รอยไหม้บนลวดสลิง คลี่ปม..นรต.ฝึกโดดร่มดับ | คมชัดลึก

 

                           เช้าตรู่วันที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา อากาศบริเวณโดยรอบสนามโดดร่มตุงคะเตชะ ค่ายนเรศวร อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ปลอดโปร่ง เหมาะกับภารกิจฝึกกระโดดร่มของนักเรียนนายร้อยตำรวจ (นรต.รุ่น 69) ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 2 ทำให้บรรยากาศการฝึกในวันนั้นเป็นไปด้วยความคึกคัก เพราะเป็นการฝึกกระโดดร่มแบบ Static line ซึ่งมีความสูงจากพื้นดิน 40 เมตร เป็นครั้งแรกของปีนี้

 

                           การฝึกกระโดดร่มประเภทนี้ ตัวร่มในเป้จะมีสายยาวๆ เอาไว้ฮุคเกี่ยวกับสายสลิงในห้องโถงของเครื่องบิน เมื่อกระโดดลงมาจากเครื่อง ร่มจะกระตุกให้เองโดยอัตโนมัติ หลังจากออกจากตัวเครื่องบินภายในเวลา 3-5 วินาที  

 

                           เครื่องบินรุ่นคาซ่า สังกัดกองบินตำรวจ คือพาหนะที่นำนักเรียนนายร้อยตำรวจปีที่ 2 รุ่น 69 จำนวน 8 คน คือ นรต.ชานนท์ อยู่เย็น, นรต.ก้องกิดากร ครามแสง, นรต.ชยากร พุทธไชยยงค์, นรต.เจริญพร รินทะระ, นรต.กฤษณ์ เหมขจร, นรต.ณัฐวุฒิ ตีระสุวรรณสุข, นรต.กฤตินัย เงินยวง, นรต.กฤษณะ กิมไพศาล และอีก 1 คน คือ พ.ต.อ.ปรีชา บุญสุข เป็นชุดแรกที่ขึ้นฝึกกระโดดร่ม และเป็นครั้งแรกในการฝึกกระโดดร่มของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นนี้ 

 

                           เครื่องบินคาซ่าบินไต่ระดับขึ้นไปที่ความสูง 400 เมตร เหนือสนามฝึกกระโดดร่มค่ายนเรศวรในเวลา 07.30 น. นักเรียนนายร้อยตำรวจฝึกกระโดดร่มเป็นโหลดแรก ได้เวลาดิ่งพสุธา ตามหลักสูตรฝึกกระโดดร่มแบบ Static line 

 

                           แต่ชั่วเวลาไม่กี่อึดใจนับจากนั้นก็เกิดโศกนาฏกรรมขึ้น เมื่อร่างนักเรียนนายร้อยตำรวจลอยละลิ่วตกลงมากระแทกพื้นในเวลาไล่เลี่ยกันถึง 2 คน โดยร่มไม่กาง ส่งผลให้ทั้งสองคนเสียชีวิต เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาผู้ปกครอง ซึ่งไปรอชมการฝึกกระโดดร่มของนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นนี้ ต่างกรูกันเข้าไปกอดศพผู้เสียชีวิตด้วยความอาลัย และต่างตั้งคำถามว่า เพราะอะไรคือชนวนเหตุที่ทำให้เกิดความผิดพลาดขึ้นในการฝึกครั้งนี้

 

                           หลังเกิดเหตุ ร.ต.อ.ประเทือง แสงอร่าม พนักงานสอบสวน สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวช เข้าตรวจสอบ พบผู้ตายศพแรกคือ นรต.ชยากร พุทธไชยยงค์ หรือโยโย่ อายุ 19 ปี นอนเสียชีวิตในสภาพคว่ำหน้า ศีรษะกระแทกพื้นจนกะโหลกยุบ ห่างออกไปประมาณ 90 เมตร พบศพ นรต.ณัฐวุฒิ  ตีระสุวรรณสุข หรือฟิวส์ อายุ 21 ปี นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ใต้ต้นไม้

 

                           ร.ต.อ.ศรายุ กลิ่นหอม ผบ.มว.กองร้อยที่ 2 ฝ่ายปกครอง โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ ให้รายละเอียดว่า ก่อนการฝึกกระโดดร่มมีการตรวจเช็กและทดสอบทุกสิ่งทุกอย่างเรียบร้อย ซึ่งผู้ที่กระโดดลำดับที่ 1-3 ร่มกางปกติ แต่ตั้งแต่คนที่ 4 เป็นต้นไปร่มมีปัญหาไม่กาง ทำให้ นรต.ชยากร และ นรต.ณัฐวุฒิ ซึ่งกระโดดเป็นลำดับที่ 4 และลำดับที่ 7 ร่างกระแทกพื้นเสียชีวิต ขณะที่คนอื่นๆ ที่ร่มประสบปัญหาสามารถกางร่มสำรองลงมาถึงพื้นได้อย่างปลอดภัย แต่ก็มีบางรายได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต

