ข่าว

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...กล้วยทอดไฮโซ

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...กล้วยทอดไฮโซ

14 พ.ค. 2558

พระเจ้าช่วยกล้วยทอด...กล้วยทอดไฮโซ : คมคิดธุรกิจนิวเจน โดยสันทนา รัตนอำนวยศิริ

              "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" อาจจะเป็นวลีแสดงอาการตกใจของคนไทยในอดีต แต่มาวันนี้ "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" หรือ “Oh My Banana” กลายเป็น "กล้วยทอด" ที่สามารถรับประทานได้อย่างไม่ต้องอายใคร ไม่เชย ไม่ต้องห่วงเรื่องสุขภาพ น้ำมันไม่เยิ้ม แถมยังคง "ความกรอบ อร่อย หวานน้อย และไม่มัน" ไว้อย่างครบครัน ตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่รักสุขภาพและใส่ใจเรื่องอาหารการกินริมทางที่ต้อง สะอาด ถูก และดี ซึ่ง กล้วยทอด ภายใต้แบรนด์ "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" สามารถถตอบโจทย์นี้ได้ทุกกรณี

              "แวว" ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ เตชะอุบล เซเลบริตี้สาววัย 32 ปี ลูกสาวคนโตของ ธีระพงศ์ ปังศรีวงศ์ กรรมการบริหาร ในเครือโรงแรมเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ เล่าให้ฟังว่า ไปพบกับกล้วยทอดแสนอร่อยสูตรนี้ ที่ จ.ระยอง ระหว่างที่ไปเที่ยวทะเลกับเพื่อนๆ ซึ่งทุกคนลงความเห็นว่า กล้วยทอดเจ้านี้กรอบอร่อยมาก ขนาดข้ามไปเที่ยวเกาะทั้งวัน กลับมาขึ้นฝั่งยังคงคุณภาพความกรอบอร่อยไว้เหมือนเดิม แม้เวลาจะผ่านไปหลายชั่วโมง ทำให้เธอและเพื่อนๆ ติดใจจนต้องตามไปหาเจ้าของสูตรกล้วยทอด เพื่อขอซื้อสูตรมาทำขายในกรุงเทพฯ เพื่อให้คนกรุงเทพฯ ได้ลิ้มลองกล้วยทอดแสนอร่อยบ้าง

              "กว่าจะได้สูตรมา ต้องอ้อนวอนอยู่นานค่ะ กว่าเจ้าของสูตรจะยอมขายให้ เพราะเขากลัวพวกเราไม่ทำจริง แต่พอได้สูตรมา ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะทุกขั้นตอนต้องใช้วัตถุดิบและสัดส่วนตรงตามต้นตำรับเป๊ะๆ ต้องเป็นกล้วยเล็บมือนาง สุกขนาดนี้ แป้งยี่ห้อนี้ สัดส่วนเท่านี้ น้ำมันต้องร้อนขนาดนี้ ถึงจะออกมากรอบอร่อยเหมือนของจริงที่ จ.ระยอง แต่มาลงมือทำจริงๆ ต้องเจออุปสรรคมากมาย แววลงมือทำเองทุกขั้นตอน จะเรียนรู้ทั้งที ต้องรู้ให้จริง ต้องทำให้ได้ ก่อนที่จะไปสอนพนักงานทำขายให้อร่อยเหมือนต้นตำรับ"

              ธีรวัลคุ์ บอกว่า ปัญหาใหญ่ที่เป็นอุปสรรคในการทำ "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" คือ อากาศ เพราะอากาศในแต่ละวันที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นตัวกำหนดคุณภาพความกรอบของกล้วยทอด ถือเป็นตัวแปรสำคัญ ถ้าวันไหน ฝนตก หรืออากาศชื้น กล้วยทอดจะไม่กรอบ หรือกรอบน้อยไม่ได้มาตรฐาน บางครั้งถึงกับต้องเททิ้งทั้งกระทะ แต่เธอก็ไม่ย่อท้อ ยังคงตั้งหน้าตั้งตาเรียนรู้กล้วยทอดจากประสบการณ์ตรงที่พบในแต่ละวัน

              "นี่เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่แววยังไม่มั่นใจในการขยายสาขา 2 และอื่นๆ ที่ตั้งใจไว้ว่า ในปี 2558 จะขยายสัก 3-4 สาขา โดยยึดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสเป็นหลัก เพราะสาขาแรกที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีศาลาแดง ทางออก 1 เป็นตัวบ่งชี้ว่า ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มคนทำงานที่โดยสารรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นหลัก บางคนซื้อกลับไปออฟฟิศหลังจากรับประทานอาหารมื้อกลางวันเสร็จ บางคนก็ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้านหลังเลิกงาน ทั้งๆ ที่คนกลุ่มนี้จะดูแลเรื่องรูปร่างและสุขภาพ แต่ พระเจ้าช่วยกล้ายทอด มีเอกลักษณ์ตรงที่กรอบ แห้ง ไม่มีน้ำมันเยิ้ม และราคาถูก ชุดละ 30 บาท (10 ชิ้น) ทำให้ลูกค้ากล้าตัดสินใจซื้อ แต่พอได้รับประทานสักครั้งก็ติดใจ และกลับมาซื้อใหม่ค่ะ"

              อีกปัญหาหนึ่งที่ แวว ไม่มองข้าม คือ การฝึกพนักงานขายให้สามารถทอดกล้วยออกมาให้ได้คุณภาพเหมือนต้นตำรับทุกครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยาก แต่เธอบอกว่า จะไม่ท้ออย่างแน่นอน เพราะเธอถูกฝึกมาให้เป็นคนตั้งใจจริงในการทำงาน

