ผ่าประวัติ‘เบนซ์ ท่าทราย’เผยโฉม13สมุนคู่ใจเครือข่ายยาเสพติด | คมชัดลึก

                ด้วยข้อความขู่ฆ่าอาฆาตตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี พร้อมครอบครัวทั้งโรงพัก ถูกนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของบุคคลที่ใช้ชื่อว่า นายอดิศักดิ์ ศรีสะอาด หรือ "เบนซ์ ท่าทราย" อายุ 26 ปี

                ไม่เพียงเท่านั้น เขาผู้นี้ ผู้ที่รู้จักกันในวงกว้างในเวลาต่อมาว่า เบนซ์ ท่าทราย ยังลงภาพถ่ายของเขาขณะถืออาวุธสงคราม ยาบ้า และเงินสดจำนวนมาก เพื่อเพิ่มน้ำหนักของคำขู่ดังกล่าว

                ส่งผลทันควัน และอาจจะเกินความคาดหมายของ เบนซ์ ท่าทราย เพราะเมื่อข้อความข่มขู่เผยแพร่ออกไปไม่นาน "เบนซ์ ท่าทราย" กลายเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจไปในทันที จะเรียกว่า ขึ้นเบอร์หนึ่ง ผู้ต้องหาที่ตำรวจต้องการตัวมากที่สุดก็ว่าได้

                โดยตำรวจที่รับผิดชอบงานด้านปราบปรามยาเสพติดหลายหน่วยงานตรวจเช็กประวัติของ "เบนซ์ ท่าทราย" อย่างละเอียด พบว่า ผู้ต้องหารายนี้มีบ้านเกิดอยู่ที่บ้านท่าทราย ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ซึ่งสถานที่เกิดนี้กลายเป็นที่มาของฉายา "เบนซ์ ท่าทราย"

                ทั้งนี้ ในปี 2550 เบนซ์ ท่าทราย ถูกจับกุมในคดีฆ่าผู้อื่น โดยมีชนวนเหตุมาจากการพัวพันยาเสพติด แต่เมื่อเรื่องถึงอัยการได้พิจารณาสั่งไม่ฟ้อง ต่อมาโดนจับในคดีจำหน่ายยาเสพติดอีก และเพิ่งพ้นโทษออกมาประมาณ 1 ปี

                หลังพ้นโทษ "เบนซ์ ท่าทราย" ย้ายไปพักอาศัยเป็นประจำที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี แต่ยังคงวนเวียนไปที่บ้านเกิดใน จ.สุพรรณบุรี อยู่เป็นประจำ เพื่อซื้อขายยาเสพติด โดยมีผู้ร่วมเครือข่ายเชื่อมโยงหลายรายในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี จ.นนทบุรี และใกล้เคียง

                จากข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) พบว่า เบนซ์ ท่าทราย แสบไม่ใช่เล่น เพราะผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายนี้มีเครือข่ายระดับใกล้ชิดอีก 13 คน ได้แก่ น.ส.ลูกตาล หรือตาล พูลสวัสดิ์ อายุ 31 ปี, น.ส.สุพัตรา หรือพัต ขอพึ่ง อายุ 24 ปี, นายประเสริฐ หรือเสริฐ เถื่อน อายุ 28 ปี, น.ส.กัลยารัตน์ หรือเมย์ วงศ์ประสิทธิ์สุข อายุ 25 ปี, น.ส.บังอร หรืออร รักอยู่ อายุ 43 ปี, นายดำรงค์ หรือเบนซ์ แสงวันทอง อายุ 28 ปี, น.ส.ลั่นทม หรือทม วงษ์เปี่ยม อายุ 36 ปี, นายรัฐพล หรือเบิร์ด พลเสน อายุ 25 ปี, นายสุรักษ์ หรือเอ็ม ศรีศักดา อายุ 25 ปี, นายจันทร์แรม หรือแรม มโหฬาร อายุ 35 ปี, นายภราดร หรือแว้ว แสงอินทร์ อายุ 27 ปี, นายปรีชา หรือ แต๋ว ศรีนวล อายุ 33 ปี, นายวุฒิพร หรือแบงค์ วันยมุข อายุ 25 ปี, นายประภัทร หรือโบ้ รูปสม อายุ 31 ปี

                เครือข่ายทั้ง 13 คนดังกล่าว หลายรายถูกจับกุมแล้ว ขณะที่บางส่วนอยู่ระหว่างหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และแทบทุกครั้งที่เครือข่ายกลุ่มนี้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม "เบนซ์ ท่าทราย" จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือในการประกันตัว เพื่อแสดงให้เครือข่ายเห็นว่า หากถูกจับ "เบนซ์ ท่าทราย" ไม่ทอดทิ้ง ซื้อใจเครือข่ายได้เป็นอย่างดี

