เปิดใจ‘อธิบดีกรมที่ดิน’แจกเบอร์โทรสกัดทุจริต | คมชัดลึก

               ในวาระที่กรมที่ดินก้าวย่างครบรอบ 114 ปี “อภินันท์ ซื่อธานุวงศ์” อธิบดีกรมที่ดิน ที่เพิ่งเข้ามานั่งตำแหน่งนี้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม เปิดใจถึงแนวทางการทำงาน ทั้ง “ระยะสั้น ระยะยาว” เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ทราบทิศทางการทำงานของทาง “กรมที่ดิน” กรมที่ถูกขึ้นบัญชีดำว่ามีการทุจริตอยู่ในอันดับต้นๆ

               สำหรับภารกิจของกรมที่ดินเองได้จัดวางภารกิจเอาไว้ 2 แนวทางที่ต้องทำ สิ่งแรก คือ ต้องดำเนินการไม่ให้เกิดการทุจริตประพฤติมิชอบ นโยบายเรื่องนี้ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญมาก ที่จะเป็นเรื่องของการที่กรมต้องไปดำเนินการออกเอกสารสิทธิต่างๆ ที่ต้องไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากประชาชน แล้วเรื่องนี้ก็ได้กำชับตั้งแต่เข้ามาทำหน้าที่นั่งเป็นอธิบดีกรมที่ดิน

               “ผมได้บัญญัติเอาไว้ 10 ประการให้แก่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดและอำเภอสาขาทั้งหมด 800 กว่าแห่ง ได้ยึดถือปฏิบัติในการทำงานปฏิบัติให้มีความสุจริตเป็นที่ตั้งแล้วให้ทุกคนต้องทำเอ็มโอยูกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัด โดยที่จะเดินทางไปเป็นสักขีพยานตัวเองในบางจังหวัด ในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ จะประเดิมเดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี แล้วยังมีรองอธิบดีกรมที่ดินร่วมเดินทางไปเป็นประจักษ์พยานลงบันทึกคำรับร้อง ให้ทุกคนจะทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต พร้อมกับรับรู้นโยบายในด้านนี้ ทุกคนต้องพร้อมที่จะรับไปปฏิบัติอย่างจริงจังพร้อมรับการตรวจสอบ ผมจะตั้งชุดเฉพาะกิจไปตรวจสอบในจุดที่มีการร้องเรียนว่า มีการทุจริต แล้วต้องพร้อมรับการประเมินผลที่จะนำมาสู่การพิจารณาความดีความชอบต่อไป ดังนั้นใครกระทำผิดในเรื่องทุจริตเราจะไม่เอาไว้อย่างเด็ดขาดจะมีการดำเนินการอย่างเคร่งครัด”

               สำหรับภารกิจที่ 2 กรมที่ดินวางเอาไว้ คือ การทำงานบริการประชาชนที่ต้องมีการพัฒนาไปในทางที่เป็นอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยเฉพาะระบบออนไลน์ต่างๆ ขณะนี้ทางกรมที่ดินได้รับงบประมาณในการจัดทำฐานข้อมูลในด้านทะเบียนที่ดินและแผนที่ที่ดินต่างๆ ให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เราทำไปแล้วประมาณ 32 จังหวัด หากแล้วเสร็จจะทำข้อมูลออนไลน์ ประชาชนทุกคนสามารถค้นหลักฐานต่างๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ต้องมีการจัดระบบออนไลน์ไปสำนักงานที่ดินสาขาต่างๆ เพื่อทำการตรวจค้นข้อมูล โดยไม่ต้องไปใช้เอกสารต่างๆ มากมายให้วุ่นวาย แล้วเจ้าหน้าที่จะได้ไม่มีเงื่อนไขว่าคุณไม่มีหลักฐานมา ทำให้มีการตั้งเงื่อนไขว่า คุณต้องมีน้ำมันหล่อลื่น ตรงนี้จะเป็นการขจัดปัญหาตรงนี้ออกไปได้เลย ดังนั้น การจัดทำข้อมูลในปีนี้น่าจะแล้วเสร็จไปพร้อมกับการจัดระบบออนไลน์ที่จะเกิดขึ้น

               ในขณะที่ฐานข้อมูลยังไม่แล้วเสร็จ หัวใจของการให้บริการจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เราก็มีมาตรการไม่ให้เจ้าพนักงานดำเนินการอย่างเคร่งครัด อาทิ 1.มีมาตรการการไม่ให้ไปแสวงหาผลประโยชน์เกิดขึ้น 2.เราต้องมีมาตรการจูงใจสร้างขวัญกำลังใจให้แก่คนที่ทำดีที่เราจะไม่ไปยกย่องปีละครั้ง แต่จะมีการยกย่องในทุกเดือนแล้วให้กำลังใจเขาในทุกเดือนเช่นกัน เรื่องนี้จะให้มีการทำควบคู่กันไปกับการทำบันทึกข้อตกลงกับองค์กรต่างๆ เพื่อให้เกิดการสร้างจิตสำนึกของเขาไปด้วย

