4 ซิ่งไทยร่วมนูร์เบอร์กริง 24 ชม. | คมชัดลึก

 

                         ทุกวันนี้วงการมอเตอร์สปอร์ตในบ้านเรากำลังตื่นตัวอย่างสุดขีด ล่าสุดค่าย "สามห่วง" บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ได้ส่งรถยนต์โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส 1.8 อีสปอร์ต เข้าร่วมศึก “รายการ 24 ชั่วโมง นูร์เบอร์กริง” มี 4 นักแข่งแถวหน้าของไทยเข้าร่วม ประกอบด้วย สุทธิพงศ์ สมิตชาติ, ณัฐวุฒิ เจริญสุขะวัฒนะ, ณัฐพงษ์ ห่อทองคำ และ กีกี้ ศักดิ์นานา  

 

                         ทั้งนี้ ทีมไทยเป็นเพียงทีมเดียวจากอาเซียน และเป็นชาติที่ 2 ของเอเชีย ที่ได้เข้าร่วมการแข่งขันรายการใหญ่ระดับโลก ช่วงวันที่ 19-22 มิถุนายนนี้ ณ เมืองนูร์เบอร์ก ประเทศเยอรมนี

 

                         ล่าสุด สุทธิพงศ์ ผู้จัดการทีมและหนึ่งในนักขับ เปิดเผยว่า สนามนูร์เบอร์กริง 24 ชั่วโมง เป็นรายการแข่งขันชื่อดังติด 1 ใน 3 ของรายการแข่งรูปแบบ 24 ชม. โดยใช้รถโปรดักชั่นคาร์ที่มีจำหน่ายตามโชว์รูมและนำมาโมดิฟาย ไม่ได้เป็นรถแข่งโดยเฉพาะ จึงทำให้รายการนี้ได้รับความนิยมจากคาร์เมกเกอร์ทั่วโลก เพราะสามารถทดสอบประสิทธิภาพและสมรรถนะของรถในแต่ละรุ่นอย่างเต็มที่ 

 

                         โดยเฉพาะรถในกลุ่มยุโรปเยอะมาก รายการนี้เป็นรายการที่ท้ายทายความสามารถของนักขับทุกคน ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่ต้องขับยาวนานถึง 24 ชม. ทั้งรถและคนจะต้องมีความพร้อมและสมบูรณ์เต็มที่ ด้วยความเร็ว 200-250 กม.ต่อชม. อยู่บนถนนจริงๆ ที่ไม่ใช่สนามแข่งรถอย่างเดียว ระยะทางรวม 26 กิโลเมตร กับ 73 โค้ง ที่อันตรายทั้งแคบและคดเคี้ยว ขึ้นลงเนินสูงต่ำอยู่ตลอดเวลา 

 

                         ทำให้รายการนี้เป็นหนึ่งในรายการที่นักขับทั่วโลกต้องการมาให้ได้สักครั้งในชีวิต ที่ผ่านมานักขับทั้ง 4 คน ของทีมไทยแลนด์ ต้องผ่านการแข่งในรายการ วีแอลเอ็น รายการย่อยที่จัดโดยผู้จัดการแข่งขันนูร์เบอร์กริง เพื่อเก็บชั่วโมงสะสมในการขับ 26 กม. ไม่น้อยกว่า 6 ชม. ก่อนจะได้รับใบอนุญาตเพื่อเข้าแข่งในรายการใหญ่ “24 ชม. นูร์เบอร์กริง” ที่จะเกิดขึ้นได้ ซึ่งทำให้ทีมได้มีประสบการณ์ตรงได้ขับและทำความคุ้นเคยกับสนามอย่างเต็มที่ 

 

                         สำหรับการแข่งขันปีนี้มีรถเข้าร่วมการแข่งขันจากทั่วโลกกว่า 282 คัน แบ่งออกเป็นรุ่นตามความจุของเครื่องยนต์ โดยครั้งนี้เราลงในรุ่น 1,601-2,000 ซีซี ด้วยเบอร์ข้างรถ 194 ด้านการเตรียมพร้อมก่อนไปลงสนามจริงในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ 

 

