ข่าว

ทหาร-ตร.ยึดตู้ม้า-อาวุธสงครามได้ต่อเนื่อง

ทหาร-ตร.ยึดตู้ม้า-อาวุธสงครามได้ต่อเนื่อง

24 มิ.ย. 2557

พล.ม.2 รอ.ยกอนุสาวรีย์เป็นโมเดลจัดระเบียบรถตู้ทั่วประเทศ ขีดเส้น หลังเที่ยงคืน 30 มิ.ย.รถตู้ทุกคันจอดใต้แอร์พอร์ตลิงค์ ทหาร-ตร.ยึดตู้ม้า-อาวุธสงครามได้ต่อเนื่อง

                24มิ.ย.2557 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พ.อ.สมบัติ ธัญญะวัน ผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนทหารม้าศูนย์การทหาร จ. สระบุรี ได้ร่วมประชุมผู้ประกอบการรถตู้ประมาณ 30 บริษัท เนื่องจากมีความกังวลว่ารถตู้ในพื้นที่อนุสาวรีย์ฯ จะไม่สามารถประกอบกิจการได้ รวมถึงติดขัดปัญหาด้านกฎหมาย จึงต้องหารือกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย

                พ.อ.สมบัติ กล่าวว่า ขั้นตอนการจัดระเบียบรถตู้อนุสาวรีย์ชัยฯแบ่งเป็น 6 ระยะ คือ 1.ห้ามรถตู้จอดแช่ ยกเว้นการจอดรถรับส่งผู้โดยสารเท่านั้น และต้องจอดชิดขอบทาง รวมทั้งให้วินรถตู้ตั้งโต๊ะขายตั๋วได้เพียงโต๊ะเดียวต่อวิน พร้อมทั้งจัดระเบียบบนทางเท้าควบคู่ไปด้วยเพื่อความเป็นระเบียบอย่างแท้จริง 2.หาสถานีเพื่อมารองรับอย่างถาวร และต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาการจราจร 3.จัดระเบียบใน บ.ข.ส. 4.จัดระเบียบกรมการขนส่งทางบก 5.ลดการจ่ายส่วยกับเจ้าหน้าที่ อาทิ ยกเลิกสินบนนำจับทุกประเทศ แก้ไขพรบ.จราจร เรื่องความเร็ว และวิ่งเลน 2 ได้ ตำรวจจราจร จับเฉพาะจราจร กรมการขนส่งทางบก ตรวจจับรถผิดประเภท พรบ.ขนส่ง และลดอัตราค่าปรับ และ 6.นำรถตู้ที่ตกสำรวจมาจดทะเบียนให้ถูกต้องใน 59 เส้นทาง

                พ.อ.สมบัติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนทหารอยากให้มีการรวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์รถตู้ โดยยึดแนวทางพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เรื่องการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน เพื่อดูแลสิทธิของตัวเอง รถแท็กซี่ก็มีกลุ่มสหกรณ์ จักรยานยนต์ก็มีสหกรณ์ แล้วทำไมรถตู้จึงทำไม่ได้ การที่เราไม่ได้ร่วมเป็นกลุ่มก้อน คำพูดเราก็ไม่มีน้ำหนัก อยากให้ไปดูและช่วยกันเสนอรูปแบบมาว่าจะจัดการกลุ่มสหกรณ์รถตู้ในรูปแบบใด ทั้งนี้ในส่วนของทหารก็จะให้คำแนะนำและประคับประคองให้รถตู้เดินไปข้างหน้า เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็จะถอนตัวออกมา นอกจากนี้เราได้มีการหารือกับกทม.ว่าให้ผ่อนผันหรือยกเว้นค่าจอดว่าสามารถทำได้หรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ทราบว่า การที่ทหารเข้ามาจัดระเบียบรถตู้เป็นการสร้างผลกระทบให้กับผู้ที่เคยได้ประโยชน์

                “ทั้ง 6 จุด บริเวณราชเทวี รวมถึงใต้ทางด่วน ได้ทำเรื่องขอกับปลัด กทม. โดยมีลายเซ็นรับรองจากตำรวจจราจรในพื้นที่ ว่าไม่สามารถจัดพื้นที่จราจรได้ จึงให้ใช้ริมฟุตบาททางเท้า หากการจัดระเบียบรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯเรียบร้อย จะใช้เป็นโมเดลจัดระเบียบรถตู้ใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยจะมีผลบังคับตั้งแต่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ และต้องจัดระเบียบตั้งแต่ต้นทางและปลายทาง โดยจะให้หน่วยทหารที่อยู่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ” พ.อ.สมบัติ กล่าวและว่า  

