อรถโดยสารไปอุบลฯ บังเอิญได้พบคุณนายเมียทหารระดับพันโทท่านหนึ่ง พอรู้ว่าอยากไปหางานทำในกรุงเทพฯ เลยพาไปด้วย ได้ทำงานเป็นคนรับใช้เงินเดือน 170 บาท ในสมัยนั้นก็นับว่ามากโขอยู่"
จากสาวบ้านนอกมาเป็นสาวใช้ในเมืองหลวงได้รับความวางใจให้ขยับมาขายสินค้าจำพวกงานศิลปะ ทำให้มีโอกาสได้รู้จักกับฟรานซิส นักธุรกิจด้านการนำเข้าส่งออกเครื่องใช้ประจำสำนักงาน มีโรงงานผลิตที่เมืองไทย ในขณะที่ใช้เวลาว่างไปวิ่งออกกำลังกาย จากนั้นฝรั่งเมืองผู้ดีจะเทียวมาหาที่ร้านบ่อยๆ แทบทุกวันแสดงความจริงใจ โดยขออนุญาตจากคุณนายเจ้าของร้านว่าจะคบหากัน ระหว่างนี้ทั้งสองได้เรียนรู้จิตใจซึ่งกันและกันจนมั่นใจจึงพาไปหาพ่อแม่ที่บ้านนอก
สมัยก่อนค่านิยมการมีสามีคนต่างชาติยังไม่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายเหมือนปัจจุบัน เมื่อเด็กตัวดำพาฝรั่งผมทองมาแนะนำ ผู้เฒ่าผู้แก่คนทางบ้านก็ไม่ได้ยินดีด้วย แต่เมื่อรู้ว่าทั้งสองเป็นแค่เพียงคนคบหาดูใจกันเท่านั้นก็ได้เฝ้าติดตามดูให้กำลังใจ ช่วงจีบกันใหม่ๆ ซื้อที่ดินแปลงใหญ่เนื้อที่กว่า 3 ไร่ใกล้ถนนสาทร กทม.เป็นของขวัญวันเกิด
จนความรักสุกงอม ฟรานซิส พาพ่อแม่พร้อมญาติพี่น้องเข้าสู่ขอตามประเพณีไทย จัดพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ที่บ้านกุดปลาดุก สินสอดทองหมั้นมหาศาลเกินความคาดหมายของคนไทยสมัยนั้น และไปจัดงานเลี้ยงฉลองสมรสแบบธรรมเนียมฝรั่งอีกครั้งที่กรุงเทพฯ
"ฟรานซิส" เคยบันทึกไว้ในไดอารี่ส่วนตัวว่า รักยุพินเพราะมีอะไรคล้ายกัน โดยเฉพาะเป็นนักสู้ชีวิตที่คล้ายกันมาตั้งแต่เด็ก เขาเขียนไว้ว่าเคยหนีออกจากบ้านเพราะตอนเด็กๆ โดนพ่อแม่ลงโทษ เมื่อโตขึ้นมาได้เรียนรู้วิธีการทำงานจากสภาพแวดล้อม ยอมเป็นผู้แพ้บ้างในบางโอกาส จนประสบผลสำเร็จในธุรกิจ และเป็นคนชอบวิ่งเหมือนกัน
ช่วงใช้ชีวิตสร้างครอบครัวด้วยกัน เงินทองที่ได้จากการทำธุรกิจนอกจากส่งให้ญาติพี่น้องของเขาที่ประเทศอังกฤษ ฟรานซิสได้จัดสรรและแบ่งส่วนให้ครอบครัวฝ่ายภรรยา พ่อตา แม่ยาย ที่บ้านกุดปลาดุก ซื้อที่นา สร้างบ้านไว้สำหรับมาพักผ่อน จุนเจือสังคมด้วยการบริจาคเงินสร้างโบสถ์สร้างศาลาการเปรียญ
