
เร่งตรวจสอบ “หุบเขาไฮโซ” พบบุกรุกยึดคืนผืนป่าทันที
สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ตรวจสอบ “หุบเขาไฮโซ” พบบ้านพักตากอากาศ รีสอร์ทกลางป่า ลั่นหากบุกรุกยึดคืนผืนป่าทันที
ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เร่งตรวจสอบ “หุบเขาไฮโซ” ลั่นหากพบบุกรุกจะยึดคืนผืนป่า เผยขอข้อมูลการบุกรุกพื้นที่ป่า 80 แห่งจากชุดพยัคฆ์เพื่อลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียด
นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่บริเวณ บ้านโป่งทุ่ง หมู่ที่ 4 และบ้านแม่ฮะ หมู่ที่ 10 ต.บ้านปง อ.หางดง และบริเวณ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ มีการสร้างบ้านพักตากอากาศ และรีสอร์ท อยู่กลางป่าซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกรมป่าไม้ ไม่ได้อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ โดยดูจากภาพถ่ายทางอากาศ ซึ่งพื้นที่ได้รับความเสียหายพอสมควร ยังไม่สามารถประเมินได้ ขณะนี้ทางชุดพยัคฆ์ไพรได้นำเอกสารสิทธิ์ไปตรวจสอบ เพื่อดูว่าเอกสารดังกล่าวออกมาอย่างถูกต้องหรือไม่ และยังไม่ทราบผล อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการบุกรุกจะดำเนินการยึดคืนผืนป่า โดยจะประสานกับชุดพยัคฆ์ไพร ก่อนเพื่อจะได้ทราบว่าให้ทางป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) เข้าไปดำเนินการในจุดไหน
ขณะนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ลงตรวจซ้ำอีกครั้ง เพื่อความชัดเจนในการดำเนินการ หากมีเอกสารตรงตามที่ออกไว้และไม่มีการบุกรุกพื้นที่ผู้ครอบครองก็สามารถดำเนินการได้ต่อไป แต่หากพบว่ามีการบุกรุกพื้นที่เกินกว่าที่เอกสารกำหนด หรือไม่มีเอกสารแสดงสิทธิ์ จะทำการยึดพื้นที่คืนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สำหรับพื้นที่อื่นๆ คงต้องรอชุดพยัคฆ์ไพรระบุก่อนว่ามีจุดไหนอย่างไรบ้าง เนื่องจากทางป่าไม่ที่ 1 (เชียงใหม่) ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนตามที่ระบุไว้ว่าเชียงใหม่มีการบุกรุกพื้นที่ประมาณ 80 แห่ง หากสามารถชี้พิกัดได้อย่างชัดเจนจะได้ดำเนินการลงพื้นที่ตามจุดที่ระบุไว้ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการตรวจซ้ำในพื้นที่ที่ถูกระบุอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยต้องดำเนินการตามขั้นตอน ด้วยการเข้าพบนายอำเภอของพื้นที่ที่จะเข้าทำการตรวจสอบเพื่อทำความเข้าใจ เพื่อให้ทางอำเภอส่งเจ้าหน้าที่ร่วมลงพื้นที่และแจ้งไปยังกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อเข้าดำเนินการพร้อมกันทั้งหมด เป็นแนวทางที่ทางอธิบดีกำหนดไว้
ทั้งนี้ ตามนโยบายของอธิบดีป่าไม้ที่ต้องการรักษาผืนป่า โดยการใช้ภาพภาพถ่ายทางอากาศของปี 2557 – 2558 ในการเปรียบเทียบ กับช่วงเวลาที่มีคำสั่งของ คสช.ออกมา หากมีการดำเนินการเพิ่มเติมให้ดำเนินการตามกฎหมาย ในเรื่องดังกล่าวนี้จะต้องมาพิจารณาภาพถ่ายดังกล่าวกันอีกครั้ง โดยจะเรียกเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อวางแผนดำเนินการในการตรวจเช็คพื้นที่ที่คาดว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่า
ด้านนายประพล เวียงนาค นายกเทศบาลตำบลบ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่อธิบดีกรมป่าไม้ ได้เดินทางลงพื้นที่ ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่า บริเวณ ม. 4 และ ม. 10 ต.บ้านปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารสิทธิ์ของผู้ครอบครองว่าถูกต้องหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วันนี้ (13 มิ.ย.) ได้เชิญเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าประชุม เพื่อเตรียมเอกสารต่างๆ พร้อมลงพื้นที่สำรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง โดยจะมีการะบุพิกัดให้มีความชัดเจนของพื้นที่ว่าอยู่ในความดูแลหรือไม่ ส่วนภาพถ่ายทางอากาศที่ลงในสื่อต่างๆ บางภาพไม่ใช่ภาพในพื้นที่ของ ต.บ้านปง อ.หางดง
ทั้งนี้ หากมีการเรียกประชุมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยเรื่องดังกล่าวนี้จะมีหน่วยงานจากกรมป่าไม้ และ สำนักงานที่ดิน จะต้องมีการประชุมร่วมกัน ส่วนโรงแรมที่พักและรีสอร์ทในพื้นที่ รวมถึงบ้านจัดสรร มีอยู่ในพื้นที่หลายแห่ง ทางเทศบาลจะรับชำระภาษีตามเอกสารสิทธิ์ที่ทางที่ดินออกมาให้อย่างถูกต้องตามกฎหมายส่วนการก่อสร้างรีสอร์ทบริเวณ หมู่ 10 ต.บ้างปง ที่ได้มีการนำเอกสารสิทธิ์มาแสดงนั้น จะต้องมีการตรวจเช็คอีกครั้งหนึ่งเชียงใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการลงพื้นที่สำรวจบริเวณโครงการสร้างบ้านพักอาคารรีสอร์ทบริเวณบ้านแม่ฮะ หมู่ 10 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ หลังนายชลทิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ และอีกหลายหน่วยงานได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพื้นที่ป่าทุกบุกรุกในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ
โดยพบว่ารีสอร์ทแห่งนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาลูกหนึ่งใกล้กับหมู่บ้านแม่ฮะ ด้านหลังเป็นพื้นที่ป่า และสวนกล้วยของชาวบ้าน มีระดับความสูงจากพื้นผิวถนนหมายเข 1269 หางดง-สะเมิง ราว 20-30 เมตร ทางขึ้นรีสอร์ทมีลักษณะสูงชัน ปูถนนแบบคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) โดยอาคารส่วนใหญ่ได้ก่อสร้างแล้วเสร็จราว 50%-60% ทั้งในรูปแบบอาคารคล้ายโรงแรม 3-5 ชั้น และอาคารเดียวเรียงรายอยู่รอบด้านจำนวนกว่า 20 หลัง หลังคาสีเดียวกันคือ สีส้มโอรส
เบื้องต้นไม่พบเจ้าของและผู้รับเหมาคุมงานก่อสร้างแต่อย่างใด พบเพียงคนงานที่กำลังทำหน้าที่ก่อสร้างอยู่ทั่วบริเวณ ส่วนใหญ่เป็นแรงงานข้ามชาติ ขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงพบว่า มีรีสอร์ทจำนวนมากสร้างอยู่บนเนินเขาลักษณะคล้ายกัน ซึ่งต้องรอรายละเอียดที่แน่ชัดจากเจ้าหน้าที่ต่อไป