ผลิตภัณฑ์ชาผัก“โมโรเฮยะ”ของดี4ดาวเมืองขอนแก่น | คมชัดลึก

              ด้วยคุณสมบัติของ “ผักโมโรเฮยะ” หรือ “ผักพระราชา” เป็นผักที่ให้สารอาหารประเภทเบต้าแคโรทีน โพแทสเซียม แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก เส้นใยอาหาร และมีวิตามินสูงกว่าผักใบเขียวทั่วไป รวมถึงมีสรรพคุณบรรเทาสารพัดโรค เหตุผลเหล่านี้ทำให้ สนิท สุวรรณศร ประธานมูลนิธิร่วมพัฒนาชนบทไทย-อาเซียน นำมาพัฒนาต่อยอดแปรรูปเป็น “ชาโมโรเฮยะ” และอีกหลายผลิตภัณฑ์

              ผักโมโรเฮยะ หรือเรียกอีกอย่าง ผักพระราชา พบในประเทศอียิปต์ก่อนนำเข้ามาในประเทศไทยโดยชาวญี่ปุ่น ต่อมาเมื่อศูนย์พัฒนาชนบทประสมประสานบ้านไผ่ ส่งต่อให้มหาวิทยาลัยขอนแก่น ศึกษาวิจัยสรรพคุณ ปรากฏว่าช่วยชะลอความชรา มีผลยับยั้งมะเร็ง แก้โรคเบาหวาน แก้ท้องผูก รักษาโรคกระเพาะลำไส้ ความดันโลหิตสูง โรคภูมิแพ้ บรรเทาอาการอ่อนเพลีย

               สนิท สุวรรณศร ประธานมูลนิธิร่วมพัฒนาชนบทไทย-อาเซียน กล่าวว่า หลังรู้สรรพคุณของผักชนิดนี้แล้วจึงสนใจที่จะนำมาพัฒนาต่อยอดให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ผลิตภัณฑ์แรกคือแปรรูปเป็นชา เพราะมองว่านอกจากเป็นผลิตภัณฑ์แล้วยังส่งเสริมให้ชาว อ.บ้านไผ่ปลูกผักชนิดนี้ไว้จำหน่ายเพื่อการแปรรูปเป็นรายได้เสริม

                 “ก่อนที่เราจะเริ่มผลิตผลิตภัณฑ์ก็ให้ชาวบ้านนำไปทดลองก่อนว่าเป็นอย่างไร ซึ่งผลที่ออกมาเป็นที่น่าพอใจ เนื่องจากชาวบ้านที่ทดลองหลายคนบอกว่าหลังดื่มชาโมโรเฮยะแล้วรู้สึกว่าร่างกายสดชื่น แข็งแรงขึ้นกว่าเดิม จึงผลิตออกมา” ประธานมูลนิธิแจง

                   พร้อมบอกถึงวิธีการทำ “ชาโมโรเฮยะ” อย่างแรกคือเก็บใบสดแล้วนำไปล้างน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง ก่อนนำมาผึ่งในตะแกรงให้แห้งพอหมาดๆ นำมาวางซ้อนกันแล้วหั่นให้มีขนาด 1-2 เซนติเมตร เอาไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน จนใบแห้งกรอบใช้เวลาประมาณ 45 นาที หากมีเครื่องอบให้อบอุณหภูมิที่ 70 องศาเซลเซียส ภายใน 1 ชั่วโมงแล้วทิ้งไว้ให้เย็น ก่อนบรรจุถุงปิดผนึกจะสามารถเก็บไว้ได้นาน ข้อควรระวัง หากคั่วให้ระวังอย่าให้ไหม้ และอย่าคั่วครั้งละมากๆ รวมทั้งช่วงที่ปลูกอย่าฉีดพ่นสารเคมีโดยเด็ดขาด

                   หลังผลิตผลิตภัณฑ์ชาโมโรเฮยะขึ้นมาได้ระยะหนึ่ง จนได้รับมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ <http://app.tisi.go.th/otop/otop.html> (มผช.) รองรับแล้ว อ.บ้านไผ่ ก็ชักชวนให้เข้าร่วมโครงการหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอท็อป เป็นสินค้าโอท็อปของ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น กระทั่งอยู่ในระดับ 4 ดาว โดยจำหน่ายอยู่ในราคา 300-450 บาท นอกจากตัวชาโมโรเฮยะแล้ว ยังมีผลิตภัณฑ์อื่น เช่น ข้าวเกรียบผักพระราชา กาแฟ ยาแคปซูลอัดเม็ด ในอนาคตอาจมีการพัฒนาเป็นเครื่องสำอาง

                    “ปัจจุบันแม้เรายังไม่ได้เปิดขายผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการ แต่ผลตอบรับที่ได้จากลูกค้ากลุ่มเล็กๆ และชาวบ้านถือว่าค่อนข้างดี มีคนติดต่อมาขอรับไปขาย และยังเป็นที่นิยมของชาวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวเมืองไทย ในอนาคตถ้าเปิดขายในท้องตลาดมากขึ้นก็คิดว่าคงไปได้ดี เพราะสรรพคุณของผักโมโรเฮยะน่าจะเป็นที่ถูกใจของหลายๆ คน”

                      อย่างไรก็ตาม ชาโมโรเฮยะ นับเป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนในสังคมในยุคที่ผู้คนหันมาดูแลสุขภาพร่างกายมากขึ้น หากท่านใดสนใจติดต่อได้ที่ศูนย์พัฒนาชนบทประสมประสานบ้านไผ่ เลขที่ 151 หมู่ 1 ถ.มิตรภาพ ต.บ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และที่สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน เลขที่ 6 สุขุมวิทซอย 12 กรุงเทพฯ โทร.08-0414-1877, 0-4337-4033-4

-------