ถุงเท้า‘เอช ทรี ซูเปอร์บี’เล่นกีฬาไม่ลื่น | คมชัดลึก

              หากนึกถึงการเล่นกีฬา โดยเฉพาะกีฬายอดนิยมของคนไทยอย่าง “ฟุตบอล” ต้องนึกถึงสิ่งที่มาคู่กันกับกีฬาชนิดนี้ ทั้ง ลูกฟุตบอล เสื้อผ้า สนับแข้ง รองเท้าสตั๊ด และเมื่อมีรองเท้าแล้วก็จะขาดถุงเท้าไปไม่ได้ ซึ่งปัจจุบันนี้ถุงเท้าสำหรับการเล่นกีฬาไม่ได้มีแค่ถุงเท้าธรรมดาๆ แต่ยังมี “ถุงเท้ากันลื่น” รุ่น H3 SuperB (เอช ทรี ซูเปอร์บี) ที่ได้รับการพัฒนาจากความร่วมมือของผู้ผลิตแบรนด์ Triple H Sport หรือ H3 SPORT (เอช ทรี สปอร์ท) กับนักฟุตบอลในลีกอาชีพไทยพรีเมียร์ลีกอย่าง “เอ้” ทศพร ศรีเรือง ผู้รักษาประตูของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน

              ถุงเท้ากันลื่น รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ของแบรนด์ เอช ทรี สปอร์ท มีที่มาที่ไปอย่างไร เหตุใดจึงขายดี และเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว “เอ้” ทศพร พร้อมด้วยแฟนสาว “เมย์” สริญญา ณรงค์ฤทธิคุณ ในฐานะผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ของ เอช ทรี ซูเปอร์บี พร้อมเล่ารายละเอียด

              สริญญา กล่าวว่า เอช ทรี สปอร์ท เป็นแบรนด์อุปกรณ์กีฬาของ พิชัย เตมีย์จันทร์ ที่เป็นเพื่อนกันตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย โดยแบรนด์นี้เข้าสู่ตลาดอุปกรณ์กีฬาได้ประมาณ 5-6 ปีแล้ว ขายส่งสินค้าต่างๆ ให้เจ้าของสนามฟุตบอลหญ้าเทียมทั่วประเทศนำไปขายต่อ มีโรงงานผลิตสินค้าอยู่ในเอเชียและประเทศตะวันออกกลาง โดยก่อนหน้าได้ผลิตถุงเท้าแบบธรรมดาและแบบกันลื่นวางขายอยู่แล้ว แต่ต่อมา พิชัย อยากพัฒนาถุงเท้ากันลื่น ซึ่งมีแนวคิดอยากพัฒนาจากประสบการณ์ของผู้ใช้งานจริง จึงติดต่อ “เอ้” ให้ไปร่วมงาน จนกระทั่งได้รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ซึ่งมีคุณภาพเทียบชั้นกับถุงเท้ากันลื่นยี่ห้อดังของต่างประเทศที่นำเข้ามาขายในไทย

              ด้าน ทศพร กล่าวว่า สำหรับถุงเท้ากันลื่น รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี จะแตกต่างจากถุงเท้ากันลื่นยี่ห้อดังทั่วไป ซึ่งยี่ห้ออื่นนั้น ตัวถุงเท้ามีการเคลือบสารเคมี เพื่อเพิ่มความหนึบให้ถุงเท้า สารดังกล่าวจะเสื่อมสภาพลงทุกครั้งหลังใช้งานและนำไปซักล้าง หากยิ่งใช้บ่อยก็จะทำให้ถุงเท้ามีอายุการใช้งานที่สั้นลง แต่ถุงเท้ากันลื่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ใช้วัสดุจากธรรมชาติและสามารถใช้งานได้นานกว่า

              “เอช ทรี ซูเปอร์บี ใช้ผลิตผลทางธรรมชาติที่มีอยู่ในประเทศอย่างยางพารามาประยุกต์ทำ ซึ่งได้ผลออกมามีคุณภาพเทียบเคียงกัน และยังมีอายุการใช้งานที่นานกว่าอีกด้วย การใช้ยางพาราทำให้มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่า จึงช่วยให้ผลิตภัณฑ์สามารถวางขายได้ในราคาที่ถูกกว่า ซึ่งลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่มืออาชีพ ไปจนถึงผู้เล่นทั่วไป สามารถจับต้องได้”

