นักเตะเยาวชนไทยสุดปลื้ม‘ผี-หงส์’ให้ประสบการณ์สุดคุ้ม | คมชัดลึก

 

           เสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย... สำหรับโครงการ "สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน ซีซั่น 4" นำเยาวชนไทยอายุไม่เกิน 18 ปี หลังบินลัดฟ้าไปฝึกซ้อมร่วมกับโค้ชอคาเดมีจาก 2 ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อย่าง "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล พร้อมทัวร์รังเหย้าของทั้งคู่อย่างจุใจ ซึ่งเด็กทุกคนการันตีว่าได้รับประสบการณ์มากมายล้นหลาม เพื่อนำกลับไปพัฒนาทักษะฝีเท้าของตัวเอง ขณะที่ "ฮอนด้า" โต้โผใหญ่ แย้มซีซั่นหน้าเชิญโค้ชจาก "หงส์แดง" มาอบรมถึงไทย

 

           เอ.พี.ฮอนด้า ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าในประเทศไทย ร่วมมือกับ สพฐ. จัดโครงการ "สพฐ.-เอ.พี.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน ซีซั่น 4" นำเยาวชนไทยอายุระหว่าง 13-18 ปี จากสถานศึกษาทั่วประเทศ ที่ผ่านการคัดเลือก 5 ทีม จาก 5 ภูมิภาค เดินทางลัดฟ้าไปฝึกซ้อมร่วมกับโค้ชอคาเดมีจาก 2 ยอดทีมแห่งศึกพรีเมียร์ลีก ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 4-15 เมษายนที่ผ่านมา แบ่งเป็นโรงเรียนละ 7 คน พร้อมด้วยโค้ช ผู้อำนวยการโรงเรียนและ ตัวแทนร้านจำหน่ายของแต่ละทีม ทีมละ 1 คน

 

           ประกอบด้วย โรงเรียนตะโหมด จ.พัทลุง, โรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี 1 และ โรงเรียนวชิราลัย จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับการฝึกซ้อมจากโค้ชของ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่พาร์ทิงตัน สปอร์ต วิลเลจ ในเมืองแมนเชสเตอร์ ส่วน โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา จ.ชลบุรี กับโรงเรียนนาถ่อนพัฒนา จ.นครพนม ที่ได้รับการฝึกซ้อมจากโค้ชของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่ลิเวอร์พูล อคาเดมี ในเมืองแอนฟิลด์

 

           ซึ่งเยาวชนทั้ง 5 ทีม ได้รับการฝึกฝนทักษะต่างๆ เช่นเดียวกับโปรแกรมที่อคาเดมีของทั้ง 2 ทีมระดับโลกซ้อมตลอดทั้ง 5 วัน ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยงบอล รับ-ส่งบอล ยิงประตู ความสัมพันธ์ในเกม การเล่นสมอลล์ไซส์เกม นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากตำนานศูนย์หน้าของแต่ละทีมอย่าง แอนดี โคล กับ ดไวท์ ยอร์ค จากแมนฯ ยูไนเต็ด และ ร็อบบี ฟาวเลอร์ จากลิเวอร์พูล มาร่วมสอนและมอบประกาศนียบัตรให้แก่แต่ละทีมด้วยเช่นกัน

 

           โดย ภูฟ้า ชื่นกรมรักษ์ จากโรงเรียนวชิราลัย กล่าวด้วยความตื่นเต้นว่าได้รับประสบการณ์มากมาย "ดีใจมากครับที่ได้มาฝึกซ้อมกับทีมแมนฯ ยู ในครั้งนี้ ต้องบอกว่าได้ประสบการณ์ดีๆ กลับไปมากมาย โดยเฉพาะในวันสุดท้ายของการฝึกที่ แอนดี โคล กับ ดไวท์ ยอร์ค เปลี่ยนชุดลงมาช่วยสอนด้วยตัวเอง ทำให้ได้เห็นการเล่นของนักเตะระดับโลกจริงๆ ที่สำคัญตลอดการฝึกซ้อมโค้ชยังคอยหยอดมุกตลกตลอดเวลาเพื่อไม่ให้เราเครียดและสนุกสนานไปกับการซ้อม ผมเชื่อว่าจากนี้พวกเราทุกคนจะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปพัฒนาตัวเองได้แน่นอน"

 

           เช่นเดียวกับ ชนะพงษ์ ริมธีระกุล จากโรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา ที่ปลื้มกับโครงการนี้เช่นกัน "ต้องขอขอบคุณฮอนด้าที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา และทีมเราสามารถเป็นตัวแทนเพื่อนๆ คนอื่นๆ ในโรงเรียนได้เดินทางมาครั้งนี้ พวกเราได้รับประสบการณ์และเทคนิคใหม่ๆ มากมายที่ต่างจากการฝึกซ้อมที่โรงเรียน และทุกคนก็สนุกสนาน ที่สำคัญยังอากาศดี ไม่ร้อนและไม่หนาวมาก จึงทำให้ซ้อมได้อย่างเต็มที่โดยไม่รู้สึกเหนื่อย"

