ย้อนรอยทางชีวิตท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี
ย้อนรอยทางชีวิตท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี จากลุ่มน้ำแม่กลองถึงท่าจีน
บ่ายแก่ๆ วันที่ 17 ธันวาคม 2557 ที่บ้านเลขที่ 149 หมู่ที่ 6 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ริมถนนหลวงสายราชบุรี-สมุทรสงคราม ตรงประตูบ้านหลังใหญ่ มีแผ่นกระดาษเคลือบพลาสติกติดอยู่ พร้อมข้อความที่เขียนด้วยลายมือว่า
"เราขอขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกท่าน ที่ให้ความเป็นห่วงเป็นใย คอยติดตามมาเสมอ เราขอความกรุณาผู้สื่อข่าวทุกท่านด้วย ช่วงนี้เราอยู่ปฏิบัติธรรมเงียบๆ ในบ้านหลังนี้พร้อมครอบครัวด้วยความสงบค่ะ ลงชื่อ ศรีรัศมิ์ วันที่ 17 ธ.ค.57"
ดังที่ทราบกันทั่วไปแล้ว กรณีที่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ได้ขอพระราชทานกราบบังคมทูลลาออกจากฐานันดรศักดิ์แห่งพระราชวงศ์ และได้กลับไปใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชนตามปกติ โดยใช้ชื่อตามบัตรประจำตัวประชาชนว่า น.ส.ศรีรัศมิ์ สุวะดี เกิดวันที่ 9 ธันวาคม 2514 ศาสนาพุทธ ที่อยู่ 149 หมู่ที่ 6 ต.วัดเพลง อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี วันออกบัตร 11 ธันวาคม 2557 วันบัตรหมดอายุวันที่ 8 ธันวาคม 2566
กองทัพนักข่าวจึงไปเฝ้าเกาะติดความเคลื่อนไหวของ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ สุวะดี ที่บ้านพักในเขต อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา
จริงๆ แล้วบ้านหลังนี้ไม่ใช่บ้านเกิดของท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ หากเป็นบ้านที่สร้างขึ้นใหม่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ เดิมทีนั้น "อภิรุจ สุวะดี" บิดาท่านผู้หญิงมีถิ่นฐานบ้านเกิดอยู่ที่ ต.วัดประดู่ อ.วัดประดู่ จ.สมุทรสงคราม ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านหลังใหม่เข้าตามถนนเลียบคลองประดู่ ประมาณ 2 กิโลเมตร
ส่วนบ้านมารดา "วันทนีย์" นั้น อยู่ที่ ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยทั้ง "อภิรุจ-วันทนีย์" มีบุตรธิดา 5 คน
1.สุดาทิพย์ (สุวะดี) ม่วงนวล พี่สาวคนโต และเป็นภรรยาของ พ.ต.อ.โกวิท ม่วงนวล อดีต ผกก.ตม.สมุทรสาคร มีบุตรชายชื่อ "ปื๊ด" สิทธิ์ศักดิ์ สุวะดี หรือ อดีต จ.ส.อ.สิทธิศักดิ์ อัครพงศ์ปรีชา หมายเลขประจำตัว 1467600050 เสมียนกองบังคับการ สำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
"สุดาทิพย์" ได้ร่วมกับ "ปาลิดา หลักเฉลิมพร" ภรรยาของสิทธิศักดิ์ จัดซื้อเครื่องเสวยครัวข้าราชบริพาร ขายพริกประเภทต่างๆ ของวังอัมพร และวังศุโขทัย ในนามคณะบุคคลปณสุ และคณะบุคคลน้ำทิพย์
นอกจากนี้สุดาทิพย์ยังเปิดบริษัทในนามบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 (อัครพงศ์ปรีชา) จำกัด และยังเป็นเจ้าของธุรกิจ สวนผึ้งรีสอร์ท อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
2.ณรงค์ สุวะดี พี่ชายคนโต อดีตข้าราชการพลเรือนในพระองค์ ตำแหน่งเจ้าพนักงานในพระองค์ประเภททั่วไป ระดับอาวุโส เลขที่ตำแหน่ง 926 งานต่างประเทศ ฝ่ายราชเลขานุการ กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร
3.ศรีรัศมิ์ สุวะดี
4.ปณิดา สุวะดี เป็นหุ้นส่วนในบริษัท ศิรินทิพย์ 2007 (อัครพงศ์ปรีชา), เจ้าของร้านอาหาร "ปณสุ" เขตทวีวัฒนา (ร่วมหุ้นกับสุดาทิพย์กับณรงค์) และมีชื่อเป็นผู้เช่าที่ดินสวนผึ้งจากกรมธนารักษ์
5.ณัฐพล สุวะดี น้องชายคนเล็ก อดีตราชองครักษ์เวร หมายเลขประจำตัว 146240079 ผู้ช่วยนายทหารธุรการ กองบังคับการ สำนักงานฝ่ายเสนาธิการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์
ในวัยเยาว์ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เข้ารับการศึกษาชั้นประถมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนวัดสุนทรสถิต (สามัคคีวิทยาคม) ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร และชั้นประถมศึกษาตอนปลายที่โรงเรียนเทศบาลบ้านมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) ตั้งอยู่ที่ถนนเทศบาล 8 ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร
จากนั้นเข้าศึกษาชั้นมัธยมศึกษาที่โรงเรียนวัดน้อยใน เขตตลิ่งชัน, เรียนจบประกาศนียบัตรวิชาชีพจากโรงเรียนกรุงเทพการบัญชีวิทยาลัย และเข้าศึกษาในระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช คณะวิทยาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทั่วไป เมื่อปี พ.ศ.2540 และสำเร็จการศึกษาปริญญาโท หลักสูตรปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต (คหกรรมศาสตร์) ภาคพิเศษ สาขาวิชาเอกพัฒนาการครอบครัวและเด็ก คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เข้าถวายการรับใช้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ในฐานะข้าราชการพลเรือนในพระองค์ และยังได้ถวายงานสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในด้านศิลปาชีพ และได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมาย ต่อมาวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2544 เข้ารับพระราชทานน้ำพระมหาสังข์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นเป็น "หม่อมศรีรัศมิ์ มหิดล ณ อยุธยา"
สำหรับ อภิรุจและวันทนีย์ รวมทั้งสมาชิกในครอบครัว "สุวะดี" ได้รับพระราชทานนามสกุลจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ว่า "อัครพงศ์ปรีชา" เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2545 ส่วน "หม่อมศรีรัศมิ์" ได้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ปฐมจุลจอมเกล้า ฝ่ายใน และได้ประสูติพระโอรส คือ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ เมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2548 ปัจจุบันมีพระชันษา 9 ปี
การนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมสถาปนาเป็น พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ในวันที่ 15 มิถุนายน 2548
กระทั่งวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 กองกิจการในพระองค์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มีหนังสือคำสั่งยกเลิกชื่อสกุลพระราชทาน "อัครพงศ์ปรีชา" พร้อมให้ผู้ที่ใช้นามสกุลดังกล่าวกลับไปใช้ชื่อสกุลเดิมคือ "สุวะดี" และวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ได้ลาออกจากฐานันดรศักดิ์กลับคืนสู่สามัญชน
ตลอดระยะเวลาในฐานันดรศักดิ์ ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆ มากมาย โดยส่วนใหญ่เน้นไปที่ครอบครัวและเด็ก เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2557 ท่านผู้หญิงได้ปฏิบัติหน้าที่ครั้งสุดท้ายในการเป็นประธานเปิดมหกรรม 9 ปี สายใยรักแห่งครอบครัว ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
ย้อนไปเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เมื่อครั้งมีฐานันดรศักดิ์เป็นพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ เสด็จไปทรงวางศิลาฤกษ์อาคาร "ศูนย์สาธิตการเกษตรบ้านสวนอำแพง" ต.อำแพง อ.บ้านแพ้ว จ.ราชบุรี ซึ่งได้ใช้ที่ดินส่วนตัวจำนวน 29 ไร่เศษ ดำเนินการจัดสร้างศูนย์ดังกล่าว
สมัยท่านผู้หญิงยังมีฐานันดรศักดิ์ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ต.อำแพง รวมทั้งฟื้น "ลานวัฒนธรรมคลองอำแพง" ที่วัดสุนทรสถิต ให้กลับมาคึกคักเหมือนในอดีต
ส่วนที่ ต.วัดประดู่ เมื่อครั้งที่ท่านผู้หญิงมีฐานันดรศักดิ์ ได้มาทำบุญที่วัดประดู่อยู่บ่อยๆ และทุกครั้งที่ท่านผู้หญิงมาทำบุญวัดแห่งนี้ จะมาพร้อม พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชติ บางครั้งพายเรือมาตามคลองประดู่ที่ไหลผ่านด้านหลังบ้านสุวะดี
วันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ ได้เป็นประธานพิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่แจ้ง ณ วัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จึงไม่แปลกในวันที่กลับมาเป็นสามัญชนอีกครั้ง ท่านผู้หญิงจะนิมนต์พระสงฆ์จากวัดประดู่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม จำนวน 9 รูป นำโดย พระครูพิศาลจริยาภิรมย์ เจ้าอาวาสวัดประดู่ มารับบิณฑบาตภายในบ้านหลังใหญ่ในเขต อ.วัดเพลง
วันที่ 7 ธันวาคม 2557 ท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์เดินทางมาติดตามความคืบหน้าการบูรณะศาลาการเปรียญวัดประดู่ และบอกให้พระลูกวัดนำป้ายลักษณะประจำตัวออกจากศาลาการเปรียญด้วย
เส้นทางชีวิตท่านผู้หญิงศรีรัศมิ์ เติบโตมาจากสองลุ่มน้ำ..แม่กลองและท่าจีน กระทั่งวันหนึ่ง "ชีวิตเปลี่ยน" เพราะโชคชะตาฟ้าลิขิต และในเพลานี้ ท่านผู้หญิงกลับมาใช้ชีวิตเยี่ยงสามัญชน