              นายทวารแห่ง “มังกรไฟ” กล่าวต่อว่า ได้นำปัญหาจากการเล่นฟุตบอล เช่น ถุงเท้าที่เคยใช้ เมื่อสวมลงไปในรองเท้าสตั๊ดจะไม่ยึดติดกับส้นเท้า ทำให้มีโอกาสที่ข้อเท้าจะพลิกได้ รวมถึงเวลาวิ่ง เท้าจะเคลื่อนที่อยู่ในรองเท้าตลอด ทำให้รู้สึกไม่กระชับ เป็นต้น มาใช้พัฒนาถุงเท้าร่วมกับ พิชัย จนกระทั่งได้ถุงเท้ากันลื่น รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ออกมา

              “การพัฒนาได้มองไปที่การดีไซน์จุดยึดกระชับต่างๆ ที่จะทำให้ถุงเท้ากระชับกับเท้า เมื่อสวมรองเท้าสตั๊ด ซึ่งจะช่วยเรื่องการทรงตัวและการเคลื่อนไหวของเท้ากับส้นเท้าให้ติดรองเท้ามากขึ้น ลดการพลิกตัวของข้อเท้า โดยได้นำไปให้เพื่อนๆ นักเตะในทีมบีอีซี เทโรศาสน และส่งไปให้นักเตะของสโมสรอื่นๆ ทั้งในระดับไทยพรีเมียร์ลีก, ดิวิชั่น 1 และดิวิชั่น 2 ที่สนใจ ได้ลองใช้ ทั้งการฝึกซ้อมและลงแข่งขันในสนามจริง เพื่อหาจุดบกพร่องที่ต้องแก้ไข พร้อมปรับปรุงให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ จึงสามารถพูดได้ว่าเป็นถุงเท้าที่พัฒนามาจากการใช้งานในสนามจริงของนักเตะระดับมืออาชีพตัวจริง จนในที่สุดสำเร็จออกมาเป็น ถุงเท้ากันลื่น รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ตัวปัจจุบันนี้”

              สำหรับถุงเท้ากันลื่น รุ่น เอช ทรี ซูเปอร์บี นั้น ใช้การวางปุ่มยางพาราเป็นตัวยึดเกาะ ผนึกติดไว้กับตัวถุงเท้า โดยการวางแนวของปุ่มยึดเกาะนี้ จะเปลี่ยนไปตามพื้นที่ของเท้าคือ ส่วนของฝ่าเท้า และส่วนของส้นเท้า ซึ่งใน 1 คู่ ยังมีการวางแนวของปุ่มต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับเท้าซ้ายและขวา จึงมีการปักสัญลักษณ์ ตัวย่อ R (Right) สวมใส่ด้านขวา และ L (Left) สวมใส่ด้านซ้าย ให้ผู้ใช้สามารถแยกได้ ผลิตภัณฑ์มีทั้งแบบยาวและแบบสั้น มี 8 สี ให้เลือก ได้แก่ ขาว, ดำ, แดง, เหลือง, เขียว, น้ำเงิน, ฟ้า และส้ม วางขายในราคาคู่ละ 250 บาท

              ในเรื่องการตลาดและยอดขายนั้น “เมย์” กล่าวว่า ถุงเท้ากันลื่นในระดับที่ใช้แข่งขันกีฬาเป็นสินค้าที่ยังไม่มีตลาดแพร่หลายนัก และมีคู่แข่งขันไม่เยอะ ทำให้ เอช ทรี ซูเปอร์บี เข้าไปมีส่วนแบ่งในตลาดได้ง่าย อีกทั้งราคาไม่แพง ลูกค้าจึงตัดสินใจซื้อได้ในทันที ทำให้สินค้าซื้อง่ายขายคล่อง ประกอบกับเป็นสินค้าที่นักกีฬามีความต้องการอยู่แล้ว ผนวกกับการบอกต่อแบบปากต่อปาก ทำให้สินค้ารอบแรกทั้งหมด 1 หมื่นคู่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกรกฎาคม 2558 โดยจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าในสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ซึ่งเป็นพันธมิตรกับแบรนด์ เอช ทรี สปอร์ท, แบบออนไลน์ผ่านทางเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/Sporth3, อินสตาแกรม @h3sport และ Line (ไลน์) ไอดี : h3sport หมดลงในเวลาเพียง 1 เดือนอย่างเป็นที่น่าพอใจ จึงสั่งผลิตขึ้นมาขายรอบ 2 เพิ่มอีก 1 หมื่นคู่  และตั้งเป้าไว้ว่าจะหมดในเวลา 2 เดือน เพราะมีลูกค้าอีกหลายคนที่ติดใจในสินค้า ต้องการสั่งเพิ่ม และไม่ใช่เพียงนักกีฬาเท่านั้น สินค้ายังเป็นที่ชื่นชอบในสายอาชีพอื่น อย่างช่างภาพ อีกด้วย นอกจากฟุตบอลแล้ว ตอนนี้ถุงเท้ากันลื่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ยังเปิดตลาดเข้าไปในกลุ่มนักกีฬาบาสเกตบอล อีกทั้งยังได้รับความสนใจจาก

              ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง มาเลเซีย ที่สั่งซื้อเพื่อนำไปขายต่อแล้ว

              “เหตุผลที่ถุงเท้ากันลื่น เอช ทรี ซูเปอร์บี ได้รับความนิยม เพราะเป็นสินค้าที่มีประโยชน์และใช้ได้จริง ผู้ใช้มองว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่รองรับในการแข่งขันกีฬา มีราคาที่ไม่แพงมาก ผู้ใช้ทุกระดับสามารถซื้อได้ อีกทั้งประโยชน์ของสินค้ายังไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหมู่นักกีฬา แต่ยังสามารถเข้ากับคนทั่วไปได้ด้วย” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและประชาสัมพันธ์ของ เอช ทรี ซูเปอร์บี กล่าว

              สริญญา กล่าวต่อว่า จากความนิยมของสินค้า คาดว่าในอนาคตจะมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่ เอช ทรี สปอร์ท ได้เตรียมพัฒนาถุงเท้ากันลื่นรุ่นใหม่ๆ ออกมาสู้เช่นกัน และยังเตรียมผลิตสินค้าประเภทอื่นๆ ออกมาด้วย จากนี้ เอช ทรี ซูเปอร์บี ยังได้มองไปที่การเจาะตลาดในกลุ่มนักฟุตบอลบอลหญิง, นักฟุตซอล, นักกรีฑา และนักแบดมินตัน รวมถึงการส่ง เอช ทรี ซูเปอร์บี ให้นักฟุตบอลต่างชาติ ในไทยพรีเมียร์ลีก ได้ใช้ หวังให้เกิดการบอกแบบปากต่อปาก เพื่อเปิดตลาดในต่างประเทศด้วย ส่วนการจำหน่ายในรูปแบบออนไลน์ แบรนด์ เอช ทรี สปอร์ท ก็เตรียมเปิดตัวเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ คือ http://www.h3sport.com ในเร็วๆ นี้

              ทั้งหมดคือเรื่องราวของถุงเท้ากันลื่น รุ่น “เอช ทรี ซูเปอร์บี” ถุงเท้าที่พัฒนาจากผู้ใช้งานจริง นำไปสู่ธุรกิจการผลิตถุงเท้าที่ตอบโจทย์ความต้องการ ไม่เฉพาะแค่นักกีฬา แต่ยังรวมไปถึงคนทั่วไปที่ใช้ถุงเท้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวันได้อย่างไม่ต้องกลัวลื่น

“เสียงจากผู้ใช้”

              “บาส” พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา แบ็กซ้ายตัวเก่งของทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน และทีมชาติไทย เป็นหนึ่งในผู้ใช้ถุงเท้ากันลื่น “เอช ทรี ซูเปอร์บี” ทั้งในการฝึกซ้อมและลงแข่งขันในสนามจริง

              “ก่อนหน้านี้ยังไม่เคยใช้ถุงเท้ากันลื่นของยี่ห้ออื่น แต่พอได้ลองใช้ถุงเท้ากันลื่นของ เอช ทรี ซูเปอร์บี พบว่ามันทำให้เท้าและส้นเท้ากระชับเข้ากับด้านในของรองเท้าสตั๊ดมากขึ้น เมื่อลงสนามแข่งขันทำให้รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้น ในเวลาที่ต้องใช้ความเร็วในการวิ่ง ทั้งการออกตัว, เร่งฝีเท้า และหยุดทำได้ดีขึ้น จึงยอมรับว่าถุงเท้านี้มีส่วนช่วยในการฝึกซ้อม และลงเล่นจริงได้เป็นอย่างดี”