ข่าว

‘ประวิตร’แจงเรียก‘วัฒนา’พูดเท็จ!

‘ประวิตร’แจงเรียก‘วัฒนา’พูดเท็จ!

02 มี.ค. 2559

‘พล.อ.ประวิตร’ แจงทหารคุม ‘วัฒนา’ ปรับทัศนคติเหตุพูดไม่จริง ฮึ่ม!ใครพูดให้ขัดแย้งร้อยครั้งก็เชิญตัวร้อยครั้ง ยันไม่มีซื้อขายตำแหน่งตำรวจ

 
        2มี.ค.59 เมื่อเวลา 10.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล โดยได้กล่าวถึงกรณีที่มีสมาชิกสภาขับเคลื่อการปฏิรูปประเทศ (สปท.) บางคน ออกมาเผยว่ามีพล.อ.เกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งตำรวจ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ มีที่ไหน ไม่มี และช่วงที่ผมเข้ามาไม่มี เพราะผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้บังคับบัญชาระดับรองลงไปเขาต้องดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วเพราะเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ใช่เอาตำแหน่งมาขายกันทำไม่ได้ ผมเคยบอกไปแล้วว่าถ้ามีน่าจะตกเบ็ด มีคนโน้นคนนี้ฝากมา”
 
        เมื่อถามย้ำว่า จะมีการตรวจสอบย้อนหลังในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวย้อนว่า ไม่มีแล้วจะไปตรวจสอบใคร ถ้าอย่างนั้นสื่อก็ไปหาหลักฐานมา จะใช้แค่คำพูดไม่ได้ เพราะคำพูดคนก็พูดไปเรื่อยต้องเอาหลักฐานมาดู 
 
        “แล้วใครที่ไปบอกว่าเช็คบิล ไม่ใช่อย่างนั้น จะว่าใครคนใดคนหนึ่งถ้ามีหลักฐานก็บอกเลย คนที่เสียเงินให้บอกมาเลยว่าผมเสียเงินเข้ามา จะได้รู้ว่าเป็นใคร ส่วนคนที่พูดลอยๆ ไปออกทางไลน์ ตอนนี้ก็กำลังเดินการอยู่ ไปพูดลอยๆไม่ได้ เพราะองค์กรตำรวจจะเสียหมด องค์กรเขามีตั้ง 2 แสนกว่าคนไปดูถูกเขาเพราะคำพูดๆเดียว ไปพูดอย่างนี้เขาเสียหาย ต้องระวังคำพูด”พล.อ.ประวิตร กล่าว 
 
        เมื่อถามถึงกรณีที่ประชุม สปท. เห็นด้วยกับรายงานของ กมธ.ขับเคลื่อนการปฏฺรูปประเทศด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่เห็นควรปรับโครงสร้างการแต่งตั้งตำรวจระดับผบ.ตร.ให้เป็น อำนาจของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) พิจารณาแทนคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(กตช.) ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดิมทีเป็นอำนาจ ก.ตร. และตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น กตช. ที่มีนายกเป็นประธาน ซึ่งจะพิจารณาบุคคลในระดับที่ต่างกัน จึงต้องให้เกียรตินายกฯ และตำแหน่งผบ.ตร. นั้น กตช.น่าจะเป็นผู้มีหน้าที่ ส่วนก.ตร.ที่นายกฯเป็นโดยตำแหน่งนั้น จะดูระดับรองผบ.ตร.ลงมา แต่อาจจะมอบหมายให้รองนายกฯที่ได้รับมอบหมายเป็นคนทำได้ 
 
 
‘พล.อ.ประวิตร’ ชี้ทหารคุม ‘วัฒนา’ ปรับทัศนคติเหตุพูดบิดเบือน
 
 
        พล.อ.ประวิตร  ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ทหารเดินทางไปยังบ้านพักของนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า นายวัฒนาไปพูดอะไรไว้ ทำอะไรไว้ ยิ่งต่อว่า ตนก็ต้องเรียกมา เพราะพูดไม่จริง ส่วนคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะเชิญตัวไปปรับทัศนคติกี่วันนั้น ตนไม่รู้ เป็นเรื่องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ต้องว่ากันต่อไป และการที่ทหารไปบ้านคงไปเชิญมากินข้าว
 

พท.ออกแถลงการณ์จี้ปล่อยตัว“วัฒนา”        

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคเพื่อไทยได้ออกแถลงการณ์เรื่องการควบคุมตัวนายวัฒนาระบุไม่ชอบด้วยกฎหมาย และละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง จึงขอให้ปล่อยตัวนายวัฒนาทันที หากนายวัฒนากระทำผิดกฎหมายใดขอให้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย
 
