ข่าว

มนุษย์จอมพลัง'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์'

08 ก.พ. 2557

มนุษย์จอมพลัง'ชัชชาติ สิทธิพันธุ์' 'ถ้ามีพลังพิเศษจะขอให้คนไทยสามัคคี'

              กลายเป็นกระแสฮือฮาสำหรับนาย "ชัชชาติ สิทธิพันธุ์" รัฐมนตรีร่างสูงใหญ่เจ้ากระทรวงคมนาคมที่กำลังฮอตในสังคมออนไลน์ หลังจากมีคนนำภาพหลากหลายอิริยาบถของรัฐมนตรีผู้นี้ รวมไปถึงการสร้างคอสเพจ และทำโมเดลการ์ตูนซูเปอร์แมนล้อเลียนไปเผยแพร่ในโลกโซเชียลมีเดียในลักษณะหยิกแกมหยอก ซึ่งเรื่องนี้คนข่าวในเครือเนชั่น ไม่พลาดที่จะขอสัมภาษณ์รัฐมนตรีหนุ่มใหญ่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ในรายการ "เนชั่น มิตรไนท์" ตลอดจนความเห็นในเรื่องการเมือง พร้อมทั้งเรื่องความสัมพันธ์กับครอบครัวหลังเข้าสู่สนามการเมืองในโควตาของพรรคเพื่อไทย

              ผู้ดำเนินรายการถาม รู้สึกอย่างไรกับคำว่า รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีที่มีคนนำแชร์กันในโซเชียลมีเดีย

              นายชัชชาติ ตอบว่า รู้สึกงง เหมือนกับก็รู้ว่าไม่ใช่ตัวเรา เพราะคงไม่ได้แกร่งถึงขนาดนั้น แต่ถ้าพูดถึงคาแรกเตอร์ที่เป็นตัวการ์ตูนก็ดูแล้วขำๆ ดี มันเหมือนเป็นกระแส ที่คนได้แสดงออกถึงความคิดแปลกๆ พูดถึงกระแสในหลายๆ รูปแบบ

              ผู้ดำเนินรายการถาม ตอนที่เห็นภาพ และธีมต่างๆ ในอินเทอร์เน็ต งงมั้ยครับ?

              นายชัชชาติ ตอบอย่างอารมณ์ดีว่า งงครับ ตอนแรกที่เห็นภาพใส่บาตรใส่แขนสั้นใส่รองเท้าแตะหลุดไป เราคิดว่า จะไม่เหมาะสมรึเปล่า แต่คนไม่ว่าอะไร ออกไปก็โอเค ตอนนั้นไปใส่บาตรที่สุรินทร์

              ผู้ดำเนินรายการถาม-แต่ภาพนั้นเป็นภาพที่กลายเป็นมีคนแชร์กันเยอะมาก และนำไปตัดต่อเป็นภาพต่างๆ ที่วัดบูรพาราม

              นายชัชชาติ กล่าวว่า ภาพนี้ก็ดีครับ รองเท้าก็ไม่ใส่ กางเกงขาสั้น เสื้อแขนกุด โอเคครับ เป็นตัวตนของเราจริงๆ ส่วนมากเป็นตัวตนเราดี ไม่ต้องไปเสแสร้งทำหล่ออะไร ส่วนอีกอันเป็นรัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพีมีพลังรอบตัว แต่รูปที่เป็นซูเปอร์แมนใส่บาตร อันนี้ผมยังไม่เห็น แต่คงแปลกดี ถ้าทำแล้วมีความสุข ผมว่าสนุกๆ กัน มันเป็นในบรรยากาศที่บ้านเมืองกำลังเคร่งเครียดผมว่า เป็นแบบขำๆ

              ส่วนที่ถามว่า ภาพไหนที่ชอบสุดนั้น ส่วนตัวรูปที่ขำที่สุด น่าจะเป็นรูปใส่ผ้าถุงคอกระเช้า เป็นรุ่นแรกๆ เลยนะ ลูกเห็นรูป ขำกลิ้งเลย เหมือนประทับใจมาตลอด เรื่องนี้ผมไม่ค่อยซีเรียส เพราะอีกอย่างหนึ่งคือ ผมอยู่การเมือง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวกับการเมือง มันเหมือนกับทุกคนมาคอมเมนท์ได้ ไม่ว่าจะอยู่ฝั่งไหน หรือว่าจะมีความเห็นทางการเมืองอย่างไร 
              "บางทีไม่จำเป็นต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมันมีเรื่องที่เราคุยกันได้ เราเอาตรงนี้มาเป็นจุดแข็งเพื่อเดินต่อไปดีหรือไม่ เพราะจริงๆ แล้วอย่างนี้คือ สิ่งที่เราไม่ค่อยมี ที่เหมือนกับว่าปัจจุบันนี้ในเว็บก็แบ่งฝ่าย แต่บางเรื่องมันสามารถร่วมกันได้ ถ้านำตรงนี้ไปพัฒนาต่อไปได้จะเป็นเรื่องที่ดี แต่เป็นเรื่องของธรรมชาติ คงไปบังคับอะไรไม่ได้ เพราะว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันมาเอง เราไม่ได้ไปออกแบบ หรือว่า ไปจงใจทำ แต่ยืนยันว่า จัดเต็มที่ได้ครับ" นายชัชชาติ กล่าว