                ไม่เพียงเท่านี้ จากข้อมูลการสืบสวนยังพบว่า "เบนซ์ ท่าทราย" เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดตั้งแต่อายุ 19 ปี เดิมใช้ชื่อเรียกกันในวงการว่า "กายสัก สรีสะอาด” ระหว่างพัวพันกับการค้ายาเสพติดอยู่นั้น ทำให้มีโอกาสรู้จักเอเย่นต์ยาเสพติดตามแนวชายแดนไทย-พม่า หลายคน ในจำนวนนั้นมี นายสิทธิชัย เซี่ยงเหลียว หรือ "เอ็ม ลาดหญ้า" อายุ 23 ปี เอเย่นต์ยาเสพติดรายใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี โดยเอเย่นต์รายนี้มีความใกล้ชิดกับผู้ผลิตยาเสพติดรายใหญ่ในเมืองพญาตองซู ฝั่งพม่า โดยสามารถซื้อยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในไทยได้ในราคาเพียงเม็ดละ 80 บาท

                ต่อมานายสิทธิชัยถูกตำรวจจับกุมเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ที่ผ่านมา ขณะกบดานอยู่ที่ตะเข็บชายแดน หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ตำรวจจับกุมเครือข่ายของนายสิทธิชัย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมก๊วนของ "เบนซ์ ท่าทราย" ได้ขณะลักลอบขนยาบ้าผ่านหน้าโรงเรียนซองกาเรีย สาขาพระเจดีย์สามองค์ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี 3 คน คือ นายพงษ์เพชร หรือเก๋ง ทับทิมไทย อายุ 25 ปี, นายมงคล หรือกุ๊ก ทับทิมไทย อายุ 19 ปี และนายคมสัน หรือน้อง เบ็ญจพาต อายุ 22 ปี

                นอกจากการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มนี้แล้ว ตำรวจยังพยายามติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ที่เหลือ ซึ่ง "เบนซ์ ท่าทราย" คือหนึ่งในเป้าหมายนั้น การไล่ล่าของตำรวจครั้งนี้สร้างความไม่พอใจให้แก่ผู้ค้ายาเสพติดรายนี้อย่างยิ่ง กระทั่งนำมาสู่การโพสต์ข้อความขู่ฆ่าตำรวจ สภ.ศรีประจันต์ ยกโรงพัก รวมถึงการออกมาแฉพฤติการณ์ของนายตำรวจรายหนึ่ง ในทำนองว่ารับผลประโยชน์จากเครือข่ายค้ายาเสพติด

                กระทั่งล่าสุดเบนซ์หลบหนีออกจากไทยไปกบดานที่อยู่ชายแดนประเทศพม่า ว่ากันว่า ผู้ต้องหารายนี้ไปกบดานอยู่กับกองกำลังกะเหรี่ยงของ พ.ท.ไชยา ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามทุกวิถีทางเพื่อเจรจาขอให้กองกำลังกะเหรี่ยงยินยอมส่งมอบตัวให้ทางการไทยในเร็ววัน ส่วนขั้นตอนการเจรจาจะเป็นอย่างไรนั้น งานนี้แว่วมาว่า เป็นเรื่องลับระดับ "เอ็กซ์คลูซีฟ" ที่เปิดเผยไม่ได้

                จากนี้คงต้องมาลุ้นกันว่า เบนซ์ ท่าทราย จะหนีพ้นเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยไปได้อีกสักกี่น้ำ เพราะสิ่งที่ตนเองออกมาตีโพยตีพายในเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดประเด็นเรื่องตำรวจรับส่วยนั้น ต้องยอมรับว่า สร้างความสั่นสะเทือนไปทั่ววงการสีกากี เปรียบเสมือนการโยนระเบิดลูกย่อมๆ ใส่กันซึ่งหน้า ส่งผลให้ผู้เกี่ยวข้องบาดเจ็บล้มตายกันระนาว 

                เรียกได้ว่า งานนี้เจ็บตัวไปตามๆ กัน หากสิ่งที่ เบนซ์ ท่าทราย ออกมาแฉเป็นความจริง ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้บังคับบัญชาต้องเร่งสืบสวนทำความจริงให้กระจ่างในเร็ววัน อย่าปล่อยให้สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงหมอกควันสีดำที่ลอยขึ้นฟ้า และจางหายไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น...!