ข่าว

วอนช่วยอดีตแชมป์โลกป่วยพาร์กินสัน

วอนช่วยอดีตแชมป์โลกป่วยพาร์กินสัน

16 มิ.ย. 2559

ครอบครัวชาติชาย เชี่ยวน้อย อดีตแชมป์โลกคนที่ 2 ของไทย ซึ่งกำลังนอนป่วย วอนภาครัฐ-เอกชนยื่นมือช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล เพราะแต่ละเดือนใช้จ่ายสูงกว่าครึ่งแสนบาท


                    ความคืบหน้าอาการป่วยของ ชาติชาย เชี่ยวน้อย อดีตแชมป์มวยโลกผู้ยิ่งใหญ่ ซึ่งเป็นแชมป์โลกคนที่ 2 ของเมืองไทย ต่อจาก โผน กิ่งเพชร ซึ่งปัจจุบัน ชาติชาย ในวัย 73 ปี นอนพักรักษาตัวอยู่ที่หมู่บ้านธัญธานี ซอยลำลูกกา 71 คลองห้า อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี โดยมี นางสิรินทร เชี่ยวน้อย ภรรยา นางอนุตรา ฉายโอภาส ลูกสาว นายสุนทร ฉายโอภาส ลูกเขย และผู้แลจากศูนย์ดูแลผู้ป่วย คอยดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ี่บริเวณห้องพักชั้นล่าง

                    โดยนางสิรินทร ภรรยาของชาติชาย เล่าย้อนถึงอาการป่วยของสามีให้ฟังว่า ชาติชายเริ่มมีอาการล้มป่วยตั้งแต่ปลายปี 2555 ตั้งแต่อยู่ที่ จ.เชียงใหม่ และเข้าออกโรงพยาบาลสันกำแพง ตามหมอนัดอย่างต่อเนื่อง อาการตอนแรกๆ เลย คือการเดินเหินช้าลง ไม่ค่อยพูดจา และรับประทานอาหารได้น้อยลง ซึ่งหมอได้วินิจฉัยว่า ผู้ป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน โดยมีจุดดำบริเวณสมอง คาดว่าจะเป็นผลกระทบมาจากการชกมวย ซึ่งชาติชายนั้น สมบุกสมบันมากยามอยู่บนสังเวียน

                    “ตอนนั้นเราขึ้นไปอาศัยอยู่ที่จ.เชียงใหม่ เป็นเวลา 10 กว่าปีแล้ว เพราะชาติชายเขาชอบที่นั่น บรรยากาศดี แรกๆ ก็สุขภาพแข็งแรงดี ไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากนั้น เมื่ออายุมากขึ้นเริ่มมีอาการป่วยและทรุดลง รักษาที่เชียงใหม่ได้ประมาณสัปดาห์เดียว ก็ต้องย้ายมายังโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ที่กรุงเทพมหานคร เพราะมีอุปกรณ์ทันสมัย และอยู่ใกล้ลูกหลาน”

                    หลังจากส่งตัวมารักษาในกรุงเทพมหานคร อาการของชาติชายอดีตแชมป์โลกผู้ยิ่งใหญ่ ถือว่ายังทรงตัว คือต้องนอนอยู่บนเตียง พูดจาไม่ได้ ไม่สามารถลุกขึ้นมาเดินได้ โดยภรรยาคู่ใจวัย 72 ปี กล่าวว่า นับตั้งแต่วันนั้นเป็นเวลา 3 ปีครึ่ง อาการของชาติชายยังคงทรงตัวตลอด และยังคงนอนอยู่บนเตียงเหมือนเดิม ที่ผ่านมาเข้าออกห้องไอซียูหลายครั้ง ซึ่งครอบครัวเราได้ดูแลรักษาอย่างดี ทั้งลูกๆ และลูกเขย รวมไปถึงได้ผู้ดูแลจากศูนย์ดูแลผู้ป่วยมีนบุรี ก็มาช่วยกันดู เพราะเขาจะรู้ว่า ควรดูแลอย่างไร ถึงจะถูกวิธี ซึ่งถือว่าช่วยได้มาก

                    “พี่ชาติชายเป็นผู้นำครอบครัวที่ดี รักครอบครัวและลูกๆ มาก มีเวลาว่างเมื่อไหร่ ก็จะพาทุกคนไปเที่ยวกันอย่างสนุกสนาน สถานที่ซึ่งไปบ่อยๆ คือ จ.เชียงใหม่ และที่เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา แต่ตอนนี้คงไปไหนไม่ได้แล้ว ซึ่งทุกคนรู้ดี ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น ทรัพย์สมบัติที่เคยมีจากการชกมวย บางสิ่งบางอย่างก็ต้องขายไป เพื่อนำเงินมาใช้จ่าย ไม่มีการยึดติด เพราะต้องเอาเงินมาใช้ในการรักษาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เขาอยู่นานที่สุด แม้จะกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้ก็ตาม”