 

                           พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. มอบหมายให้ พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา (สบ 10) ซึ่งกำกับดูแลงานด้านพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ใช้กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์ ค้นหาสาเหตุที่นำมาสู่ความสูญเสียของนักเรียนนายร้อยตำรวจชุดนี้

 

                           พล.ต.อ.จรัมพร พร้อมผู้เชี่ยวชาญจากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเก็บสายสลิง ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการกระตุกร่มให้ผู้ฝึกกระโดดร่ม ไปตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่า สลิงที่เรียกว่า "สแตติกไลน์" ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อยึดสายสลิงเอาไว้โดยการบีบอัดไม่ได้มาตรฐาน ทำให้สายสลิงหลุดออกจากท่อและตัวจับยึดประมาณ 11 เซนติเมตร และยังพบว่า สายสลิงที่ยึดตรงหัวเครื่องด้านซ้ายมีรอยไหม้ และมีรอยตัด โดยการเจียรด้วยความร้อน ซึ่งหมายความว่า สายสลิงชุดนี้มีการดัดแปลงไปจากเดิม ไม่ใช่สายสลิงที่เป็นไปตามสเปกของสายสลิงที่จะนำมาใช้กับเครื่องบินลำนี้

 

                           สายสลิงที่หลุดออกมาระหว่างนักเรียนนายร้อยตำรวจกำลังกระโดดลงจากเครื่องบิน นอกจากจะทำให้ร่มไม่สามารถกางเองได้โดยอัตโนมัติแล้ว ยังทำให้นักเรียนเสียการทรงตัว จึงไม่สามารถกระตุกร่มด้วยตัวเองได้ทัน เพราะระยะเวลาการกระโดดร่มในความสูงระดับ 1,250 ฟุต หรือ 400 เมตรจากพื้นดิน หากร่มไม่กางจะใช้เวลาตกถึงพื้นเพียง 12 วินาที ต่างจากกรณีร่มกางจะใช้เวลาประมาณ 1 นาที จึงจะถึงพื้น

 

                           "สายสลิงที่พบในวันเกิดเหตุ เมื่อผ่านกระบวนการตรวจสอบแล้วพบว่า มีความหนา 8.4 มิลลิเมตร สามารถรับน้ำหนักได้ 4.5 ตัน ซึ่งพบร่องรอยการดัดแปลงนำมาใช้แทนชุดเดิมที่ชำรุด การนำสลิงดังกล่าวมาใช้ถือเป็นการผิดสเปกของเครื่องบินรุ่นคาซ่า ที่ปกติในการฝึกกระโดดร่มจะใช้สายสลิงขนาดความหนา 7.15 มิลลิเมตร รับน้ำหนักได้ 3.3 ตัน" พล.ต.อ.จรัมพร เปิดเผย

 

                           พล.ต.อ.จรัมพร บอกด้วยว่า สายสลิงที่ใช้จะมีอายุการใช้งานไม่แน่นอน แต่จะเปลี่ยนทันทีที่พบการชำรุด โดยต้องเปลี่ยนทั้งเส้น ไม่สามารถซ่อมแซมบางจุด หรือนำสายสลิงแบบอื่น หรือใช้งานกับเครื่องบินรุ่นอื่นมาใช้งานแทนได้ ขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยจะมีวงรอบในการตรวจสอบทุก 540 วัน ตามมาตรฐานสากลของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา 

 

                           "จากการตรวจสอบไม่พบหลักฐานที่นำไปสู่สาเหตุความสูญเสียในเรื่องอื่น นอกจากอุบัติเหตุที่เกิดจากสายสลิงหลุด" พล.ต.อ.จรัมพร ยืนยัน

 

                           ตำรวจพิสูจน์หลักฐานได้นำผลการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับการตรวจสอบสลิง ร่วมถึงหลักฐานอื่นที่พบในจุดเกิดเหตุ ส่งให้พนักงานสอบสวน รวมถึงคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้ เพื่อใช้ในการพิจารณาดำเนินการต่อ เพื่อตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขดัดแปลงและการนำสายสลิงที่ไม่ตรงตามสเปกมาใช้งาน ก่อนจะพิจารณาเอาผิดในข้อหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

 

 

 

 

----------------------

 

(รอยไหม้บนลวดสลิง คลี่ปม..นรต.ฝึกโดดร่มดับ : คลี่ปมปริศนา CSI THAILAND : โดย...ทีมข่าวอาชญากรรม)