 

           นอกจากนี้ สพฐ. และฮอนด้า ยังมอบโอกาสพิเศษด้วยการพาเยาวชนทั้ง 5 โรงเรียน แบ่งเป็น 3 ทีมแรก ไปชมเกมคู่ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด พบ แอสตัน วิลลา ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด ส่วนอีก 2 ทีมหลังไปชมเกมระหว่าง ลิเวอร์พูล พบ นิวคาสเซิล ที่สนามแอนฟิลด์ พร้อมพาทัวร์ทุกซอกทุกมุมของสโมสร เรียกได้ว่าคุ้มค่าสุดๆ ติดขอบสนามจนเกินคำบรรยาย นอกจากนี้ยังได้พาทั้ง 5 โรงเรียนท่องเที่ยวกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ เยี่ยมชมสถานที่สำคัญอย่าง หอนาฬิกาบิ๊กเบน, โบสถ์เวสต์มินสเตอร์, หอคอยลอนดอน และ ลอนดอน อายส์ เป็นต้น

 

           ด้าน นายทรงวุฒิ มลิวัลย์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ที่ร่วมเดินทางไปสังเกตการณ์ร่วมกับเยาวชนไทยในครั้งนี้กล่าวชื่นชมว่าเป็นโครงการที่ดีมาก "ผมเชื่อว่าเด็กๆ ที่ได้เดินทางมาที่ประเทศอังกฤษ และฝึกซ้อมกับสโมสรระดับโลกจะเป็นการช่วยพัฒนาฝีเท้าของพวกเขาได้แน่นอน โดยอยากฝากบอกน้องๆ ทุกคนว่าให้นำประสบการณ์เหล่านี้ไปปรับใช้เพื่อพัฒนาตนเอง และตั้งใจฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทุกอย่างขึ้นอยู่กับใจของน้องๆ เองที่ต้องพยายามให้ยิ่งๆ ขึ้น"

 

           ขณะที่ นายสุชาติ อรุณแสงโรจน์ กรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด โต้โผใหญ่ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มโครงการนี้และเป็นออฟฟิเชียลพาร์ทเนอร์ของทั้ง  2 ทีมดัง กล่าวว่า "ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทั้งสองสโมสรที่ต้อนรับอย่างดีเป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ฮอนด้าเชื่อมั่นว่าหากตั้งเป้าจะไปฟุตบอลโลก อันดับแรกต้องคำนึงถึงเรื่องเบสิกของผู้เล่นเป็นอันดับแรก จึงเป็นแนวคิดและที่มาของโครงการนี้ เราใช้เงินหลายล้านบาทในการส่งเยาวชนมาร่วมฝึกซ้อม แต่ที่เราก็ทำเพือให้เด็กที่เล่นฟุตบอลมีเบสิกในด้านทักษะการเล่นฟุตบอลแบบมืออาชีพที่ดีติดตัว เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาเล่นฟุตบอลอาชีพต่อไปในอนาคต"

 

           ส่วนแผนการในปีที่ 5 นั้น คุณสุชาติ แย้มต่อว่าจะต้องเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม "เรายังคงคอนเซ็ปต์เดิม คือ จะไม่จัดการคัดเลือกด้วยวิธีให้ทีมมาแข่งกันแล้วหาผู้ชนะ แต่จะแข่งกันด้วยเบสิก แบ่งเป็น 5  สถานีเช่นเดิม คือ การเดาะบอล, การเลี้ยงบอล, การรับ-ส่งบอล, การเตะทำประตู และการโหม่งบอลทำประตู แต่จะมีความเข้มข้นและยากมากขึ้นแน่นอนเพราะเชื่อว่าจะมีหลายโรงเรียนที่สนใจเข้าร่วมมากขึ้น นอกจากนี้เรายังเล็งที่จะเชิญโค้ชจากทีมลิเวอร์พูลมาฝึกอบรมให้โค้ชจากทุกโรงเรียนที่สมัครเข้าแข่งขันโครงการนี้ถึงประเทศไทยอีกด้วย"

 

           บรรทัดนี้ต้องขอขอบคุณ บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า หรือ "ค่ายปีกนก" ซึ่งถือว่าเป็นผู้จุดประกายให้วงการฟุตบอลได้มีการพัฒนาทักษะการเล่นฟุตบอลตั้งแต่พื้นฐาน แบบมืออาชีพ เรียกได้ว่า "สพฐ.ฮอนด้า เรด แชมเปี้ยน" เป็นโครงการที่ช่วยพัฒนาเยาวชนไทยตั้งแต่รากฐานพร้อมมอบประสบการณ์ล้ำค่าเพื่อนำไปต่อยอดพัฒนาวงการกีฬาฟุตบอลไทยในอนาคต