                หากเราดูแลให้ราคาค่าต้นทุนของรถตู้ลด เชื่อว่าราคาค่าโดยสารต้องลดตามด้วย ผลประโยชน์ก็จะไปตกที่ประชาชน ผู้ประกอบการรถตู้ต้องไปปรับราคาค่าโดยสารให้ตรงกับบริษัทขนส่งและการดำเนินการของทหารเพื่อจัดระเบียบคืนความสุขให้กับประชาชนทุกคน พร้อมยืนยันว่าการดำเนินการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบกับผู้ให้และผู้ใช้บริการ เพราะการย้ายสถานที่จอดรถตู้ ก็ยังคงบริเวณใกล้เคียงกับอนุสาวรีย์ฯ

                “ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 30 มิ.ย. เป็นต้นไป รถตู้ทุกคันที่จอดอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ฯ จะต้องย้ายไปจอดบริเวณใต้แอร์พอร์ตลิ้ง มักกะสัน โดยเราได้ขอใช้พื้นที่ดังกล่าวชั่วคราวเพื่อดำเนินการจัดระเบียบรถตู้จนกว่าจะแล้วเสร็จ จึงต้องขอบคุณการทางพิเศษที่มองเห็นความสำคัญและให้เราได้ใช้พื้นที่ดังกล่าว นอกจากนี้จะมีการจัดชุดตรวจประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ พลเรือน กรมการขนส่ง ขสมก. เข้าตรวจสอบรถตู้ทุกคันว่าปฎิบัติตามที่ได้ตกลงไว้หรือไม่” พ.อ.สมบัติ กล่าว


ตำรวจ-ทหาร-กทม.ร่วมจัดระเบียบ'รถแท็กซี่-ทางเท้า'

                 พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) รับผิดชอบงานด้านการจราจร กล่าวถึงมาตรการคืนพื้นผิวจราจรให้ประชาชน โดยการจัดระเบียบทางเท้าหาบเร่แผงลอยว่า คณะทำงานแก้ไขปัญหาจราจร บช.น. และ กทม. ได้หารือการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง พร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้นกับหาบเร่แผงลอยที่ลุกล้ำผิวการจราจรและทางเท้า โดยเฉพาะบริเวณย่านชุมชน หน้าตลาดสด และศูนย์การค้า โดยจะเริ่มต้นจัดระเบียบบริเวณตลาดโบ้เบ้ เพื่อคืนทางเท้าผิวจราจร คาดว่า ภายในเดือน ก.ค.นี้จะเป็นรูปธรรมมีความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น

                รอง ผบช.น. กล่าวอีกว่า ทาง กทม.ได้ตรวจสอบผู้ค้าตลาดโบ๊เบ๊ที่ลงทะเบียนไว้กับเขตป้อมปราบศัตรูพ่าย มีทั้งหมด 539 ราย สามารถค้าขายได้ในเวลาที่กำหนด ส่วนผู้ค้าที่ไม่ขึ้นทะเบียนใช้วิธีจับฉลากสลับกันขาย โดยห้ามตั้งแผงถาวรเด็ดขาด ให้ค้าขายได้เฉพาะเวลา 09.00 -15.00 น. และ 23.00-05.00 น.เท่านั้น และห้ามตั้งลุกล้ำค้าขายบนถนนผิวการจราจรเด็ดขาด โดยมี พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. จะดำเนินการกับผู้มีอิทธิพลที่ไม่ได้ตั้งแผงเอง แต่มาเช่าแผงเพื่อปล่อยเช่าต่อ หากพบจะส่งเรื่องไปสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินให้ตรวจสอบและยึดทรัพย์และเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ที่มีพฤติกรรมเรียกเก็บเงินด้วย

