ข่าว

"ค่าโง่" รัฐสภา 2 โผล่ 1,200 ล้าน..!!

"ค่าโง่" รัฐสภา 2 โผล่ 1,200 ล้าน..!!

22 ก.ค. 2559

“แก้วสรร” ปูดสร้างรัฐสภาใหม่ จ่อต่อสัญญาครั้งที่ 2 อีก 400 วัน หลังครบกำหนด ธ.ค.ปีนี้ ชี้ค่าโง่รออยู่แล้ว 1,200 ล้านบาท

\"ค่าโง่\" รัฐสภา 2 โผล่ 1,200 ล้าน..!!

          - 22 ก.ค. 59 - นายแก้วสรร อติโพธิ อดีตที่ปรึกษาสถาบันอาศรมศิลป์ ซึ่งเป็นผู้ชนะในการออกแบบรัฐสภาใหม่ “สัปปายะ สภาสถาน” กล่าวถึงปัญหาการก่อสร้างรัฐสภาใหม่ ว่า การขยายสัญญาสร้างรัฐสภาใหม่กับบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อปลายปี 2558 ที่ผ่านมา จำนวน 387 วัน เป็นการขอขยายสัญญาครั้งแรก ซึ่งจะครบกำหนดเดือนธ.ค.ปีนี้ จากนั้นรัฐสภาจะต้องต่อสัญญาครั้งที่ 2 อีก 400 วัน ซึ่งบริษัทซิโน-ไทยฯ เรียกค่าเสียหายวันละ 12 ล้านบาท แต่ตนเห็นว่าความเป็นจริงค่าเสียหายไม่ควรเกินวันละ 3 ล้านบาท ดังนั้นเท่ากับว่าขณะนี้เรามีค่าโง่ที่ต้องเสียรออยู่แล้ว 1,200 ล้านบาท
  
          นายแก้วสรร กล่าวอีกว่า ตนเคยตรวจสอบโครงการสร้างแอร์พอร์ตลิงค์ ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศสมคบกับผู้รับเหมา จากแผนที่ต้องย้ายชุมชนออกจากพื้นที่ใช้เวลา 240 วัน แต่การรถไฟฯกลับเขียนในสัญญาว่าจะส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมา ภายใน 90 วัน เพราะฉะนั้นเขาจึงมีความตั้งใจให้เสียค่าโง่ ปัญหา คือ ค่าโง่ของรัฐสภาใหม่ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ จำนวน 1,200 ล้านบาท ถามว่า รัฐสภาได้เตรียมจ่ายค่าโง่ตามที่ซิโน-ไทยเรียกร้องไว้หรือยัง และรัฐสภาได้มีการโต้แย้งค่าเสียหายที่ซิโน-ไทยเรียกร้องหรือไม่ รวมทั้งตกลงจะจ่ายค่าโง่หรือไม่ เท่าไหร่ แล้วใครจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการจ่ายค่าโง่ครั้งนี้

 

\"ค่าโง่\" รัฐสภา 2 โผล่ 1,200 ล้าน..!!
 
          นายแก้วสรร กล่าวต่อว่า ภายหลังที่มีคำสั่งนายกรัฐมนตรีห้ามไม่ให้ตัดต้นสัก จำนวน 5,000 ต้นเพื่อสร้างรัฐสภาใหม่นั้น ขอตั้งข้อสังเกตว่าองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (อ.อ.ป.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันหรือยังว่าถ้าไม่นำไม้ในป่าที่ชาวบ้านโวยวาย ไม้สักจะไม่พอ และต่อให้ไม่นำไม้จากพื้นที่ดังกล่าว ไม้ไม่พอจริงหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบราคาไม้สัก พบว่า ราคากลางของไม้สักอยู่ที่ 200 ล้านบาท หากว่าบริษัทซิโน-ไทยเสนอ ใช้อลูมิเนียมแทน โดยอ้างเรื่องไม้สักไม่พอ จะทำให้ลดต้นทุนจาก 200 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท มีส่วนต่างจากราคาเดิมคือ 150 ล้านบาท ซึ่งส่วนต่างนี้น่าจะนำไปหักลบกับมูลค่าโครงการก่อนสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ เพราะมีการเปลี่ยนสเปกวัสดุก่อสร้าง
 

          “ ขอย้ำว่าถ้ามีการเปลี่ยนจากไม้สักเป็นอลูมิเนียม ส่วนต่าง 150 ล้านบาท ต้องนำไปลดในมูลค่าโครงการก่อสร้าง จะปล่อยให้เป็นประโยชน์แก่ผู้รับเหมาไม่ได้ ต้องตกเป็นของรัฐเท่านั้น โดยต้องนำไปลดจากมูลค่าโครงการก่อสร้าง เพื่อให้ค่าโง่ 1,200 ล้านบาทลดลง เพราะค่าโง่จะต้องเป็นตัวเลขที่คนทำผิดต้องรับผิดชอบต่อรัฐจะปล่อยให้เป็นประโยชน์แก่ผู้รับเหมาไม่ได้ ต้องตกเป็นของรัฐเท่านั้น และ ถ้าได้รัฐสภาที่ใช้อลูมิเนียม สร้างออกมากลายเป็นโชว์รูมรถยนต์ อย่าโทษคนออกแบบ” นายแก้วสรร กล่าว ” นายแก้วสรร กล่าว