ทฤษฎีลึกลับ.. 100 วัน ปริศนา เอ็มเอช370 | คมชัดลึก

 

                          วันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา บรรดาญาติของผู้โดยสารเครื่องบินโบอิ้ง 777 เที่ยวบิน เอ็มเอช 370 สายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ ร่วมกันจัดงานรำลึก 100 วัน ให้แก่ผู้ที่สาบสูญไปพร้อมกับเที่ยวบินปริศนาเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2557  

 

                          ถือเป็นการไว้ทุกข์ท่ามกลางความสับสน!! เพราะหลายครอบครัวยังมีความหวังว่า ผู้โดยสารและลูกเรือจำนวน 239 คนนั้น อาจมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ยังไม่มีใครค้นหาพวกเขาพบเท่านั้น?

 

                          ช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา นักวิชาการ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ จึงพยายามรวบรวมทฤษฎีสมคบคิด หรือสมมุติฐานความเป็นไปได้ที่ทำให้เครื่องบินโบอิ้ง 777 ลำนี้หายไปอย่างลึกลับแบบไร้ร่องรอย และพบว่ามีสมมุติฐานที่น่าสนใจอยู่ 17 ทฤษฎีด้วยกัน 

 

 

 

 

                          ทฤษฎีแรก "นักบินฆ่าตัวตาย" ถูกกล่าวถึงในลำดับต้นๆ ของปมสันนิษฐาน ซึ่งมาจากความเชื่อที่ว่า “ซาฮารี อาห์หมัด ชาห์” นักบินอาจเป็นสมาชิกกลุ่มคลั่งพรรคการเมือง หรือมีความคิดบางอย่างเก็บกดไว้

 

                          กระนั้น เมื่อพิจารณาจากหลักฐานที่ตำรวจมาเลเซียตรวจสอบอย่างละเอียด กลับไม่พบประวัติว่าเขามีความผิดปกติทางจิต ดังนั้นทฤษฎีที่ 2 "ระบบเครื่องบินขัดข้อง-ไฟไหม้" จึงเป็นข้อสันนิษฐานใหม่ตามมา เนื่องจากสถิติเครื่องบินตกหรือเกิดอุบัติเหตุนั้น ส่วนใหญ่จะเกิดจากเครื่องยนต์มีปัญหาหรือขัดข้องบางประการ 

 

                          บางกลุ่มเชื่อว่า เครื่องยนต์ขัดข้องทำให้โบอิ้งลำนี้ดิ่งลงทะเลและจมหายไปทั้งลำ จึงไม่มีใครพบเศษซากชิ้นส่วน

 

 

 

 

                          ทฤษฎีที่ 3 "สินค้าลึกลับใต้ท้องเครื่องบิน" สืบเนื่องจากผู้บริหารสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์พยายามปกปิดข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับสินค้าที่บรรทุกอยู่ใต้ท้องเครื่องบิน เช่น มังคุด 4,000 กิโลกรัม ที่ไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่ามาจากสวนหรือฟาร์มแห่งใด โดยเฉพาะช่วงเดือนมีนาคม ไม่ใช่ฤดูเก็บเกี่ยวผลไม้ชนิดนี้ 

 

                          ทฤษฎีที่ 4 "เครื่องบินถูกจารกรรม" ด้วยความเชื่อที่ว่า มีองค์กรลึกลับต้องการลักพาตัวผู้โดยสารที่เป็นพนักงาน 20 คน ของบริษัทฟรีสเกล ผู้ผลิตสินค้าเซมิคอนดัคเตอร์ หรือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต่างๆ โดย 12 คนเป็นชาวมาเลเซีย และ 8 คนเป็นชาวจีน 

 

                          ส่วนทฤษฎีที่ 5 "การซ้อมรบผิดพลาด เครื่องโบอิ้ง 777 ถูกลูกหลงกลางอากาศ” ทฤษฎีนี้ค่อนข้างจินตนาการสูง เพราะผู้ที่เผยแพร่สมมุติฐานนี้ เป็นนักเขียนที่พยายามบอกว่า ระหว่างที่กองทัพไทยกับกองทัพสหรัฐอเมริกา กำลังซ้อมรบทางอากาศร่วมกันในช่วงนั้น เกิดความผิดพลาดทำให้เครื่องโบอิ้ง 777 ลำนี้โดนลูกหลงถูกจรวดยิงตกกลางอากาศ 

 

 

 

 

