ข่าว

'ต๋อง'ปิดฉากสนุ้กโลก25ปีแห่งการยืนหยัดสู้!

'ต๋อง'ปิดฉากสนุ้กโลก25ปีแห่งการยืนหยัดสู้!

03 พ.ค. 2557

สปอร์ต คม วีกเอนด์ : 'ต๋อง' ปิดฉากสนุ้กโลก 25 ปีแห่งการยืนหยัดสู้! : เรื่อง...อภิชาติ ระวีวัฒน์

 
                             ในยุทธจักรสอยคิวโลก หากเอ่ยชื่อถึง "ไทยทอร์นาโด" หรือ วัฒนา ภู่โอบอ้อม อดีตนักแทงมือ 3 ของโลกขวัญใจชาวไทย ชื่อเสียงเรียงนามนี้... คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธความสามารถเป็นแน่แท้
 
                             เพราะตั้งแต่ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" เทิร์นโปรเล่นอาชีพมาตั้งแต่ปี 1989 พร้อมกับเพื่อนร่วมรุ่นอย่าง "พ่อมดวิสกี้" จอห์น ฮิกกินส์ อดีตแชมป์โลก และ "ไอ้แก้มแดง" สตีเฟน ลี ที่มีปัญหาคดีล้มคิวโลก ฯลฯ
 
                             กระทั่งมาถึงช่วงยุครุ่งโรจน์ที่สุดช่วงปี 1994/1995 “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” หรือ รัชพล ภู่โอบอ้อม ชื่อจริงในปัจจุบันนี้ สามารถใช้พลังคมคิวเพลงกระบี่ของตัวเองที่มีอยู่ ฝ่าฟันอุปสรรคคู่ต่อสู้จนขยับจากมือไร้อันดับไปเป็น มือ 3 ของโลก ได้ในเวลารวดเร็ว
 
                             ชนิดเรียกได้ว่าฝรั่งตาน้ำข้าวในยุโรปและทั่วโลกต่างตกใจและทึ่งในฝีมือของเด็กหนุ่มไทยคนนี้ว่า มาจากไหน ทำไมถึงออกคิวได้แม่นยำเหมือน "ไต้ฝุ่น" หรือพายุ "ทอร์นาโด" ขนาดนี้ ก่อนจะตั้งฉายาให้เป็น "ไทยทอร์นาโด" โดยเฉพาะลูกแทงหลุมกลางเสียงดังเปรี้ยงปร้างยิ่งกว่าจับวาง
 
                             ณ เวลานั้นฝีมือระดับ "ต๋อง" เป็นรองเพียงแค่ "มัจจุราชผมทอง" สตีเฟน เฮนดรี อดีตแชมป์โลก 7 สมัย และ "เทพบุตรคิวทอง" สตีฟ เดวิส อดีตแชมป์โลก 6 สมัย เท่านั้นเอง
 
                             นอกจากนี้ในสมัยนั้น "ต๋อง" ยังเป็นนักสนุกเกอร์คนที่ 8 ของโลก สามารถโกยเงินรางวัลได้มากกว่า 1 ล้านปอนด์ ซึ่งในเวลานั้นเขาทำเงินไปได้ 1.75 ล้านปอนด์ ภายในหนึ่งปี ก็ลองเอา 50-60 คูณกันดูก็แล้วกันว่าเป็นเงินเท่าไหร่ที่อดีตเด็กหนุ่มสลัมคลองเตยคนนี้โกยเข้ากระเป๋า
 
                             ว่ากันว่า อดีตฮีโร่คนไทยทั้งชาติอย่าง เขาทราย แกแล็คซี่, สมรักษ์ คำสิงห์, มนัส บุญจำนงค์ และ สมจิตร จงจอหอ ยังหาเงินได้ไม่เทียบเท่า "ต๋อง" เลย   
 
                             โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "รัชพล" สามารถทำผลงานได้ดีที่สุด คือช่วงทศวรรษปี 90 ตัวเขาได้รับการคาดหวังจากผู้คนรอบด้านทั้งภายในประเทศและสื่อต่างประเทศเป็นอย่างมากว่าจะผงาดเป็น "เบอร์ 1 ของโลก" สักครั้งเหมือน เฮนดรี และสตีฟ
 
                             ยิ่งในบ้านเราได้เกิดกระแส "ต๋องฟีเวอร์" ไปทั่วทุกหย่อมหญ้า ประชาชนมาให้ความสนใจกีฬาชนิดนี้กันมากขึ้น จากสมัยก่อนหลายคนมองว่าสถานที่ดังกล่าวเป็นแหล่งชุมนุมของ พวกกุ๊ย-นักเลงหัวไม้ หรือ พวกเหลือขอ ไม่มีอนาคตก็ตามที
 