                "ผู้ค้าย่านโบ๊เบ๊ ต้องปฏิบัติตามแนวทางที่ตำรวจ และ กทม.กำหนดให้ อย่างเคร่งครัดใน 6 ข้อคือ ต้องเหลือทางเดินให้ประชาชน 1 เมตร ห้ามตั้งแผงใกล้ทางม้าลาย ห้ามตั้งแผงรอบตู้สาธารณะ ห้ามวางรถเข็นบนทางเท้า ห้ามวางแผงบริเวณป้าย ศาลา ศาลรถโดยสารสาธารณะ เก็บแผงทันทีหลังเวลาผ่อนปรนโดย บช.น. จะคืนผิวจราจร 5 จุดให้กับประชาชนอย่างเร็วที่สุดประกอบด้วยทางเท้าถนนจักรพรรดิพงษ์ ทางเท้าตลาดโบ๊เบ๊ ทางเท้าหน้าพิพิธภัณฑ์รัชกาลที่ 7 ทางเท้าหน้าสนามมวยราชดำเนินและทางเท้าหลังกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ถนนกรุงเกษม " รอง ผบช.นงกล่าวและว่า

                เน้นจุดเร่งด่วนที่สุดก่อนคือ ตลาดโบ๊เบ๊ เพราะกระทบกับการจราจรมากหากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.การจราจรทางบก ซึ่งเป็นการกีดขวางจราจร ปรับไม่เกิน 500 บาท และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาด กทม.มีอำนาจปรับไม่เกิน 2,000 บาท นอกจากนี้ ต้องไม่วางแผงค้าตรงทางม้าลาย รอบตู้โทรศัพท์ ทางขึ้นลงสะพานลอย และใกล้ป้ายรถเมล์ ตำรวจจะร่วมกับเทศกิจดำเนินการตามกฎหมาย

                สำหรับการจัดระเบียบวินรถจักรยานยนต์ รถแท็กซี่ รถตู้โดยสารนั้นล่าสุดวันนี้ตัวแทนทหารสังกัด มทบ.11 พร้อมคณะทำงานประชุมร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการรถแท๊กซี่ศูนย์วิทยุแท๊กซี่วางแนวทางการทำงานร่วมกันเร่งรัดจัดระเบียบให้เป็นรูปธรรมโดยเร็วโดยมี พล.ต.นิรันดร สมุทรสาคร ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 11 เป็นประธานการประชุมในฐานะที่รับมอบหมายให้กำกับดูแลการจัดระเบียบรถบริการสาธารณะในส่วนของรถแท็กซี่ได้เชิญตัวแทนผู้ประกอบการรถแท็กซี่นิติบุคคล จำนวน 133 ราย และศูนย์วิทยุแท็กซี่ จำนวน 13 ราย ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑลประชุมรับทราบแนวทางการจัดระเบียบรถแท็กซี่ ตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยมีตัวแทนกรมการขนส่งทางบก กองบัญชาการตำรวจนครบาล กทม.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง

                พล.ต.นิรันดร กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสถานที่ให้บริการรถแท็กซี่ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต) พบอุปสรรคปัญหาที่เกิดขึ้นจึงกำหนดการปฏิบัติดำเนินการ 3 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 เป็นการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วนโดยเฉพาะเรื่องผู้มีอิทธิพล ขั้นตอนที่ 2 เป็นการแก้ไขกฎระเบียบ ข้อบังคับ และขั้นตอนที่ 3 เป็นการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนโดยจะเร่งรัดดำเนินการให้เสร็จสิ้นเป็นรูปธรรมโดยเร็ว


ส่งเจ้าของอาวุธสงครามให้ตำรวจดำเนินคดี

                เมื่อเวลา 16.00 น. พ.อ.วิจารณ์ จดเเตง หัวหน้าส่วนปฏิบัติการ คณะทำงานด้านกฎหมาย ได้นำตัว นายสมเจตน์ คงวัฒนะ อายุ 60 ปี ที่อยู่ 400/6 เเขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. ผู้ต้องหาตามหมายคดีอาญาที่ 397/2557 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2557 ซึ่งเดินทางเข้ามอบตัวกับฝ่ายทหาร พร้อมยอมรับว่าเป็นเจ้าของเครื่องยิง M79 จำนวน 1 กระบอก ลูกกระสุน M79 จำนวน75 ลูก ตะปูเรือใบ ครึ่งถุง กล่องกระสุน M 79 สีเขียว 1 กล่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถยึดได้ที่บ้านเลขที่ 129/67 หมู่บ้านร่มรื่นย์การ์เด้นวิลล์ โครงการ 4 หมู่ 1 ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ส่งตัวให้กับ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร.  ,  พล.ต.ต.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผบช.ภ.1 เเละ พล.ต.ต.นรบุญ เเน่นหนา รรท. ผบก.ป.

