ข่าว

จับ!2พ่อลูกชาวลาวขนกัญชา10กก.

จับ!2พ่อลูกชาวลาวขนกัญชา10กก.

22 ส.ค. 2556

แก๊งค้ายาเสพติดอาศัยจังหวะฝนตกหนัก ขนกัญชา 10 กก. ถูกจนท.ตร. สภ.ช่องเม็ก ร่วมกับทหารพรานที่ 2601 และอาสาสมัครเหยี่ยวเวหา สกัดจับกุมได้ผู้ต้องหาชาวลาว 2 คน

 

                             22 ส.ค.56 เมื่อเวลา 07.00 น.  พ.ต.ท.ปกรณ์ ภาวิไล รอง ผกก.สส.สภ.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานี พร้อมด้วย พ.ต.ต.โกศล ยะฮาด สว.สส. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสนธิกำลังกับทหารพรานกองร้อยที่ 2601 และอาสาสมัครเหยี่ยวเวหาหลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาจากฝั่ง สปป.ลาว ที่บริเวณชายแดนไทย - ลาว บ.หินสูง ต.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบล จึงร่วมกันวางแผนจับกุม

                             ขณะที่เจ้าหน้าที่ซุ่มเฝ้ารออยู่ตามจุดที่สายลับรายงานพบชาวลาว 2 คนแบกกระสอบปุ๋ย ผ่านเขตแดนไทย-ลาวเข้ามาท่าทางมีพิรุธเจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น ทำให้ทั้ง 2 คนทิ้งกระเป๋าเป้วิ่งหนี เจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามจับกุมตัวได้ทั้ง 2 คนเป็นพ่อลูกกัน ทราบชื่อท้าวสัง ฝางคำ อายุ 58 ปี และท้าวอินถา ฝางคำ อายุ 21 ปี ชาวลาว เป็นชาวบ้านอยู่เมืองโพนทอง  แขวงจำปาสัก สปป.ลาว จากการตรวจสอบกระเป๋าเป้มีถุงพลาสติกห่อหุ้มกันน้ำฝนอีกชั้นอยู่ด้านในพบกัญชาแห้งอัดแท่งจำนวน 10 แท่ง น้ำหนัก 10 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษฟอยล์อย่างดี

                             จากการสอบสวน 2 พ่อลูกผู้ต้องหาชาวลาวให้การรับสารภาพว่าได้รับจ้างจากนายทุนคนลาวให้นำกัญชาจำนวนดังกล่าวมาส่งให้พ่อค้าคนไทย อาศัยจังหวะฝนตกหนักอาจจะไม่มีเจ้าหน้าที่ โดยได้แบกให้ไปส่งขึ้นรถที่จะมารับ ที่บริเวณตลาดช่องเม็ก ได้ค่าจ้างคนละ 1,000 บาท แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) และเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ช่องเม็ก อ.สิรินธร จ.อุบลราชธานีดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

จับหนุ่มส่งยาอ้างหาเงินช่วยภรรยาที่ติดคุก

 

                             พ.ต.ท.วิโรจน์ บุญสนิท ผบ.ร้อย ตชด.436 สตูล พร้อมนายเชิดพงษ์ ใจตรง ผบ.อส.จ.สตูล นำกำลังเข้าจับกุมลูกเจ้าของร้านส้มตำ “เจ้าจวง” ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยตชด.436 ไม่ถึง 500 เมตร จนสามารถจับกุมนายคม (ขอสงวนนาม) อายุ 18 ปี ได้ภายในบ้านเช่าไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 6 ซอยข้างวัดหน้าเมือง ต.คลองขุด ได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 1,133 เม็ด และยาไอซ์ 58 กรัม ซึ่งบรรจุในกล่องอาหารเสริมซุกในตู้เสื้อผ้า

                             ทั้งนี้ ผู้ต้องหา รับสารภาพว่า ยาเสพติดดังกล่าวไม่ใช่ของตน เป็นเพียงคนส่งของให้กับเอเย่นต์ ที่อยู่ในเรือนจำ จ.สตูล เท่านั้น โดยได้รับค่าจ้างส่งเป็นงวดละ 10,000 บาท ทำมาแล้ว 3 ครั้ง โดยจะส่งของตามคำสั่งของเอเย่นต์ที่อยู่ในเรือนจำให้ไปวางตามจุดที่บอก เงินที่ได้จากการซื้อยาเสพติดจะไม่ผ่านตัวเอง โดยผู้ต้องหาได้รู้จักกับเอเย่นต์เมื่อสมัยอยู่ศาลเด็กและเยาวชนด้วยกัน

                             พร้อมอ้างว่า เหตุที่ตัดสินใจทำ เพราะจะเอาเงินไปช่วยเหลือภรรยาที่ติดคุกในเรือนจำสตูล และกำลังตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน โดยอยากให้ภรรยาออกมาคลอดลูกนอกเรือนจำ โดยเธอต้องคดีร่วมกันค้ายาเสพติดอยู่ในขณะนี้

                             สำหรับผู้ต้องหารายนี้พบเส้นทางว่ามีการทำเป็นขบวนการ โดยคนสั่งสินค้ามาจากเรือนจำ มีคนเก็บเงิน และส่งของอีกทอดหนึ่ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 436 จะสืบขยายผลต่อไป