มอบเงินสร้างห้องสมุดให้แก่โรงเรียนกุดปลาดุกและบำรุงพุทธศาสนาปีละหลายล้านบาท ในปี 2527 ได้สมัครวิ่งมาราธอนทางไกลจากสนามบินอุบลราชธานีไปที่บ้านกุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เพื่อประกาศให้คนทั่วโลกรู้ว่านักกีฬาบ้านนอกคนหนึ่งอย่างยุพินเมื่อมีฐานะดีแล้วจะต้องสร้างชื่อเสียงและเสียสละทรัพย์สินกำลังใจให้บ้านเกิดเมืองนอน หารายได้เข้าวัดในปีนั้น มีชาวต่างชาติเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมากและได้ร่วมกันทำบุญสนับสนุนสร้างสาธารณประโยชน์ที่ตำบลกุดปลาดุกอีกด้วย
แต่ที่สุดในปี 2546 ตรงกับวันที่ 13 มิถุนายน ฟรานซิส แมคแคลแนล ประสบอุบัติเหตุรถชนเสียชีวิต ขณะเดินข้ามถนนจากหน้าบ้านไปอีกฝั่งถนน
ตอนนั้นเหมือนแพแตก เสียใจต้องเข้าวัดฟังธรรม การศึกษาที่กำลังเรียนระดับปริญญาโทก็สะดุด หมดกำลังใจจะเรียนต่อ แต่เมื่อลูกสองคนให้กำลังใจและบอกพวกเขาขาดแม่ไม่ได้ ขอร้องแม่อย่าป่วยอย่าคิดมาก เลยลุกขึ้นสู้ใหม่ไปเรียนต่อ ทำกิจกรรม งานไหนที่สามีเคยทำก็ไปประสานต่อ ทำการค้าอย่างเข้มแข็ง เข้าไปบริหารคนงานกว่า 2 พันคนกลับมาคึกคักอีกครั้ง
ปัจจุบันกิจการได้มอบหมายให้ลูกๆ ทำแทนทั้งหมด กิจการก้าวหน้าตามลำดับ เงินทองที่ได้มาส่วนหนึ่งแบ่งทำบุญและส่งเสริมครอบครัวญาติพี่น้อง เพื่อเป็นการทดแทนพระคุณสามีผู้ล่วงลับที่ทิ้งมรดกไว้มากมายกว่าพันล้านบาท
ลูกสองคนได้ขอให้แม่ทำบุญให้มากๆ โดยการตระเวนออกรับซื้อโค-กระบือจากโรงฆ่าสัตว์มาเลี้ยง ถ้าชาวบ้านใครอยากนำไปเลี้ยงก็ให้มาเอาแต่ต้องนำไปเลี้ยงเพื่อขยายพันธุ์ เป็นการอนุรักษ์ใช้แรงงานสำหรับเกษตรกรไม่ให้ฆ่าและขายต่อ
"ตอนนี้มีความพร้อมในทุกด้าน ขอมอบให้ประเทศชาติ ประชาชนและแผ่นดินบ้านเกิด สมัยเป็นสาวรุ่นก็ได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศชาติยาวนาน สร้างฐานะกับครอบครัวเลี้ยงลูกจนเจริญเติบโต เมื่อพอมีเวลาก็ลงสมัครรับเลือกตั้งจนได้เป็นนายก อบต.กุดปลาดุก หนึ่งสมัย ต่อจากนี้ถ้ายังได้รับความนิยมและความไว้วางใจอีกก็จะลงสนามการเมืองระดับชาติเดินตามฝันที่อยากทำเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน"
.......................................
(หมายเหตุ จากไปแต่ตัวหัวใจยังเพรียกหา : คอลัมน์ เขยฝรั่งสะใภ้อินเตอร์ เรื่อง... สุชาติ สูงเรือง เรียบเรียง... เสาวลักษ์ คงภัคพูน)