                จากนั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า หลังจากมีการระดมกวาดล้างอาวุธสงคราม เเละวัตถุระเบิด ได้มีการจับกุมผู้กระทำความผิด ได้หลายรายในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจากการสอบสวนมีข้อมูล เชื่อได้ว่า มีการกระทำความผิดในลักษณะเป็นขบวนการเชื่อมโยงกัน ทางสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ มีคำสั่ง ที่ 312 / 2557 ลงวันที่ 20 มิถุนายน เเต่งตั้งให้ตนเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน เพื่อรับโอนคดีที่เกี่ยวกับอาวุธสงคราม วัตถุระเบิดเเละเครื่องกระสุนปืน จากท้องที่ต่างๆ จำนวน 10 คดี มาอยู่ในความรับผิดชอบ โดยมีพล.ต.ต.ศรีวราห์ เเละพล.ต.ต.นรบุญ เป็นรองพนักงานสอบสวน โดยมีพนักงานสอบสวน ภาค 1 ,2 ,4 เเละ บช.น. ร่วมเป็นคณะพนักงานสอบสวน ซึ่งจะมีการมอบหมายให้พ.ต.อ.ประสพโชค พร้อมมูล รอง ผบก.ป. รับสำนวนไปดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ เพื่อให้สะดวกในการรวบรวมพยานหลักฐานมากยิ่งขึ้น


แม่ทัพภาค2สั่งขยายผลอายัดไม้ที่ไม่ถูกต้องบ้านป.เป็ด

                ความคืบหน้ากรณีทหาร  ตำรวจ  ป่าไม้  สันติบาล และฝ่ายปกครอง  เข้าตรวจค้นบ้านนายทนง ศิริปรีชาพงษ์ หรือ ป.เป็ด ที่บ้านเลขที่ 79 หมู่ 2 ชุมชนหนองแดง  เขตเทศบาลนครสกลนคร ยึดไม้มะค่า  ไม้ประดู่  และไม้เค็งจำนวนมาก

                ล่าสุดเมื่อเวลา 11.30น . นายบุญส่ง  เตชะมณีสถิตย์  ผวจ.สกลนคร  พลตรีธนกร  จงอุตส่าห์  ผบ.จทบ.สกลนคร  พล.ต.ต.พลศักดิ์  บรรจงศิริ  ผบก.ภ.จว.สกลนคร  พ.อ.สุขพัฒน์สณฑ์ สุขสร้อย รอง ผบ.จทบ.สกลนคร พ.ต.อ.ธวัชชัย หาญนัทธี รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.ฐากูรสมบัติ สวงโท ผกก.สภ.เมืองสกลนคร พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว  ผกก.ตชด.23 ค่ายศรีสกุลวงศ์  นายชูชาติ เทพสุต หัวหน้าหน่วยป่าไม้ที่ 7 สกลนคร  นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นอาณาจักรของนายทนง หรือ ป.เป็ด อย่างละเอียดอีกครั้ง  ตามคำสั่งของพลโท ชาญชัย ภู่ทอง  แม่ทัพภาคที่ 2  ที่สั่งการให้มีการขยายผลอย่างต่อเนื่องและได้กำชับให้ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งพลตรีธนกร ได้เข้าร่วมดูแลการตรวจค้นอย่างใกล้ชิด

                ตรวจค้นอาคารไม้ที่เป็นบ้านพัก 2 หลัง ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย พบเพียงโฉนดที่ดินหลายแปลงและสมุดบัญชีเงินฝากหลายบัญชี  เจ้าหน้าที่ได้อายัดคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊ก  ตู้เซฟไปตรวจสอบ  พร้อมทั้งสั่งอายัดไม้ท่อนขนาดใหญ่หลายสิบท่อน ความยาวกว่า 5 เมตร คาดว่าจะเป็นไม้ตะเคียน และไม้เค็ง ที่เชื่อว่านำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยให้ผู้ครอบครองหรือเจ้าบ้านนำเอกสารกำกับไม้มาแสดง ภายใน 7 วัน

                ในการตรวจค้นครั้งนี้มีนายสุรพงษ์ สิทธิกร  ตัวแทนทีมทนายของนายทนง มาอำนวยความสะดวกและนำตรวจค้นเพื่อแสดงความบริสุทธิใจทั้งสองฝ่าย   เจ้าหน้าที่ยังได้พยายามหาสถานที่ตั้งของคอนโทรลควบคุมกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้รอบบริเวณบ้านแต่ไม่พบ