                         ผจก.ทีม ยังกล่าวอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้ ทีมใช้รถโตโยต้า โคโรลล่า อัลติส เอสสปอร์ต เครื่อง 1,800 ซีซี ตัวรถตอนนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนทีมเซอร์วิสเรานำหัวหน้าช่างคนไทยและวิศวกรชาวญี่ปุ่นไปทำงานร่วมกับทีมเซอร์วิสจากยุโรป นักขับในทีมทุกคนต้องทำการบ้านมากขึ้น เพราะต้องจดจำเส้นทางการขับให้ได้ทั้งหมดและต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาการแข่งขันอย่างเข้มงวดเพราะเราถือเป็นตัวแทนจากประเทศไทยทีมแรก และเป็นทีมที่ 2 จากเอเชียที่ผู้จัดและค่ายรถที่เข้าร่วมแข่งขันและนักขับทุกคนรวมถึงสื่อมวลชนที่ชาวเยอรมันก็จับตามองอยู่  

 

                         ทำให้เราต้องรอบคอบและพยายามทำให้ดีที่สุด นอกจากนี้ก็จะเป็นเรื่องการวางแผนการขับและการสลับนักแข่งในทีม เป้าหมายสูงสุดในการแข่งปีนี้ซึ่งเป็นปีแรกของการไปแข่งไม่ใช่ชัยชนะ หรือถ้วยรางวัลเป็นอันดับแรก แต่เป็นประสบการณ์ที่ทั้งทีมนักขับและทีมเซอร์วิสจะได้เรียนรู้ และนำมาปรับปรุงสำหรับการแข่งขันในปีต่อไป  

 

                         ขณะที่ ณัฐวุฒิ ก็ฝากถึงแฟนกีฬามอเตอร์สปอร์ตชาวไทยทุกคนว่า “การแข่งขันครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับพวกเราทุกคน อยากฝากให้มาติดตามชมและเชียร์เป็นกำลังใจให้ทีมเราได้ทาง www.toyotateamthailand.com  และ facebook/ToyotaTeamThailand 

 

                         สนามนูร์เบอร์กริง หรือที่รู้จักในชื่อ “เดอะริง” สนามแข่งรถระดับตำนานของเยอรมนี ตั้งอยู่ในเมืองนูร์เบอร์ก ทางตะวันตกของประเทศเยอรมนี เมืองสำคัญของแคว้นบาเยิร์น ห่างจากมิวนิค เมืองหลวงของแคว้นไปทางเหนือราว 170 กม. นับเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 รองจากมิวนิค และห่างจากเมืองโคโลญจน์ 70 กม. และ 120 กม. จากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต 

 

                         สนามนี้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1925-1927 วัตถุประสงค์ตอนแรกเพื่อเป็นสนามแข่ง ต่อมาในปี ค.ศ.1927 ได้เปิดให้บริการทดสอบรถยนต์อีกด้วย เป็นสนามขนาดใหญ่ที่ประกอบด้วย 2 สนามย่อย ความยาวรวมทั้งสิ้น 25.98 กม. ประกอบด้วย Nordschleife (Northern Loop) ความยาว 20.832 กม. และ Grand Prix Circuit ความยาว 5.148 กม. ซึ่งเป็นส่วนที่สร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ.1982 เพื่อใช้แข่งรถทางเรียบ ตรงบริเวณที่เดิมที่เป็นจุดเริ่มต้นและเส้นชัยของสนาม 

 

                         ว่ากันว่าสนามแห่งนี้ได้รับการกล่าวขานเป็นสนามที่ขับยาก ท้าทาย และอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่เป็นหุบเขาคดเคี้ยว สนามแห่งนี้ถูกสร้างมาเพื่อใช้สำหรับแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง รายการเยอรมันกรังด์ปรีซ์ ตั้งแต่ปี 1947 จนถึง 1970 ก่อนจะถูกงดแข่งขันไประยะหนึ่ง เนื่องจากความยากและอันตรายของสภาพภูมิประเทศ และเส้นทางทำให้มีนักแข่งหลายต่อหลายคนต้องจบชีวิต ณ ดินแดนแห่งนี้

 

 

 

 

-----------------------

 

(4 ซิ่งไทยร่วมนูร์เบอร์กริง 24 ชม. 'โตโยต้า' ยกระดับมอเตอร์สปอร์ต : เรื่อง...อภิชาติ ระวีวัฒ์)