                             แต่ "ต๋อง" ลูกฉ่อย ซู่ซ่า คนนี้ได้ใช้สองมือหนึ่งสมองของตัวเอง บวกกับความอัจฉริยะในเกมกีฬาชนิดนี้ที่ตัวเขามีอยู่ สร้างกระแสความนิยมไปทั้งประเทศ จนถึงขนาดผู้นำรัฐบาลในยุคนั้นรวมไปถึง "ป๋าเปรม" พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ขอสัมผัสตัวจริงกันเลยทีเดียว
 
                             ในฐานะ ผู้ทำชื่อเสียงให้ประเทศด้านกีฬา
 
                             กระทั่งหลังฤดูกาล 1997 ฟอร์มของรัชพล เริ่มตกลงไปอย่างน่าใจหาย จนในปี 1999 อันดับโลกของ "ต๋อง" ก็หลุดลุ้ยจากมือท็อป 16 คนแรกของโลก ก่อนจะสาละวันเตี้ยลงหลุดไปเกินมือ 64 โลก และกลับไปเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่อยู่ที่เมืองไทยอีก 1-2 ปี
 
                             จนมาถึงการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์เอเชียปี 2009 ที่เมืองถังซาง ประเทศจีน ต๋อง คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยที่ 3 จนได้สิทธิ์อัตโนมัติกลับไปแข่งขันอาชีพโลกอีกครั้งในปีถัดไป
 
                             สิ่งนั้นจึงเป็นที่มาให้ทุกคนได้เห็นผลงานของ "ต๋อง" บนเวทีโลกอีกครั้งเป็นหนที่ 2 ทว่า... ด้วยวัยมากขึ้นถึง 44 ปี สายตาเหลี่ยมคมการออกคิวของ "ต๋อง" ไม่แจ๋วหรือชัดเจนเหมือนสมัยก่อน ผสมกับสนุกเกอร์สมัยใหม่ทุกมือสามารถเอาชนะกันได้หมด
 
                             แถมล่าสุดสหพันธ์สอยคิวอาชีพโลก ได้เปลี่ยนกฎกติกาการนับคะแนนสะสมอาชีพโลกใหม่ จากเดิมเอาคะแนนสะสมเป็นตัวกำหนด แต่ทุกวันนี้เอาเงินรางวัล 2 ปีรวมเป็นหนึ่งเดียว หรือทูเยียร์มันนี เป็นการพิจารณาว่า หากใครทำเงินรางวัลติดท็อป 1 ใน 64 คนสุดท้ายของโลกจะได้สิทธิ์อยู่ต่อ
 
                             ส่วนคนที่หลุดวงโคจรนี้ตั้งแต่มือ 65 ของโลกลงไปจะต้องเริ่มต้นนับหนึ่งกันใหม่ กรณีของ ต๋อง พลาดท่าเจ๊งชัยให้ อเลกซ์ บอร์ก ชาวมอลตา ตั้งแต่รอบแรก ส่งผลให้เขาไปอยู่ที่มือ 67 ของโลกในทันที
 
                             นับตั้งแต่วันแรกจนถึงทุกวันนี้ รัชพล ยืนหยัดต่อสู้บนถนนสายนี้มายาวนานถึง 25 ปี แล้ว ไม่น่าเชื่อว่าตอน “ต๋อง” เริ่มโด่งดังอายุแค่ 14 ปี แต่ตอนที่โชคอับเฉามาอายุ 44 ปีพอดี เรียกได้ว่าตลอด 30 ปีคนที่ชื่นชอบกีฬาชนิดนี้คุ้นเคยกับเขาเป็นอย่างดี
 
                             ล่าสุดแม้ว่า “ต๋อง” จะขอสิทธิ์ตั๋วไวลด์กราดผ่านไปยัง “บิ๊กสิน” สินธุ พูนศิริวงศ์ ประมุขใหญ่สอยคิวไทยตลอดกาล เพื่อช่วยให้ “ต๋อง” ได้กลับไปโลดแล่นบนถนนสายนี้เป็นครั้งที่สาม แต่ไม่รู้ว่าด้วยอายุที่มากขึ้นจะได้รับการพิจารณาประเด็นดังกล่าวหรือไม่
 
                             ทั้งนี้คงต้องวัดใจ สินธุ กันต่อไป หาก ต๋อง ไม่ได้ไปแข่งขันอาชีพอีกแล้ว ตำแหน่ง “ผู้ฝึกสอน” และ “บอร์ดบริหารสมาคม” ยังว่างสำหรับตัวเขาเสมอ ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า "ไอดอลสอยคิว" ของคนไทยทั้งชาติจะไปยืนตรงจุดไหน หลังหมดหน้าที่ภารกิจสำคัญของชีวิตแล้ว
 
 
 
 
---------------------------
 
(สปอร์ต คม วีกเอนด์ : 'ต๋อง' ปิดฉากสนุ้กโลก 25 ปีแห่งการยืนหยัดสู้! : เรื่อง...อภิชาติ ระวีวัฒน์)