              "คุณพ่อคุณแม่สอนเสมอให้รู้จักและทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด อย่าคิดแต่ว่าทำอะไรเพื่อตัวเอง แต่ต้องทำอะไรเพื่อสังคมและคนอื่นบ้าง คุณพ่อมักไม่สอนหรือบอกตรงๆ แต่ทำให้ดูเป็นตัวอย่าง หรือหาหนังสือมาให้อ่าน เมื่ออ่านจบก็จะเข้าใจในสิ่งที่คุณพ่อต้องการสอน"

              แม้ "แวว" จะเป็นเซเลบริตี้ในสายตาคนอื่น แต่ในความ "ขยัน" เธอไม่เป็นรองใคร เมื่อคิดจะทำงานอะไรเธอจะต้องทำด้วยความตั้งใจเพื่อให้ธุรกิจนั้นๆ ไปให้ฝั่งฝันในที่สุด

"เซเลบริตี้ติดดิน"

              "แวว" ธีรวัลคุ์ ปังศรีวงศ์ เตชะอุบล มีตำแหน่ง "ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาโครงการ ในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์" เริ่มต้นเข้ามาทำงานด้านโรงแรมอย่างจริงจัง หลังจากเรียนจบปริญญาโทการจัดการ จาก อิมพีเรียล คอลเลจ ประเทศอังกฤษ ขณะนั้นเธออายุเพียง 26 ปีเท่านั้น 

              เริ่มต้นชีวิตการทำงานที่ บริษัท ยูนิลีเวอร์ ในตำแหน่ง แมเนจเม้นท์ เทรนนี ดูแลการตลาด ทำโฆษณา ดูแลการผลิตภัณฑ์ออกใหม่ เคยรับผิดชอบไอศกรีมวอลล์ ดูแลการทำวิจัยว่า ผู้บริโภคต้องการไอศกรีมแบบไหน จะออกรสอะไรถึงจะโดนใจผู้บริโภค สามารถทำได้จริงไหม เมื่อพัฒนาแล้ว ต้องวางแผนการตลาด ทำโฆษณา ทำแพ็กเกจ เราต้องเสนอแนวคิดแล้วดูว่า เมื่อผลิตออกมาตรงตามคาแรกเตอร์ที่คิดไว้หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ก็ต้องปรับจนกว่าจะใช่ ทำได้ประมาณ 2 ปี ก็ลาออกมาช่วยงานในเครือเคป แอนด์ แคนทารี โฮเทลส์ ของคุณพ่อ

              "แววตั้งใจทำงานเต็มที่ และให้งานออกมาดีที่สุด หรืออย่างน้อยต้องดีเท่าที่คุณพ่อคุณแม่ทำไว้ ต้องเป็นคนติดดิน ทำอะไรต้องทำจริงจัง อย่าเหลาะแหละ ตอนเริ่มต้นทำโรงแรมเคป นิทรา หัวหิน คุณพ่อให้แววทำทุกอย่าง ทั้งคิด ทั้งลงมือทำเอง แม้จะเป็นลูกเจ้าของโรงแรม แต่ต้องทำงานเท่าพนักงานคนอื่นๆ จนทำให้แววได้แนวคิดอะไรหลายๆ อย่างมาใช้ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะความอดทน การตัดสินใจที่รอบคอบ ที่ได้ติดตัวมาใช้ในการทำงาน และธุรกิจอื่นๆ จนถึงวันนี้"

              นอกจากทำงานประจำในการดูแลกิจการโรงแรมของครอบครัวแล้ว แวว บอกว่า เธอเป็นคนแอ็กทีฟ ชอบทำกิจกรรมประเภทแอ็กชั่น ลุยๆ ไม่ชอบอยู่นิ่งๆ จึงเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ “เนื้อคู่” สำหรับคนที่ชื่นชอบการรับประทาน “เนื้อวัว” ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 สยามพารากอน โซนฟู้ด พาสเสจ เมนูอาหารเน้นที่เนื้อเป็นหลัก โดยเฉพาะเนื้อเกรดเอ อาทิ เนื้อวากิว และเนื้อโกเบ และขยายสาขา 2 บริเวณชั้นใต้ดิน ห้างสีลมคอมเพล็กซ์

              ลูกค้าสามารถเลือกรับประทานได้ทั้งในแบบก๋วยเตี๋ยว หรือแบบเกาเหลา เสิร์ฟพร้อมเส้นลวกในน้ำซุป เป็นสูตรพิเศษที่ทุกท่านควรมาลิ้มลอง โดยทางร้านมีกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน แต่ก็มีก๋วยเตี๋ยวหมูไว้บริการสำหรับคนไม่รับประทานเนื้อด้วย รวมทั้งมีเมนูอาหารว่างเบาๆ ที่พลาดไม่ได้ต้องสั่ง คือ ฟองเต้าหู้ทอด (แผ่นเต้าหูทอด) และกุยช่ายทอด

              ทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ “เนื้อคู่” และกล้วยทอด "พระเจ้าช่วยกล้วยทอด" เธอยังมีหุ้นส่วนอีก 6 คน คือ น้องชายฝาแฝด พงศ์ศิษฎ์ และ พงศ์วรุฒน์ ปังศรีวงศ์ และเครือญาติอีก 4 คน ได้แก่ สุรัชนี และ สุรภาพ ลิ่มอติบูลย์ ภูมิ และ แพร สารสิน โดยแบ่งหน้าที่กันดูแลกิจการ