                          ทฤษฎีที่ 6 "โดนจารกรรม" หลายฝ่ายเชื่อว่า เครื่องบินลำใหญ่บรรทุกคนกว่า 200 คน จะหายไปได้ ต้องมีองค์กรระดับใหญ่ของสหรัฐอเมริกาอยู่เบื้องหลังแน่นอน สอดคล้องกับกลุ่ม 7 ที่เชื่อว่า หน่วยข่าวกรอง ซีไอเอ หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เป็นผู้จารกรรมเครื่องบินลำนี้ไปซ่อนไว้ที่ฐานทัพ “ดิเอโก การ์เซีย” ที่อยู่บริเวณมหาสมุทรอินเดีย ส่วนทฤษฎีที่ 8 เชื่อว่า น่าจะถูกไฮแจ็คไปแอบซ่อนไว้ในประเทศแถบ “อัฟกานิสถาน”

 

                          ทฤษฎีที่ 9 เชื่อว่านักบินใช้วิธี "หลบเรดาร์” แอบซ่อนอยู่ใต้เครื่องบินลำอื่น เพื่อไม่ให้ตรวจจับได้ โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน 68 เดินทางจากอินเดียไปอัฟกานิสถาน ซึ่งบินผ่านน่านฟ้าในเวลาเดียวกับเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ที่หายไป กลายเป็นเป้าการตรวจสอบ 

 

                          ทฤษฎีที่ 10 เชื่อว่า "ถูกจารกรรม" คล้ายกับทฤษฎีที่ 6 แต่เป็นฝีมือของกองทัพนิรนามที่พยายามรีโมทหรือใช้อุปกรณ์บังคับจากภายนอกเพื่อจารกรรมให้เครื่องบินลำนี้ไปเส้นทางที่ตัวเองต้องการ และเอาไปซ่อนไว้ที่ใดที่หนึ่ง ทำให้ไม่มีใครหาเจอ  

 

                          ทฤษฎีที่ 11 เชื่อว่า "ถูกไฮแจ็ค" คล้ายกับข้อสันนิษฐานที่ 8 แต่เป็นฝีมือของ “สลัดอากาศ” ที่จู่โจมนักบินแล้วบังคับเครื่องดิ่งลงทะเล โดยกลุ่มที่เชื่อเรื่องนี้ได้อ้างถึงผู้โดยสารต้องสงสัยชาวอิหร่านที่ใช้พาสปอร์ตปลอม 2 คน จากประเทศไทยด้วย 

 

 

 

 

                          ทฤษฎีที่ 12 เชื่อว่า เป็นการทดสอบ “สงครามอาวุธไฮเทค” ซึ่งอานุภาพของอาวุธนี้ อาจถึงขนาดทำให้เครื่องบินหายไปทั้งลำได้ นอกจากนี้ยังมีทฤษฎีที่ 13 เชื่อว่าเกิดจาก "เงื่อนงำเงินประกันชีวิต” เพราะมีผู้โดยสารบางคนทำประกันชีวิตไว้ในวงเงินที่สูงมาก ขณะนี้ตำรวจมาเลเซียกำลังสอบสวนว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่  

 

                          ทฤษฎีที่ 14 เชื่อว่า “มีองค์กรลับ” อยากจัดระเบียบโลก และพยายามลดประชากรของโลกใบนี้ลง จึงทดสอบกับเที่ยวบิน 370 ทฤษฎีที่ 15 เชื่อว่าเป็น "ช่องลึกลับของธรรมชาติที่ดูดเอาเครื่องบินลำนี้ไป" โดยเรียกว่า สามเหลี่ยมเบอร์มิวดาแห่งเอเชีย สอดคล้องกับทฤษฎีที่ 16 ที่เชื่อว่า มีคำทำนายลึกลับเตือนแล้วว่า จะมีเครื่องบินหายในปีนี้ 

 

                          ส่วนสมมุติฐานสุดท้ายเกิดจากสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ของสหรัฐอเมริกา ได้สำรวจความคิดเห็นของผู้ชมที่สนใจเรื่องนี้ และมีถึงร้อยละ 10 ที่เชื่อว่า "มนุษย์ต่างดาว" คือตัวการทำให้เที่ยวบินลำนี้สาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย 

 

 

 

 

-----------------------

 

(ทฤษฎีลึกลับ.. 100 วัน ปริศนา เอ็มเอช370 : โดย...โต๊ะรายงานพิเศษ)