เรือคลองแสนแสบท่าประตูน้ำ-ผ่านฟ้าวิ่งปรกติแล้ว | คมชัดลึก

            27มิ.ย. 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเรือคลองแสนแสบระหว่างท่าเรือประตูน้ำ-ท่าเรือผ่านฟ้าได้งดให้บริการช่วงคราวเหตุสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานครได้เร่งปล่อยน้ำลงคลองแสนแสบประมาณ 30 เซนติเมตร ทำให้ระดับน้ำในคลองแสนแสบอยู่ที่ -70 เซนติเมตรจากริมตลิ่ง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน หลังจากได้ทำการพร่องน้ำในคลองแสนแสบลงประมาณ 1 เมตรจากริมตลิ่ง เพื่อรองรับปริมาณน้ำฝนตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้พยากรณ์อากาศว่ามีพายุดีเปรสชั่นบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ในช่วงของวันที่ 26 – 28 มิถุนายนนี้ ทำให้ในพื้นที่กทม.มีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่ง และเมื่อเวลาประมาณ 17.30น.เรือคลองแสนแสบระหว่างท่าเรือประตูน้ำ-ท่าเรือผ่านฟ้าได้สัญจรตามปรกติแล้ว 

 
กทม.จับตา“ดีเปรสชั่น”ก่อตัวแถวฟิลิปปินส์รับมือกรุงเทพฯ  
   
            ที่ห้องสุทัศน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม. และรองโฆษกกทม. กล่าวภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกทม. ครั้งที่ 20/2559 ซึ่ง ม.ร.วสุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม. เป็นประธานการประชุม ว่า ในที่ประชุมนายสมพงษ์ เวียงแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการระบายน้ำ กทม. ได้รายงานสถานการณ์ขณะนี้ มีพายุดีเปรสชั่นก่อตัวขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ ทางสำนักการระบายน้ำกำลังติดตามทิศทางการเคลื่อนตัวอยู่ คาดว่า จะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยเกิดฝนตกได้ และอาจส่งผลต่อกรุงเทพฯ โดยต้องติดตามข้อมูลการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาต่อไป ทั้งนี้ ข้อมูลในวันนี้ถึง 30 มิ.ย. ในกรุงเทพฯ ยังมีโอกาสเกิดฝนตก 70 เปอร์เซ็นต์ของพื้นที่ 

            นางเบญทราย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ จากข้อมูลฝนสะสมตั้งแต่ม.ค.-มิ.ย.2559 พบว่า สูงกว่าค่าเฉลี่ยของฝนปี 2554 ซึ่งทำให้ระดับน้ำคลองต่างๆ เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคลองแสนแสบ และคลองลาดพร้าว สำนักการระบายน้ำจึงได้ทำการควบคุมระดับน้ำ เพื่อรองรับฝนที่จะตก นอกจากนี้ ยังได้เร่งดำเนินการเปิดทางน้ำไหลบริเวณคลองหลุมไผ่ และคลองโคกคราม เพื่อช่วยระบายน้ำคลองลาดพร้าวด้วย อย่างไรก็ตามจากการดำเนินการยังคงพบปัญหาขยะติดเครื่องสูบน้ำ จนเป็นเหตุให้ต้องหยุดการเดินเครื่องสูบน้ำ เพราะอาจส่งผลทำให้เกิดความเสียหายกับเครื่องสูบน้ำได้ 

            นางเบญทราบ กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันในเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลสถานการณ์น้ำ กทม.ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วม กทม. เพื่อติดตามและรายงานสถานการณ์ฉุกเฉิน แก่สื่อวิทยุ โทรทัศน์ และโซเชียลมีเดีย โดยแบ่งเป็นช่วงเช้าก่อนเวลาที่ประชาชนจะเดินทางออกไปทำงาน ช่วงเวลา 11.30 น. และช่วงเย็นก่อนประชาชนเดินทางกลับบ้าน เพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจเลือกเส้นทางการเดินทางได้ นอกจากนี้หากเรดาร์จากศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมของกทม. ตรวจพบว่ามีเมฆฝนหรือคาดการณ์ฝนตกหนักในพื้นที่ใด จะแจ้งเตือนล่วงหน้าไปยังศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก.02) และหากมีปริมาณน้ำขังรอการระบายในจุดใดที่ทำให้ประชาชนไม่สามารถสัญจรผ่านได้ จะประสานไปยังบก.02 เพื่อปิดเส้นทาง พร้อมแจ้งให้ประชาชนทราบและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่เกิดปัญหา