                    เมื่อถามถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาตัว นางอนุตรา ลูกสาวของชาติชาย กล่าวว่า ในแต่ละเดือนพ่อต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี อย่างน้อย 2 ครั้ง แต่หากมีอาการฉุกเฉิน ก็ต้องรีบไปทันที โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 5-6 หมื่นบาทต่อเดือน ซึ่งตรงนี้ทุกคนก็ช่วยกัน และเข้าใจดี โดยเฉพาะยามที่พ่อแข็งแรง ท่านก็สร้างไว้ไม่น้อย ดังนั้นเราต้องช่วยกันดูแลให้ดีที่สุด 

                    “เรื่องค่าใช้จ่าย ทางครอบครัวเราก็ช่วยกัน โดยในตอนนี้มีการกีฬาแห่งประเทศไทย ช่วยเดือนละ 1 หมื่นบาท ตั้งแต่ปลายปี 2555 คือช่วงตั้งแต่ป่วยครั้งแรก ส่วนกำลังใจก็มีมาหลายทาง ทั้งผู้ใหญ่ในวงการมวย หรือคนที่รู้จักและติดตามผลงานชื่นชอบคุณพ่อสมัยชกมวย ก็มาเยี่ยมมาเยียนหรือโทรศัพท์มาคุยหลายคน ทุกสิ่งทุกอย่าง คือกำลังใจที่ดีให้ครอบครัวเรา ซึ่งต้องรักษาและสู้กันต่อไป”

                    ทายาทชาติชาย ยังกล่าวต่อว่า อาการโดยรวมถือว่าทรงตัว คือช่วยตัวเองไม่ได้ ต้องมีคนดูแลตลอด ตอนนี้ทุกคนช่วยกัน โดยเฉพาะทางพยาบาล จากศูนย์ดูแลผู้ป่วย ก็มาอยู่ที่บ้านกับเรา เขามีวิธีการดูแลผู้ป่วยที่ถูกต้อง เท่าที่ดูคุณพ่อแล้ว ถือว่า อาการตอนนี้ดีขึ้น สีหน้าดี ดูสดชื่น ไม่เหมือนคนป่วย ในส่วนของการกายภาพ พยาบาลก็ดูแลตลอด ทั้งการนวดมือ นวดเท้า เพื่อไม่ให้เส้นยึด ซึ่งพ่อก็รับรู้หลายๆ อย่าง ซึ่งเมื่อรับรู้ ก็จะพยักหน้า ตากะพริบ

                    ขณะที่ นายสุนทร ฉายโภาส ลูกเขยที่ดูแลชาติชายมาโดยตลอด กล่าวว่า ที่ผ่านมาพ่อได้สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติมากมาย เป็นแชมป์โลกที่ยิ่งใหญ่ ในยามป่วยไข้ ทางเราก็ต้องให้กำลังใจ และต้องช่วยกันดูแล ผมถือเป็นคนในครอบครัว ดังนั้นจึงต้องช่วยดูแลอย่างเต็มที่ ในตอนนี้ก็เป็นห่วงเรื่องของค่าใช้จ่ายเหมืิอนกัน เพราะแต่ละเดือนถือว่ามีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยทีเดียว โดยตอนนี้ เราได้การกีฬาแห่งประเทศไทย ช่วยเหลือเดือนละ 1 หมื่นบาท ตั้งแต่พ่อป่วยช่วงแรกๆ แล้ว ถือว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้นสมบัติที่มีอยู่บางอย่าง จึงมีความจำเป็นต้องขาย อย่างเช่น ตอนนี้เราได้ประกาศขายบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่ อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ไปแล้ว (ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านศิวาลัย 3 ขนาด 94 ตารางวา เป็นบ้าน 2 ชั้น 4 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ มีที่จอดรถและเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านครบครัน) เพื่อต้องการหาเงินทุนมาจุนเจือเรื่องค่ารักษาพยาบาล จึงอยากฝากถึงคนมวยที่เคยชื่นชมในผลงานของ ชาติชาย เชี่ยวน้อย และผู้ที่ต้องการอยากช่วยเหลือจริง หากมีใจเมตตาสามารถติดต่อช่วยเหลือโดยตรงได้ที่โทร. 09-1991-4419

                    “จริงๆ แล้ว ทางครอบครัวเราก็อยากช่วยกันเอง แต่บางครั้ง มันก็หนักเหมือนกัน ดังนั้นจึงอยากฝากไปยังภาครัฐหรือเอกชน ที่เห็นว่าคุณพ่อเคยเป็นบุคคลที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้เช่นกัน หรือมีงานพิเศษให้ครอบครัวเราช่วย ก็พร้อมช่วยอย่างเต็มที่ เพื่อจะนำเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาล” 

                    สำหรับประวัติของ ชาติชาย เชี่ยวน้อย นั้น มีชื่อจริงว่า นายนริศ เชี่ยวน้อย เกิดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2485 ที่ย่านหัวลำโพง กทม.เป็นแชมป์โลกคนที่ 2 ของคนไทย ต่อจาก โผน กิ่งเพชร และเป็นแชมป์โลกรุ่นฟลายเวท 112 ปอนด์ ถึง 3 สถาบันคือ เดอะริงค์, สมาคมมวยโลก และสภามวยโลก เคยเดินทางไปชกที่ต่างประเทศมากมาย ทั้ง เม็กซิโก, ญี่ปุ่น, สวิตเซอร์แลนด์, อังกฤษ, ฟิลิปปินส์ และปานามา