คุณประโยชน์จากทับทิม | คมชัดลึก

 

      ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจสุขภาพกันอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการรับประทานอาหารที่ต้องสรรหาแต่ของดีและมีคุณค่าต่อร่างกาย สังเกตได้จากตลาดอาหารเพื่อสุขภาพที่เพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งยังมีสินค้าหลากหลายประเภทให้ผู้ที่รักสุขภาพเลือกมากมาย

 

      กระแสการดื่มน้ำผักผลไม้ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ฮิตสำหรับหนุ่มสาวรักสุขภาพ เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายสดชื่นแล้วยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ล่าสุดข้อมูลจาก “หมอต้อย” พญ.นลินี ไพบูลย์ กูรูด้านสุขภาพและความงาม เปิดเผยว่า ผลไม้มีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม ไม่ว่าจะรับประทานแบบสดหรือแบบคั้นน้ำรับประทานก็ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น ที่สำคัญผลไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติเฉพาะในการป้องกันโรคสำคัญๆ อีกด้วย อย่าง "ทับทิม" ในประวัติศาสตร์พบว่าได้มีการนำทับทิมมาทำเป็นยารักษาโรคตั้งแต่ 8,000 ปีมาแล้ว ทับทิมเป็นผลไม้ที่สวยงามและมีกลิ่นหอมมาก สามารถปลูกได้ในประเทศไทย แต่ที่แท้จริงเป็นผลไม้ที่มีต้นกำเนิดมาจากเปอร์เซีย (ประเทศอิหร่านในปัจจุบัน) ในประเทศเปอร์เซียโบราณมีความเชื่อว่า คุณค่าทางอาหารทุกชนิดที่มีอยู่ในผลไม้ต่างๆ นั้น รวมกันอยู่ในทับทิม ทับทิมจึงเป็นผลไม้ที่ได้รับการเพาะปลูกอย่างแพร่หลายและทำเป็นผลิตภัณฑ์ไปทั่วโลก ทับทิม 1 ผล มีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งมีมากทั้งในเปลือก เมล็ด และน้ำทับทิม ได้แก่ โพลีฟีนอล (polyphenols), แอนโธไซยานิน (anthocyanins), แอนโธรไซยานิดิน (anthrocyanidins), กรดเอลลาจิก (ellagic acid derivatives), และไฮโดรไลเซเบอ แทนนิน (hydrolyzable tannins)

 

 

      “ในตำราแพทย์โบราณของเปอร์เซีย (ซึ่งถือว่าเป็นต้นตำรับของวิชาแพทย์ตะวันตกในปัจจุบัน) ระบุว่าในผลทับทิมมีวิตามินมากมายหลายชนิด รวมทั้งแมกนีเซียมและแคลเซียม ชึ่งมีประโยชน์ต่อระบบฟอกโลหิตและระบบการหมุนเวียนในร่างกาย ส่วนคุณประโยชน์ของทับทิมจากการวิจัยทางการแพทย์ พบว่าทับทิมมีสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ยับยั้งเซลล์มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งเม็ดเลือดขาว พร้อมทั้งมีส่วนช่วยในการทำงานของระบบไหลเวียนโลหิต ลดการสะสมของไขมันในผนังเส้นเลือด ป้องกันเส้นเลือด อุดตันและแข็งตัว บำรุงหัวใจในผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือด โดยเพิ่มการไหลเวียนเลือดให้ดีขึ้น รวมทั้งลดภาวะหัวใจขาดเลือดในผู้ป่วยโรคหัวใจ บำรุงตับ ป้องกันการเป็นพิษต่อตับ โดยควรรับประทานน้ำทับทิมวันละ 50 ซีซี อย่างต่อเนื่อง เพื่อผิวพรรณและสุขภาพที่ดี และด้วยสรรพคุณที่มากมายเหล่านี้เองทำให้น้ำทับทิมกลายเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพยอดฮิตของคนในปัจจุบันไปแล้ว” คุณหมอคนเก่ง กล่าว