              ผู้ดำเนินรายการถาม หากมีพลังพิเศษ 1 อย่าง จะอยากมีพลังอะไรในตัวท่าน

              นายชัชชาติ ตอบว่า พลังที่อยากมีนะครับ คือ อยากจะทำให้ทุกคนสามัคคีและรักกันได้ เพราะว่าสำหรับผมที่มองตอนนี้ บ้านเมืองขัดแย้งกันรุนแรง  บางทีหาทางออกไม่เจอ  อยากจะมีความพิเศษที่ทำให้เราหันหน้าคุยกันได้ เห็นต่างได้ แต่ไม่ต้องทะเลาะกันสิ่งนี้น่าจะทำให้ผมแข็งแกร่งที่สุดในปฐพีจริงๆ ความสามัคคีคือสิ่งที่ผมอยากให้เป็น เพราะว่าตอนนี้เป็นห่วง ไม่รู้จะไปทางไหนต่อกัน

              ผู้ดำเนินรายการถาม หากพูดถึงเรื่องครอบครัว มีข่าวเหมือนครอบครัวของท่านจะไม่ปลื้มพรรคฝั่งรัฐบาล และยังห้ามตอนไปเป็นรัฐมนตรีด้วย

              นายชัชชาติ ตอบว่า อาจจะไม่ใช่เรื่องพรรค แต่เป็นเรื่องของอดีตนักการเมือง ครอบครัวผมเป็นราชการมาตลอด คุณพ่อข้าราชการ คุณแม่รัฐวิสาหกิจ พี่น้อง 3 คน เป็นข้าราชการหมด เพราะฉะนั้นคำว่า นักการเมือง ไม่คุ้น ผมว่าคงเหมือนกับหลายๆครอบครัว วันที่ไปบอกคุณแม่ว่า จะต้องเป็นรัฐมนตรีช่วยในตอนนั้น คุณแม่ร้องไห้ บอกว่า อย่าเป็นเลยแม่ขอ เพราะเราไม่เคยบอกล่วงหน้ามาก่อน แต่ว่าเราตัดสินใจแล้วว่า มีโอกาสมาถ้าทำให้ประเทศชาติต้องทำสักพักหนึ่งท่านก็โอเค

              ผู้ดำเนินรายการถาม เวลาที่ไปอธิบาย หรือพยายามโน้มน้าวให้คุณแม่เห็นด้วย ใช้คำพูดว่าอย่างไรบ้าง

              นายชัชชาติ กล่าวว่า บอกไปว่า เรามีโอกาสทำงานให้ประเทศชาติ น่าจะต้องทำ เรามีจุดยืนของเรา ทำให้ดีที่สุด ในกรอบในแบบแผนของเรา แล้วค่อยๆ ทำ ตอนนี้ดี แม่เป็นผู้สนับสนุนทุกอย่าง อยู่ในสภา ทำท่าง่วงๆ ท่านโทรศัพท์มา อย่าหลับๆ ก็ดีครับ น่ารักครับต้องขอบคุณแม่มากครับที่ให้คำปรึกษาจากที่ท่านไม่เห็นด้วย ท่านเปลี่ยนมาเป็นผู้ช่วย ให้กำลังใจเรา  
              ผู้ดำเนินรายการถาม ท่านมีพี่ชายที่เป็นฝาแฝด มีข่าวว่าไปชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.

              นายชัชชาติ กล่าวว่า ตอนนั้นยังไม่ใช่กลุ่ม กปปส. ตอนนั้นยังเป็นเรื่องของ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม พี่อยู่ในกลุ่มเป็นหมอ พี่ชายผมมีความเห็นส่วนตัวของเขา ผมว่าเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องการเมือง เราไม่คุยกันมาก แต่มีอะไรเขาจะโทรศัพท์มาถาม บางทีก็มีรูปผมและมีคำบรรยายว่า พูดอย่างนี้ พี่เขาโทรมาถามว่า ทำไมพูดยังนี้ เราต้องอธิบายว่า เวลาใครโพสต์ บางทีเขาเอาไปโพสต์ต่อ แค่ประโยคเดียวจากทั้งหมด ผมจะบอกว่า ไม่ใช่ ความหมายจริงๆ เป็นอย่างนี้ 

              ผู้ดำเนินรายการถาม ไม่มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์?

              นายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่มีครับ รักกันเหมือนเดิม เพราะว่ามันเป็นเรื่องของความเห็นส่วนบุคคล ผมว่าคือ ความสวยงามของระบอบประชาธิปไตย ขนาดผมเป็นฝาแฝด มาจากไข่เดียวกันแล้วมาแยกออก หน้าเหมือนกัน ยังคิดต่างได้ครับ คนในสังคมก็เหมือนกันครับ เราควรจะร่วมหาทางออกไปด้วยกัน อย่างในของกระทรวงคมนาคม ผมไม่ว่า เห็นต่างได้ เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล

              ผู้ดำเนินรายการถาม ปิดท้าย สาวๆ ฝากถามมาเยอะ เข้าใจว่า ท่านแต่งงานแล้ว แต่ว่าย้อนไปตอนที่เป็นวัยหนุ่ม สาวๆ ในสเปกท่านตอนนั้น ?

              นายชัชชาติ ตอบว่า ตอนนั้นผมเป็นเด็กเรียนมาก ไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ เจอภรรยาตอนเรียนจบ สเปกไม่มีครับ ส่วนภรรยาเป็นคนเรียบร้อย และรักเรามาก สิ่งนั้นคือ ความประทับใจแล้ว เขาเป็นคนเรียบๆ ง่ายๆ รักซึ่งกันและกันโอเคแล้ว เหมือนกันเพื่อนกันครับ สำคัญที่สุดเราต้องดูแลลูก

.................................................

(หมายเหตุ : ภาพจากเว็บไซต์พันทิพ)