               สำหรับประเด็นร้อนข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ที่ถูกลงโทษ “ไล่ออกและปลดออกจากราชการ” จากข้าราชการกรมที่ดินจํานวน 21 ราย อธิบดีกรมที่ดินบอกว่า เรื่องนี้ทางกรมที่ดินได้มีการดำเนินการลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรงไปแล้ว โทษก็คือปลดออกกับไล่ออก แล้วก็เป็นระเบียบของข้าราชการทั่วไป ไม่ใช่เฉพาะของกรมที่ดิน ถ้าถูกลงโทษวินัยร้ายแรงต้องถูกเรียกเครื่องราชฯ คืนจากข้าราชการคนนั้น บังเอิญเป็นคนของกรมที่ดินมากหน่อยก็เท่านั้นเอง

               “เราได้แก้ไขด้วยการทำเอ็มโอยูร่วมมือกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในการอบรมเจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินทุกครั้ง เราก็จะเชิญตัวแทนจาก ป.ป.ช. ป.ป.ท. และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาให้ความรู้อยู่ตลอดเวลา แม้กระทั่งการบริการในด้านฐานข้อมูลที่ดินต่างๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อการยึดทรัพย์ต่อผู้ที่กระทำผิดจาก ปปง. และ ป.ป.ช. เราก็จะสนับสนุนด้วย”

               ขณะเดียวกัน ทางกรมที่ดินมีการจัดระบบออนไลน์รองรับร่วมกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหายาเสพติด เมื่อมีการจับกุมผู้ค้ารายสำคัญได้ ก็จะใช้ระบบออนไลน์นี้ติดตามหาที่อยู่ เพี่อดำเนินการยึดทรัพย์

               ในเรื่องการทุจริตประพฤติมิชอบ พอผมเข้ารับตำแหน่งอธิบดีกรมที่ดิน ในวันแรก ได้เรียกเจ้าพนักงานที่ดินทั้งหมด มาซักซ้อมเพื่อทำความเข้าใจในเรื่องนี้ ด้านรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้กรุณามอบหมายนโยบาย มีจุดเน้นสำคัญคือ เจ้าหน้าที่จะต้องไม่เรียกรับผลประโยชน์ คิดว่าเจ้าหน้าที่คงทราบ และรับรู้ เพราะถือเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล ส่วนพฤติกรรมที่ผ่านๆ มา จะทำให้ดีขึ้น ก็ต้องติดตามกันต่อ จึงอยากจะเรียกร้อง เพราะมันเหมือนตบมือกันสองข้าง ฉะนั้นขอให้ผู้ที่ไปใช้บริการ ถ้าเจอปัญหาในการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่อย่าไปยอม ตบมือสองข้างมันก็ดังขึ้นมา อย่าไปยอมรับสิ่งเหล่านี้จากกระบวนเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่ ขอให้แจ้งเหตุมา เราจะดำเนินการตรวจสอบทางวินัยต่อไป” อธิบดีกรมที่ดิน ย้ำชัดเจน

               "ในส่วนช่องทางในการร้องเรียนการทุจริต ผมอยากเรียนให้ทางพี่น้องประชาชนได้ทราบ อันที่หนึ่งท่านเสิร์ชเข้าไปทางเว็บไซต์ของกรมที่ดินจะมีเพจอยู่อันหนึ่งในการร้องทุกข์ร้องเรียนแล้วได้ช่วยคีย์ข้อมูลเข้าไปเลย ตรงนี้เราจะมีเจ้าหน้าที่คอยรอรับข้อมูลตรงนี้อยู่ตลอด อีกช่องทางท่านสามารถโทรศัพท์หาผมที่เป็นอธิบดีโดยตรงเลยดีกว่า ขอให้โทรมาเบอร์ 06-1395-0555 ครับ ผมถือเบอร์นี้ด้วยมือของตัวเองนะครับ ไม่ได้ให้เลขาฯ ถือแต่อย่างใด หากท่านโทรมาก็จะรับสาย ถ้าท่านมีข้อข้องใจติดต่ออะไรก็ไม่สะดวก รับบริการอะไรไม่สะดวก โทรมาได้หมดยิ่งสามารถชี้เป้าได้ ท่านโดนเจ้าหน้าที่คนไหนเรียกร้องผลประโยชน์ขอให้ท่านโทรมา ผมจะดำเนินการให้ทันทีครับ” อธิบดีกรมที่ดิน ยืนยันด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น

               เป็นเรื่องแปลกไม่น้อยในการที่อธิบดีบอก “เบอร์โทรมือถือ” ออกสื่อ น่าจะเพราะหวังเปิดช่องทางการสื่อสารที่สามารถให้ประชาชนคนทั่วไปได้มีช่องทางพิเศษได้ติดต่อ เพื่อ “ล้างทุจริตที่กรมที่ดิน”