
อหังการ'เหยี่ยวดง'วันนี้ยัง'กล้า-ท้า-เสี่ยงตาย'
อหังการ'เหยี่ยวดง'วันนี้ยัง'กล้า-ท้า-เสี่ยงตาย' : สำนักข่าวเนชั่น-สุพิชฌาย์ รัตนะ
"ชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้าย" และภารกิจเสี่ยงตาย ของชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด หรือ "อีโอดี" (EOD) โดยเฉพาะชุดอีโอดี หน่วยปฏิบัติการพิเศษ (นปพ.) จ.นราธิวาส หรือ "เหยี่ยวดง" ที่มี ร.ต.ต.แชน วรงคไพสิฐ หรือ "ดาบแชน" เป็นหัวหน้าชุด สร้างความสะเทือนใจให้คนไทยอย่างมาก
ไม่เพียงทำให้สูญเสียนักกู้ระเบิดมือดีที่มีประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกว่า 10 ปี อย่าง "ดาบแชน" พร้อมเพื่อนและลูกน้องร่วมทีม อย่าง ร.ต.ต.จรูญ เมฆเรือง รอง สว.ชุดเก็บกู้ระเบิด และ จ.ส.ต.นิมิต ดีวงศ์ ผบ.หมู่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด
หากแต่ขวัญและกำลังใจ ตลอดจนความยากลำบากในการปฏิบัติหน้าที่ของคนที่ต้องสืบทอดภารกิจ ก็ต้องระมัดระวังยิ่งขึ้นอีกหลายเท่าทีเดียว
ร.ต.ต.พลวัฒน์ เทพษร รองหัวหน้าชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด หรือ "หมวดพล" และ "พี่พล" สื่อมวลชน ซึ่งวันนี้ต้องปฏิบัติหน้าที่ในฐานะหัวหน้าหน่วยปฏิบัติการพิเศษ "เหยี่ยวดง" แทน ร.ต.ต.แชน เล่าว่า ตลอด 10 ปีที่ร่วมทำงานกับ ร.ต.ต.แชน ได้ผ่านเรื่องราวสุขและทุกข์มากมาย โดยเฉพาะในปีนี้เราสูญเสียพี่น้องร่วมทีมอีโอดีถึง 6 ราย และบาดเจ็บอีก 15 ราย ทำให้ ร.ต.ต.แชน ตระหนักดีว่าสถานการณ์ไม่สู้ดีนัก ทำให้ทุกวันที่อยู่ร่วมกันพร้อมหน้ามักจะหารือและวิเคราะห์สถานการณ์อยู่เสมอ และทุกครั้งหลังจบบทสนทนา จะมีการกำชับและสั่งการให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวังในการทำงาน เพราะวันนี้เราเป็นเป้าที่คนร้ายต้องการกำจัด
ร.ต.ต.พลวัฒน์ เล่าอีกว่า หลังการสูญเสียหัวหน้าชุดที่ดีที่สุดไป ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่แทบทุกคนตื่นตกใจ เสียใจและหมดแรงไปชั่วขณะหนึ่ง แต่ด้วยหน้าที่ซึ่งไม่อาจละทิ้งได้ แม้เสียใจมากเท่าใดก็ตาม จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้เพื่อสานต่อเจตจำนงการเป็นนักกู้ระเบิดต่อไป เพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าหน้าที่คืออะไร ส่วนเรื่องความห่วงใยจากครอบครัวนั้น แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะเจ้าหน้าที่ทุกนายรู้ซึ้งดีว่านับจากวันที่ตัดสินใจเข้าร่วมทีมกู้ระเบิดก็มีคำตอบที่ครอบครัวเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเข้าใจอยู่แล้ว
สำหรับการทำงานของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ จะกำหนดรูปแบบการทำงานแบ่งออกเป็น 3 ชุดปฏิบัติการชุดละประมาณ 7-8 นาย โดยการปฏิบัติหน้าที่จะแบ่งภารกิจ คือทำ 2 ชุด หยุด 1 ชุด สลับกันเพื่อให้มีเวลาพัก โดยชุดแรกมี ร.ต.ต.แชน เป็นทีมหลักเสมอ ส่วนทีมที่ 2 มี ร.ต.ต.จรูญ เฆมเรือง รองหัวหน้าชุด และทีม 3 นำโดย ร.ต.ต.พลวัฒน์ รองหังหน้าชุด โดยในวันเกิดเหตุอยู่ในห้วงการทำงานของทีม ร.ต.ต.แชน และร.ต.ต.จรูญนั่นเอง
ร.ต.ต.พลวัฒน์ ยืนยันแนวทางการทำงานว่า คงไม่ต้องปรับเปลี่ยนอะไรมาก เพราะขั้นตอนที่ดำเนินการอยู่นั้นดีอยู่แล้ว แต่อาจจะเพิ่มความระมัดระวังตัวจากที่มากอยู่แล้วให้มากขึ้นอีก แต่สิ่งที่ต้องเร่งดำเนินการคือ การปลุกขวัญและกำลังใจให้ทีม "อีโอดี" ในวันที่ไร้พี่ใหญ่ แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไปได้ เพราะมั่นใจในฝีมือเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ล้วนเรียนรู้จาก ร.ต.ต.แชน มาแล้วทั้งสิ้น
ด้าน จ.ส.ต.ภาคภูมิ นราอวิรุทธ์ ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง เล่าว่า ได้ทำงานร่วมกันมา 9 ปีอยู่กันแบบพี่น้องผ่านภารกิจเสี่ยงตายร่วมกันมาแทบทุกสนาม การสูญเสียเพื่อนร่วมงานอย่าง ร.ต.ต.แชน ยอมรับว่าอาจทำงานยากขึ้น เพราะภารกิจเก็บกู้ระเบิดต้องอาศัยประสบการณ์ เพราะเพียงแค่เสี้ยววินาทีก็จบชีวิตได้ และความเสียใจนั้นย่อมเกิดขึ้นทุกครั้งที่สูญเสียเพื่อนร่วมงาน แต่ไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดที่ต้องถอดใจเดินออกจากภารกิจ โดยเฉพาะชุดอีโอดี คือ เป้าหมายอันดับต้นๆ ที่คนร้ายจ้องทำร้าย แต่ทุกคนพร้อม
ด้าน จ.ส.ต.เอกชัย พูลเพิ่ม ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง อายุ 34 ปี ชาวพัทลุง เป็นอีกหนึ่งคนที่เดินหน้าอย่างห้าวหาญสู่ภารกิจเก็บกู้ระเบิดนานกว่า 6 ปี แม้ไม่ใช่คนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่ด้วยใจรักและใจสู้ จึงปักหลักอยู่เคียงข้างกับ ร.ต.ต.แชน มาตลอด กล่าวว่า หลังจากที่ได้อยู่ร่วมชายคากับชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง มี ร.ต.ต.แชน คอยให้ความรู้และฝึกปรือวิชา ไม่ได้มองว่าภารกิจคือสิ่งที่ต้องทำ แต่กลับเป็นสิ่งที่ชอบทำและมีความสุขทุกครั้งที่สามารถปลดชนวนระเบิดไม่ให้สร้างความสูญเสียได้ คือความสุขที่ยิ่งใหญ่
"สุดยอดของราชการคือการตายในเครื่องแบบ เมื่อตัดสินใจเลือกเส้นทางเดินในสิ่งที่ชอบแล้วต้องทำให้ดีที่สุด ยิ่งในวันที่ขาดเสาหลักยิ่งต้องเรียนรู้และพัฒนาความรู้ความสามารถอย่างรอบด้านมากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้คือเป้าหมายของคนร้าย ดังนั้นเราจึงไม่สามารถหยุดนิ่งหรือหยุดคิดที่จะพัฒนาการสิ่งใหม่ๆ ได้เลย"
..............................
(หมายเหตุ : อหังการ'เหยี่ยวดง'วันนี้ยัง'กล้า-ท้า-เสี่ยงตาย' : สำนักข่าวเนชั่น-สุพิชฌาย์ รัตนะ)