                สำหรับนายทนง หรือ ป.เป็ด ถูกตำรวจกองปราบปรามออกหมายจับฐานขัดคำสั่ง คสช.ที่ให้ไปรายงานตัว ตามคำสั่ง ที่ 50 ลง 6 มิถุนายน 2557 แต่นายทนงไม่เข้าไปรายงานตัว  จึงถูกติดตามตัวตามหมายจับของศาลทหารและตรวจค้นบ้านในครั้งนี้


ลำปางบุกยึดตู้สล็อต-ตู้ม้าซุกซ่อนในร้านเกมส์

                เมื่อเวลา 13.30 น. พล.ต.อุกฤษณ์ อากาศวิภาต ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี จ.ลำปาง ในฐานะผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยมณฑลทหารบกที่ 32  ได้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมอาวุธครบมือ ร่วมกับเจ้าหน้าที่กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง และตำรวจ สภ.เมืองลำปาง เข้าตรวจสอบที่ห้องแถวชั้นเดียว เลขที่ 46 ริมถนนบุญวาทย์ (สายเก่า) ต.หัวเวียง อ.เมือง จ.ลำปาง  โดยเป็นร้านเกมส์เก่าอยู่ติดกับร้านคาราโอเกะและปิดมานานแล้วหลังทางคสช.ทำการรัฐประหารยึดอำนาจประเทศ

                จาการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าภายในร้านไม่มีคนอยู่ โดยประตูด้านนอกมีการนำโซ่มาล่ามล็อคด้วยกุญแจอย่างแน่หนา เจ้าหน้าที่จึงเปิดล๊อคประตูโดยการงัดประตูเข้าไป ตรวจสอบภายในร้าน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบตู้สล็อตไฟฟ้า แบบหยอดเหรียญ โดยแยกเป็นตู้แบบกด 3 ตู้ แบบดีด 3 ตู้ และตู้ม้าแบบไฟฟ้า 1 ตู้ รวมทั้งหมด 7 ตู้ ตั้งวางวางเรียงอยู่ภายในห้องดังกล่าว จากนั้นจึงทำการตรวจยึดตู้สล๊อตไว้ทั้งหมด พร้อมกันนี้ได้ยึดกล้องบันทึกข้อมูลภาพวงจรปิดพร้อมจอแลพะอุปกรณ์ครบชุดไว้ตรวจสอบ หาข้อมูลจากภาพวงจรปิดๆม่ว่าจะเป็นเจ้าของร้านแลบะคนเล่นต่อไป  

                สำหรับการตรวจยึดครั้งนี้ของเจ้าหน้าที่ทหาร ครั้งที่ 2  หลังเคยบุกตรวจยึดตู้สล๊อตจำนวน 102 ตู้ ที่ซุกซ่อนในทาวเฮ้าวท์ริมสระน้ำเรือนแพ อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2557 ที่ผ่านมา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นตู้การพนันของกลุ่มเดียวกันที่มาจากจากภาคอีสานที่นำตู้สล๊อตมาลงในพื้นที่

 

สุราษฎร์ทหารจับมือตร.บุกจับยา-อาวุธสงครามเครือข่ายคุก

                เมื่อเวลา 14.30 น. ที่สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พล.ต.ธีร์ณฉัตร จินดาเงิน ผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ พ.ต.อ.พรศักดิ์ นวนหนู รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานีและ พ.ต.อ.จำโนทย์ แก้วขาว ผกก.สภ.กาญจดิษฐ์ ร่วมกันแถลงจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดและอาวุธสงคราม 2 รายคือนายเรวัติ หรือไข่รด พิษครุฑ อายุ 30 ปี กับนายศรีวิชัย หรือปีเตอร์ สุบรรณ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 352 เม็ด กัญชาอัดแท่ง หนัก 1 กก.อาวุธปืน M.16 A1 ยี่ห้อโคลท์ AR 15 สีดำ จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 380 พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 1 กระบอก อุปกรณ์การเสพ 2 ชุด

