ตร.-ทหารบุกค้นเทคนิคกาญจนาภิเษก
นำร่องค้นวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร 'ตร.-ทหาร' สนธิกำลังร่วมอาจารย์ จนท.สำนักงานเขต ตามคำสั่ง ม.44 ประชาสัมพันธ์ ขอความร่วมมือ ป้องปรามเหตุทะเลาะวิวาท
28 มิ.ย. 59 เมื่อเวลา 15.00 น. วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร ถนนคุ้มเกล้า แขวงแสนแสบ เขตมีนบุรี กรุงเทพฯ พล.ต.ต.ชัยพร พานิชอัตรา ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ก้องชาติ เลี้ยงสมทรัพย์ ผกก.สน.ฉลองกรุง พ.อ.จิรสิทธิ์ จันทรมี ผบ.บก.ควบคุม ร.2 รอ. , พ.ท.โกวิท สังขนครา ผบ.ชป.พท.ร.2 พัน.3 รอ. เจ้าหน้าที่ทหาร กองทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 ร.3 รอ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ฉลองกรุง สนธิกำลังร่วมกันกว่า 50 นาย เข้าร่วมประชุมกับ นางสาวฉันทนา โพธิครูประเสริฐ ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ เพื่อวางมาตรการดูแลความปลอดภัย ขอความร่วมมือและป้องกันเหตุนักเรียนทะเลาะวิวาท พร้อมทั้งตรวจค้นภายในวิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร หลังเกิดเหตุนักเรียนยิงกันบริเวณป้ายรถประจำทาง ปากซอยสีหบุรานุกิจ 18 ถนนสีหบุรานุกิจ แขวง/เขต มีนบุรี กรุงเทพฯ เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 59 เวลาประมาณ 18.30 น.
พล.ต.ต.ชัยพร กล่าวว่า จากคำสั่งและนโยบายของรัฐบาล ที่ให้นักเรียนช่างลดความขัดแย้ง ในวันนี้จึงสนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อาจารย์ และเจ้าหน้าที่สำนักงานเขตมีนบุรี ลงพื้นที่เอ็กซเรย์วิทยาลัยเทคนิคกาญจนาภิเษก มหานคร นำร่องเป็นวิทยาลัยแรก เพื่อตรวจสอบดูว่ามีอุปกรณ์ หรือวัตถุอะไรที่ถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุ ทั้งนี้ ทำตามคำสั่ง คสช. มาตรา 44 คำสั่งที่ 30/2559 ที่มีกฎหมายเพื่อป้องกันสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นจากความคึกคะนอง หรือก่อเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มนักเรียน จากการที่ได้พูดคุยสอบถามกับนักเรียน พบว่า เป็นคนตั้งใจและหากเรียนจบไปก็จะไปหางานทำ นอกจากนี้ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารถึงการดำเนินการอย่างนี้ในทุกสถาบันการศึกษา เพื่อลดความหวาดกลัว หวาดระแวง ในส่วนของตำรวจนครบาลนั้น ได้เชิญผู้อำนวยการสถาบันศึกษา อาจารย์ที่ปรึกษามาสร้างความเข้าใจ คัตเอาท์ คัดกรองนักเรียนตามโครงการประชารัฐร่วมใจ ลดความขัดแย้ง กองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยจะคัดกรองนักเรียนออกเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มกลาง กลุ่มดีไม่ดี และกลุ่มเป้าหมาย คือกลุ่มเสี่ยงมาก โดยจะประสานทหารเข้ามาพูดคุยทำความเข้าใจ ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการทำความเข้าใจกับสถาบัน การป้องกัน ได้มอบนโยบาย ให้ทั้ง 11 โรงพัก เน้นหนักตรวจสอบ ตรวจค้น ทุกสี่แยก ทุกจุด ที่พบนักเรียนรวมกลุ่มกัน และได้จัดชุดจู่โจม โดยใช้นาฬิกานักศึกษา ตั้งแต่ช่วงเช้า ก่อนเข้าเรียน เวลาประมาณ 07.00 - 08.00 น. และช่วงเย็น เวลาประมาณ 16.00 - 20.00 น. โดยจะทำเช่นนี้ทุกวัน และจะเน้นหนัก 4 พื้นที่ๆ เกิดเหตุบ่อยครั้ง คือ สน.มีนบุรี สน.นิมิตรใหม่ สน.หนองจอก และ สน.ร่มเกล้า
พ.อ.จิรสิทธิ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้มาช่วยเหลือตำรวจ ในการร่วมตรวจค้น ซึ่งปัจจุบันถือเป็นโชคดีของเด็กนักเรียนอาชีวะ ที่รัฐบาลได้ส่งเสริมและให้การสนับสนุน นอกจากนี้ยังลดความขัดแย้งระหว่างสถาบันอาชีวะ แม้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง ไม่ได้เกิดจากตัวนักเรียน แต่อาจเกิดจากการปลูกฝังของกลุ่มรุ่นพี่ที่จบไปแล้ว ก่อนหน้านี้เคยมีการจัดนักเรียนกลุ่มเสี่ยงเข้าค่าย ปรับเปลี่ยนพฤกติกรรม ก็จะนำกลับมาปรับปรุงแก้ไข หลังจากที่ช่วงแรกเข้าค่ายในระยะเวลาสั้น และไม่ต่อเนื่อง จึงมีเหตุทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการคาดหวังว่าในอนาคตการเดินทางไป-กลับของนักเรียน จะสามารถใส่ชุดเครื่องแบบโดยไม่ต้องหวาดระแวง หรือกังวลว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้น ซึ่งกฎหมายใหม่ของ คสช.ผู้ปกครองจะต้องร่วมรับผิดชอบสิ่งที่บุตรหลานของท่านได้กระทำความผิดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าตรวจค้นวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาประชาสัมพันธ์และขอความร่วมมือ รวมทั้งตรวจค้นบริเวณโดยรอบของวิทยาลัย เน้นตรวจจุดเสี่ยง จำนวน 11 จุด และที่จอดรถจักรยานยนต์ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นักเรียนจะใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะในการก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจค้นว่ามีอาวุธ หรืออุปกรณ์ที่อาจใช้ก่อเหตุหรือไม่ รวมทั้งจะทำการตรวจค้นบริเวณโดยรอบพื้นที่วิทยาลัย ที่อาจจะเป็นจุดซุกซ่อนอาวุธ เช่น บริเวณตอหม้อสะพาน นอกจากนั้นยังได้พูดคุย ทำความเข้าใจกับนักเรียนทุกคนให้เข้าใจ และรับทราบถึงปัญหา เพื่อที่จะแก้ไขได้ถูกจุดและถูกวิธี