 
‘บิ๊กป้อม’ฮึ่ม! ใครพูดให้ขัดแย้งร้อยครั้งก็เชิญตัวร้อยครั้ง
 
        พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงระยะเวลาในการควบคุมตัวนายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ว่า “จะใช้เวลาในการพูดคุยนานแค่ไหนก็เป็นเรื่องของคสช.ให้เขาว่ากัน แล้วเขาไปพูดอะไรละ เขาก็คงจะปรับทัศนคติว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรเลย ผมก็พูดกับเขาตั้งนานแล้ว พูดแล้วก็อย่าให้ไปกระทบกระเทือนใคร ไม่ต้องมาว่าผมหรอก ผมก็ไม่ได้ว่าใครอยู่แล้วนะครับ แต่ถ้าพูดร้อยครั้งก็เรียกมาร้อยครั้ง และต่อไปจะ 3 วัน 7 วัน”
 
        เมื่อถามว่า มาตรการที่แรงที่สุดจะทำอะไร  พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูว่ามันผิดกฎหมายหรือไม่ก็ต้องว่าตามกฎหมาย จะต้องเล่นกันตามกฎหมาย เมื่อถามว่าหมายถึงว่าต่อจากนี้ใครพูดซ้ำอีกจะดำเนินการอย่างไร พลเอกประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องว่าตามกฎหมาย ถ้าพูดอะไรต่างๆทำให้เกิดความเสียหายกับภาพรวมของประเทศและให้เกิดความขัดแย้งมันก็จำเป็น ก็อย่าพูดให้เกิดความขัดแย้ง ตนไม่ได้ว่าอะไรเลย จะต้านก็ต้านไปแต่ต้องไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ให้เกิดความเข้าใจผิดหรือเอาความไม่จริงไปโพสต์ มันไม่ได้
 
        เมื่อถามว่า มีใครเข้าข่ายว่าจะโดนเรียกซ้ำอีกไหม รองนายกฯ กล่าวว่า “ผมจำไม่ได้ เพราะมันเยอะ นาย ก. มั้ง ผมจะไปจำได้ยังไงว่ามันมีใครเข้าข่าย คุณนั่นแหละเข้าข่าย (พร้อมกับชี้ไปที่ผู้สื่อข่าวที่ถาม)” ซึ่งผู้สื่อข่าวถามว่าเข้าข่ายแล้วหรือ พลเอกประวิตร ตอบว่า เข้าแล้ว เข้ากับผมสองคน เพราะโจมตีผม 
 
        เมื่อถามถึงการดำเนินการกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯที่เคลื่อนไหวจากต่างประเทศ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตอนนี้ก็ไม่เห็นมีความเคลื่อนไหว อาจจะเป็นของเก่ามาออกเป็นตอนๆ ในส่วนสำนักข่าวอัลจาซีร่าที่เขาออกมา ส่วนที่สถาบันนโยบายโลก (World Policy Institute) หรือ WPI เชิญนายทักษิณ บรรยายพิเศษเกี่ยวกับสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจ ประชาธิปไตยของไทยรวมถึงบทบาทของไทยในภูมิภาคเวทีโลกในวันที่ 9 มีนาคมนี้นั้นตนก็พูดไปแล้ว ก็เรียนท่านไปแล้วว่าอะไรที่ไม่ทำให้ประเทศชาติเจริญไปข้างหน้าก็อย่าไปพูดเลย ไหนไหนท่านก็เป็นอดีตนายก เป็นคนไทย ก็ช่วยกันนะครับ ก็เหมือนผู้สื่อข่าวอย่าถามบ่อย ถามซ้ำอยู่นั่นแหละ เพราะถามบ่อยแล้วตนจะพูดไม่เหมือนเดิม เมื่อถามว่าสถาบันนโยบายโลกมีพลังแค่ไหนต่อรัฐบาล พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตนไม่รู้ เขาไม่ได้เชิญตนจึงไม่รู้ 
 
        เมื่อถามว่า เป็นห่วงอะไรหรือไม่เพราะช่วงนี้เป็นช่วงของการร่างรัฐธรรมนูญและอะไรต่างๆด้วย พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่ห่วงหรอก ทุกอย่างก็เดินไป ส่วนจะมีใครเห็นต่างก็เป็นธรรมดา คนตั้ง 60-70ล้านคน ก็ต้องมีบ้างต่างบ้างดีบ้าง “แต่ส่วนมากก็เห็นชอบ แล้วผู้สื่อข่าวชอบไหม ก็ยังชอบเลย เดี๋ยวก็เลือกตั้งแล้วครับ”
 
 
แจงส.ว.ช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นส.ว.สรรหามีหน้าที่ตามปกติ
 
 
        พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงแนวคิดของ ส.ว. ช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เรื่องนี้ชัดเจนอยู่แล้ว ไม่ต้องอธิบายเพิ่มเติม คือต้องการให้ ส.ว. มาจากการสรรหา เพื่อให้ทำงานปฏิรูปตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติที่วางไว้ร่วมกับ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ ส.ว. ในช่วงเปลี่ยนผ่านนั้น จะไม่ใช่องค์กรในช่วงเปลี่ยนผ่านแต่อย่างใด เป็นแต่ ส.ว. ที่ทำหน้าที่ปกติ แต่มีเรื่องเพิ่มเติมคือการดูแลยุทธศาสตร์ชาติ และเรื่องของการปฏิรูปให้ชัดเจน
 