                ทั้งนี้สืบเนื่องจากอยู่ในช่วงที่ คสช.กำลังรณรงค์กวาดล้างสิ่งผิดกฏหมายทุกประเภท โดยล่าสุดทางตำรวจชุดจับกุม สภ.กาญจนดิษฐ์ร่วมกำลังทหารสืบทราบว่า มีการลักลอบซื้อขายยาเสพติดจึงจับกุมนายเรวัติ ผู้ต้องหาคนแรกพร้อมยาบ้าก่อนที่ข้างบ้านเลขที่ 19 ม.1 ต.คลองสระ อ.กาญจนดิษฐ์ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมนั้นนายเรวัติ วิ่งหนีทิ้งของกลางไว้แต่ไม่พ้นเงื้อมมือตำรวจตะครุบตัวไว้ได้ จากนั้นขยายผลจับกุมนายศรีวิชัย หรือปีเตอร์ ผู้ต้องหาคนที่ 2 ได้อาวุธสงคราม

                นายศรีวิชัย รับสารภาพว่า อยู่ในเครือข่ายเรือนจำกลางสุราษฎร์ธานีที่รู้จักกันในนาม”แก๊งตามาร”โดยมีสัญลักษณ์เขียนขอบตาบนทั้ง 2 ข้าง ซึ่งนายศรีวิชัยให้การว่า อาวุธสงครามM.16 ได้ซื้อมาในราคา 15,000 บาทและอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ซื้อมาในราคา 6,000 บาท ไว้ข่มขู่ลูกค้าที่ค้างชำระค่ายาเสพติด

                พล.ต.ธีร์ณฉัตร กล่าวว่า กำลังทหารพร้อมกวาดล้างยาเสพติดและสิ่งผิดกฏหมายทุกประเภท และสำหรับการกวาดล้างอาวุธสงครามขอให้ผู้ที่มีไว้ในครอบครองรีบนำมาคืนภายในวันพรุ่งนี้หากเกินกำหนดหากจับได้จะมีความผิดรุนแรง


ปคม.บุกจับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง

                ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) พ.ต.อ.ชิตภพ โตเหมือน ผกก.1 บก.ปคม.  พ.ต.ท.ชูศักดิ์ อภัยภักดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ กก.1 บก.ปคม. ได้นำกำลังเข้าจับกุม แรงงานต่างด้าวสัญชาติพม่า รวม 14 คน เป็นหญิง 8 และชาย 6 คน ภายในโรงงานเย็บผ้า ตั้งอยู่เลขที่ 12 ซอยประชาสงเคราะห์ 16 แขวงและเขตดินแดง กทม. หลังจากได้รับแจ้งผ่านสายด่วน ปคม.1191 ว่า มีแรงงานต่างด้าวซึ่งน่าจะเป็นแรงงานที่เข้าเมืองผิดกฎหมาย ทำงานอยู่ภายในโรงงานดังกล่าว

                ต่อมา เมื่อเจ้าหน้าที่วางแผนนำกำลังเข้าตรวจค้น จึงพบตัว น.ส.จรัส แทนโป อายุ 44 ปี รับเป็นเจ้าของโรงงานแห่งนี้ และพบแรงงานต่างด้าวทั้งหมด ซึ่งลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีในข้อหาให้ที่พักพิงบุคคลต่างด้าว และรับบุคคลต่างด้าวซึ่งไม่มีใบอนุญาตเข้าทำงาน ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้งหมด นำส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ดำเนินคดีและผลักดันกลับประเทศต่อไป

 

ทหารตำรวจสนธิกำลังตรวจยึดตู้พนันผลไม้-ลูกแก้วย่านธนบุรี

                เมื่อเวลา 14.00 น.  พล.ต.ท.ชัยยง กีรติขจร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.ชยุต รัตนอุบล ผบก.น.9 พ.ต.อ.สุรพงษ์ จงสูงเนิน ผกก.สน.เพชรเกษม และกำลังเจ้าหน้าที่ทหารชุด รส.พล.ร.9 ร่วมกันแถลงผลการตรวจยึดตู้อิเล็กทรอนิกส์ ประเภทตู้ลูกแก้วและตู้ผลไม้ รวม 150 ตู้ หลังสนธิกำลังกันเข้าตรวจค้นอาคารร้างไม่มีเลขที่ สูง 4 ชั้น ในซอยหมู่บ้านธนาคม ถนนกาญจนาภิเษก แขวงและเขตบางแค กทม.เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา

                ด้าน พล.ต.ต.ชยุต เปิดเผยกับทีมข่าวเนชั่นว่า การนำกำลังเข้าตรวจสอบในวันนี้สืบเนื่องจากตามคำสั่ง คสช. ให้ทำการกวาดล้างแหล่งอบายมุข กระทั่งได้มีสายลับรายงานว่า พบตู้การพนันนำมาเก็บไว้จำนวนมาก โดยผลการตรวจค้นอาคารดังกล่าวซึ่งมีความสูง 4 ชั้น พบของกลางวางกระจัดกระจายบริเวณชั้นที่ 1 และ ชั้น 2 รวม 150 ตู้ แต่ไม่พบแผลงวงจรอิเล็กทรอนิกส์และผู้ดูแลอาคารแต่อย่างใด โดยหลังจากนี้จะสั่งการให้ทาง สน.เพชรเกษมดำเนินการหาตัวเจ้าของอาคารและเจ้าของตู้ทั้งหมดมาสอบปากคำเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

พัทลุงทหาร-ตำรวจโค่นพืชกระท่อม 

                เมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.ปัญจวิทย์ เกื้อกอบ รอง ผกก.สส.สภ.ควนขนุน จ.พัทลุง พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร กองพันทหารช่างที่ 401 ค่ายอภัยบริรักษ์ เข้าทำการตัดโค่นต้นพืชกระท่อมซึ่งนายสิทธา รามทอง อายุ 54 ปี ปลูกไว้รอบบริเวณบ้านเลขที่162 หมู่ 6 ต.ชะมวง อ.ควนขนุน จ.พัทลุงเป็นต้นขนาดใหญ่จำนวน 5 ต้น นอกจากนั้นยังมีต้นขนาดเล็กที่ติดตาและปลูกไว้ตามแนวรั้วบ้านอีกจำนวน20 ต้น
             
                สอบถามนางอุบล รามทอง อายุ 53 ปี ซึ่งอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ทราบว่า ต้นพืชกระท่อมทั้งหมด นายสิทธา รามทอง ผู้เป็นสามี ปลูกไว้เพื่อกิน ซึ่งในทุกเช้าจะมีชาวบ้านในหมู่บ้านมานั่งกินที่ศาลาข้างบ้าน เนื่องจากมีความเชื่อว่า พืชกระท่อมเป็นยารักษาโรค เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นำของกลางไปทำลายและออกหมายเรียกตัวนายสิทธา รามทอง เจ้าของบ้านมาสอบสวนข้อเท็จจริงต่อไป
            
                พ.ต.ท.ปัญจวิทย์ เกื้อกอบ รอง ผกก.สส.สภ.ควนขนุน กล่าวว่า จากการตัดโค่นพืชกระท่อมดังกล่าวเป็นผลจากการจับกุมวัยรุ่นที่มั่วสุมยาเสพติดชนิดพืชกระท่อม และผู้ต้องหาพืชกระท่อมที่ขนพืชกระท่อมส่งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การซัดทอดมาว่าซื้อใบกระท่อมมาจากนายสิทธา เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าทำการตรวจสอบ พบต้นพืชกระท่อมปลูกเรียงรายรอบบริเวณบ้านจึงเข้าทำการตัดโค่นทำลายดังกล่าว



แกะรอยจากขอนแก่นโมเดลยึดอาวุธสงคราม
 
                เมื่อเวลา 10.00 น. พล.ต.ท. เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค  4  ร่วมกับ พล.ต.ศักดา เปรุนาวิน ผบ.พล.ร.3.  และ พล.ต.ท.สุรพล พินิจชอบ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 แถลงข่าวจับกุมนายนพดล เพชรมะดัน อายุ 42 ปี  วันที่ 23 มิ.ย. ที่ผ่านมา พร้อมของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก  โดยยึดอาวุธ  ส่วนประกอบและเครื่องกระสุนได้หลายรายการ ที่สำคัญคืออาวุธปืนเล็กหรือ ปลย.  จำนวน 10 กระบอก ปืนเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก  ปืนกลมือ จำนวน 3 กระบอก ปืนยาวเล็ก .88 จำนวน 1 กระบอก ลูกระเบิดและกระสุนปืนอีกกว่า 1,000 นัด

