"ส้มจี๊ด"กากใยลดมะเร็งลำไส้-แก้ไอได้ผล!!
โดย - นายสวีสอง
“ส้มจี๊ด” หรือที่นิยมเรียกกันทั่วไปว่า ส้มมะปี๊ด มีเขตกระจายพันธุ์ในเอเชียตะวันออก เป็นพรรณไม้กลุ่มเดียวกับมะนาว ส้มโอ ส้มเขียวหวาน แต่คนส่วนใหญ่มักจะให้ความสำคัญกับส้มจี๊ดเป็นเพียงแค่ปลูกเป็นไม้ประดับเพราะทรงต้นสวย ผลเล็ก กินไม่ได้เนื่องจากรสชาติเปรี้ยวจัด แต่หารู้ไม่ว่าคุณค่าของส้มจี๊ดนั้นมีมากมหาศาล ทั้งทางยา โภชนาการทางอาหาร และการนำไปทำอาหาร
เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง ชื่อวิทยาศาสตร์ : Citrus Japonica Thunb สูง 1.5-3 เมตร แตกแขนงเป็นพุ่มแน่น
ใบ รูปไข่กว้าง 2-4 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร ผิวใบเป็นมัน ดอกสีขาว กลิ่นหอมแรง ออกเป็นช่อสั้นตามซอกใบและปลายกิ่ง
ดอก ออกเป็นดอกเดี่ยว แต่มักออกรวมกันเป็นกลุ่ม ๆ สีขาวมีกลิ่นหอมแรง ออกตามซอกใบและปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็น 5 แฉก กลีบดอกมี 5 กลีบ ร่วงได้ง่าย เมื่อบานมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2.5 เซนติเมตร มีเกสรเพศผู้มาก
ผล ค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-3 เซนติเมตร ผิวบางสีเขียว กลิ่นหอม เมื่อสุกเปลี่ยนเป็นสีส้ม เนื้อมีรสเปรี้ยวจัด มีเมล็ด 1-3 เมล็ด
ขยายพันธุ์ ตอนกิ่ง ปักชำกิ่ง ชอบความชื้นและแสงแดดปานกลาง
อย่างที่กล่าวส้มจี๊ด สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้เกือบทั้งผล ตั้งแต่เปลือก น้ำคั้น จนถึงกากส้ม ล้วนมีคุณค่าทางโภชนาการ และสามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้มากมาย
คุณค่าทางโภชนาการ พบว่า เปลือกและกากส้มอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร โดยมีปริมาณใยอาหารรวมร้อยละ 84.25 แบ่งเป็นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำร้อยละ 48.49 และที่ละลายน้ำร้อยละ 35.76
ใยอาหารเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในร่างกาย โดยใยที่ไม่ละลายน้ำทำให้เกิดการเคลื่อนไหวของลำไส้ เพิ่มปริมาณอุจจาระ เป็นกากอาหารช่วยให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ และช่วยให้ลำไส้มีการเคลื่อนตัวเพื่อขับกากอาหารและสารพิษที่ร่างกายไม่ต้องการ จึงช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งลำไส้
ส่วนใยที่ละลายน้ำนั้น สามารถรวมตัวกับน้ำในปริมาณมากและเพิ่มความหนืดให้กับอาหาร เมื่ออยู่ในกระเพาะอาหารจึงช่วยทำให้รู้สึกอิ่มได้นาน เมื่อเคลื่อนตัวไปอยู่ในลำไส้เล็กใยอาหารซึ่งมีความหนืดจึงช่วยเคลือบผนังลำไส้ให้หนาขึ้น ทำให้การดูดซึมอาหารที่มีประจุช้าลง เช่น การดูดซึมน้ำตาล ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดไม่สูงแบบเฉียบพลัน และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและขจัดพิษโลหะบางชนิดได้
น้ำส้มจี๊ด ซึ่งมีรสเปรี้ยวยังมีปริมาณวิตามินซีสูงถึงร้อยละ 32.16 ซึ่งเมื่อเทียบกับปริมาณวิตามินซีในมะนาว พบว่า น้ำส้มจี๊ดมีปริมาณวิตามินซีสูงกว่าน้ำมะนาวประมาณร้อยละ 10 และยังมีกรดอินทรีย์หลายชนิดเป็นองค์ประกอบอยู่
สรรพคุณทางยา น้ำคั้นส้มจี๊ดผสมเกลือเล็กน้อย ใช้จิบแก้ไอ ขับเสมหะได้,ผลแก่ นำไปดองเกลือและทำให้แห้งเก็บไว้อมแก้เจ็บคอ,เปลือกผลดิบ ใช้เป็นยาขับลมได้
ประโยชน์ในทางอาหาร ใช้น้ำคั้นแทนน้ำมะนาวปรุงอาหารได้ ที่สำคัญยุคนี้ส้มจี๊ดนำมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารได้หลากหลายชนิด ได้แก่ ส้มจี๊ดกวน เค้กส้มจี๊ด แยมส้มจี๊ด ส้มจี๊ดเชื่อมอบปรุงรส
เมนูส้มจี๊ดเชื่อมอบแห้งปรุงรส นำส้มจี๊ดผ่าครึ่งลูก คั้นน้ำออก นำส่วนเปลือกและกากที่ได้ต้มกับน้ำเกลือเพื่อลดความขม ล้างเกลือออก แล้วนำมาเชื่อมในน้ำเชื่อม จากนั้นนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำเชื่อมแล้วอบด้วยตู้อบลมร้อนเพื่อให้ผิวนอก แห้ง ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ พริกป่น ก็จะได้ส้มจี๊ดเชื่อมอบแห้งปรุงรส หรือที่เรียกกันว่า ส้มจี๊ดหยีนั่นเอง
น้ำส้มจี๊ด นอกจากจะใช้ปรุงอาหารแทนมะนาวแล้ว ยังนำมาทำเป็นน้ำผลไม้ในรูปแบบต่างๆ ได้ เช่น น้ำส้มจี๊ดผสมน้ำเชื่อมหรือน้ำผึ้งเติมน้ำแข็งให้เย็นจัด ใช้ดื่มแก้กระหายยามอากาศร้อน หรืออาจจะผสมโซดาเล็กน้อยก็เปรี้ยวซ่าดื่มชื่นใจคลายร้อนได้เช่นกัน
หากไม่ต้องการแปรรูป เปลือกส้มจี๊ดของผลห่าม นำมารับประทานแกล้มกับน้ำพริก ซึ่งจะได้ทั้งรสชาติความอร่อย กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยที่ผิวส้ม ได้รับใยอาหารช่วยลดอาการท้องผูก และยังช่วยไม่ให้ท้องอืดท้องเฟ้อเนื่องจาก มีสรรพคุณเป็นยาขับลม
จากประโยชน์ที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นได้ว่า ส้มจี๊ดลูกเล็กๆ เหล่านี้ ช่างเป็นผลไม้ลูกจิ๋ว ที่มีสรรพคุณอย่างแจ๋วเลยทีเดียว อีกทั้งการปลูกก็ง่าย การดูแลรักษาก็ง่าย และยังให้ผลดกนำมาใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งปี