 
สั่งปฏิรูปความมั่นคงทั้งประเทศ ชี้วางระบบเป็นสากล
 
 
        พล.อ.ประวิตร  กล่าวถึงการดูแลงานด้านความมั่นคงในช่วงนี้ว่า ตนมีหน้าที่ขับเคลื่อนในเรื่องของการระวังการป้องกันดูแลความสงบเรียบร้อย อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีอะไรน่ากังวลในเรื่องของความมั่นคง แต่ว่าเราจะทำให้เป็นแบบสากล ไม่ใช่ว่ามีเรื่องทีแล้วก็มาสั่งที เพราะถ้ามีเหตุก็ต้องทำโดยอัตโนมัติเลย โดยมีการวางรูปแบบไว้ชัดเจน เป็นการ “ปฏิรูปงานด้านความมั่นคงทั้งประเทศ”  
 
        ส่วนการจัดระเบียบทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่ได้เข้มขึ้น แต่ต้องการให้เป็นระเบียบให้ชัดเจนยิ่งขึ้นเวลามีอะไรเกิดขึ้นจะได้ตรวจสอบได้ง่าย ซึ่งเรื่องการจัดระเบียบทั้งหมดตนเป็นคนรับผิดชอบเพราะเป็นเรื่องของความมั่นคง และที่มีการเสนอให้ยกเลิกตลาดคลองผดุงกรุงเกษมข้างทำเนียบรัฐบาล พลเอกประวิตร กล่าวว่า ตลาดก็เป็นเรื่องของตลาดและตนไม่ได้รับผิดชอบเรื่องตลาด แต่ก็จะให้ตำรวจเขามาช่วยดูแล เพราะตลาดเป็นการทำแค่ชั่วคราวเท่านั้น 
 
        เมื่อถามว่าไม่มีทำเนียบรัฐบาลที่ไหนในโลกเอาตลาดมาตั้งในทำเนียบ พลเอกประวิตร กล่าวย้ำว่า ตลาดเป็นการดำเนินการแค่ชั่วคราว และตลาดมันทำเงินเยอะ แต่ไม่เป็นไรหรอก 
 
 
โวปชช.ตอบรับแก้ปัญหาคลองลาดพร้าว-แฟลตดินแดง
 
 
        พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ภายหลังการเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาลว่า มีการหารือถึงการดูแลเรื่องของคนยากคนจน เรื่องของเกษตรกร เรื่องราคายางพารา รวมทั้งการจัดระเบียบริมคลองลาดพร้าวที่จะต้องช่วยเหลือ ที่จะต้องวางแผนเพื่อให้หน่วยงานนำไปปฏิรูปต่อไปในอนาคต ไม่ใช่ว่าจะต้องแก้ไขปัญหาทุกปีแบบนี้ที่หลายหน่วยงานจะต้องร่วมมือกัน
 
        พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาราคายางพาราในระยะยาวว่า ให้หน่วยงานไปคิดในเรื่องของการปฏิรูปว่าจะปฏิรูปทั้งเกษตรกรเอง คนกรีดยาง และพ่อค้าที่จะต้องร่วมมือกันว่าจะได้เท่าไร นำไปใช้งานเท่าไร ไม่เช่นนั้นก็จะมาตกอยู่ที่รัฐบาลทั้งหมด เวลาราคาตกก็โทษรัฐบาล ราคาขึ้นพ่อค้าก็ดีใจอีก
 
        ส่วนการแก้ปัญหาคลองลาดพร้าว รองนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังดำเนินการไปเรื่อย และขณะนี้ได้เริ่มต้นแล้ว รวมถึงปัญหาแฟลตดินแดงด้วย ที่ประชาชนให้การตอบรับหมดแล้ว โดยในส่วนของคลองลาดพร้าวจะมีการประมูลแล้วก่อสร้างในเดือน เม.ย.นี้  
 
 
เผยเตรียมกวาดล้างผู้มีอิทธิพล 4 มี.ค.นี้
 
 
        พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์ถึงการปราบปรามผู้มีอิทธิพลตามนโยบายที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ที่เพิ่มมอบหมายให้ดำเนินการภายใน 6 เดือน ว่าตนเริ่มดำเนินการไปแล้ว 4 เดือนรู้ตัวแล้วว่ามีใครบ้าง โดยจะเริ่มเข้าไปหาคนเหล่านี้ และจะเริ่มดำเนินการหลังจากวันที่ 4 มี.ค.เป็นต้นไป ใครที่ทำอะไรผิดก็ต้องดำคดีตามกฎหมายทุกอย่าง