                พล.ต.ท. เดชณรงค์  กล่าวว่า ตามที่ตำรวจภูธรภาค 4 ร่วม หน่วยงานทหาร  สนธิกำลังวางแผนติดตาม และจับกุมกลุ่มขบวนการที่สืบทราบจากการดำเนินการก่อวินาศกรรม ภายใต้แผนการที่เรียกว่า “ขอนแก่นโมเดล” ตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. ที่ผ่านมา  หลังจากนั้นได้สอบสวนขยายผลจับกุมมาได้เพิ่มอีกหลายราย พร้อมของกลางอาวุธสงครามจำนวนมาก แต่จากการสืบสวนพบว่า ยังมีกลุ่มผู้ร่วมขบวนการหลงเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งมีข้อมูลไปถึงขบวนการค้าอาวุธสงความ โดยเฉพาะกลุ่มเครือข่ายค้าอาวุธในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ลพบุรี และภาคเหนือ  ซึ่งมีการประกาศขายอาวุธสงครามในโซเซียลมีเดียด้วย ตำรวจภูธรภาค 4 ตำรวจภูธรภาค 3 และทางทหาร   จึงได้สนธิกำลังโดยใช้กฏอัยการศึกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 210/3 ถ.ราชนิกูล ต.ในเมือง  อ.เมือง จ.นครราชสีมา  จับกุมนายนพดล และตรวจค้นยึดอาวุธสงครามได้จำนวนมากในครั้งนี้

                พล.ต.ท. เดชณรงค์  กล่าวว่า หากตำรวจ ทหาร สกัดยับยั้งอาวุธสงครามเหล่านี้ไว้ไม่ได้ อาจจะอันตรายให้กับภาพรวมด้านความมั่นคงในพื้นที่อีสานหรืออาจจะไปก่อเหตุในพื้นที่อื่น ในกรณีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ทหารในการสืบสวนขยายผลว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับขอนแก่นโมเดลอย่างไร  จากนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไว้ 7 วัน   เพื่อขยายผล หลังจากนั้นจะส่งมอบผู้ต้องหาให้กับพนักงานสอบสวนดำเนินการตามกฏหมายต่อไป

                " การดำเนินการครั้งนี้ ต้องขอบคุณทุกส่วนราชการ  ประชาชน ที่ชี้ช่องทางข้อมูลข่าวสาร เบาะแส จนนำไปสู่การจับกุมขบวนการฯ ตลอดจนการค้นหาแหล่งอาวุธสงครามที่ยังซุกซ่อนในพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะทำให้บ้านเมืองกลับมาเป็นปกติสุข" พล.ต.ท.เดชณรงค์กล่าว


ลพบุรีทหารตรวจวัตถุระเบิดโรงโม่เตรียมนำทำลาย

                พลตรี ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 จังหวัดลพบุรี ในฐานะผู้รับผิดชอบงานคณะรักษาความสงบแห่งชาติในพื้นที่จังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยพล.ต.ต.มนตรี ยิ้มแย้ม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลพบุรี นายอภิสรรค์ สง่าศรี ปลัดจังหวัดลพบุรี และนายธานี มาลีหอม นายอำเภอบ้านหมี่ ได้ร่วมประชุมติดตามกรณีจับคน 2 คนร้าย ขโมยเชื้อประทุและสายชนวลระเบิด จากคลังระเบิดเขาสนามแจ้ง ซึ่งเป็นเขาที่ถูกยกเลิศการสำประทานมานาน แต่ในคลังยังมีวัตถุระเบิดที่ตกค้างเหลืออยู่ และบางแห่งคาดว่าอาจจะถูกขโมยไป ซึ่งต้องร่วมกันตรวจสอบโดยด่วน และให้มีการเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

                จากนั้นพลตรี ชัยกร ประเสริฐสุข ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 13 จังหวัดลพบุรี พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบคลังเก็บบนเขาสนามแจ้งของบริษัทผู้รับสัมประสานในเขต หมู่ที่ 5 และ หมู่ 6 ตำบลสนามแจง อำเภอบ้านหมี่ พบว่ามีคลังแห่งหนึ่งไม่มีวัตถุหรือชินส่วนวัตถุระเบิดแต่อย่างใด จึงต้องเร่งตรวจสอบว่ามีการเคลื่อนย้ายไปหรือไม่ หรือได้นำไปใช้ในช่วงสำประทานจนหมดแล้ว ส่วนผู้สัมประทานอีกราย พบว่ามีการเก็บเชื้อวัตถุระเบิดอย่างมีระบบตามที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตามในปัจจุบันนี้เขาสนามแจงสัมประทานแห่งนี้ได้มีการยกเลิกไปนานหลายปีแล้ว แต่ยังคงมีเชื้อประทุระเบิดตกค้างอยู่จำนวนมาก ซึ่งหลังจากนี้จะมีการประสานงานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อดำเนินการนำวัตถุระเบิดที่เหลือทั้งหมดไปทำลาย