เบื้องหลัง...ธารน้ำใจ ไถ่วัว –ควาย ยกคอก 41 ชีวิต!
จากควายหนุ่มที่หนีออกจากโรงเชือดมาป่าวประกาศให้ผู้ใจบุญรับรู้ น้ำใจหลั่งไหลขยายวงช่วยควาย-วัวที่รอถูกเชือดได้ทั้งคอก “คมชัดลึก” เปิดใจ “วสันต์” สะพานบุญครั้งนี้
12 ส.ค. 59 - น่าจะกลายเป็นการร่วมระดมทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือโดยชาวบ้านธรรมดาได้มากที่สุดเท่าที่เคยปรากฏ จากจุดเริ่มต้นที่ตั้งใจไถ่ชีวิตควายหนุ่มที่เป็นข่าววิ่งหนีตายออกจากโรงเชือด น้ำใจหลั่งไหลไม่หยุด ได้เงินบริจาคเกือบ 2 ล้าน เผื่อแผ่ไถ่ชีวิตทั้งควายและวัวทั้งคอกที่รอโดนเชือดรวม 41 ชีวิต
จากกรณีควายหนุ่มซึ่งต่อมาได้ชื่อว่า “บุญช่วย” หนีออกจากโรงเชือดที่ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา และปรากฏเป็นข่าวสะเทือนใจผู้คน ต่อมามีผู้ริเริ่มบอกบุญเพื่อนำเงินมาไถ่ชีวิตเจ้าบุญช่วย นำโดย “วสันต์ วณิชชากร” อดีตช่างภาพสื่อเครือเนชั่น ซึ่งได้โพสบอกบุญผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว จนกระทั่งมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคเงินเข้ามาจำนวนมากทะลุล้านบาทตามที่ “คมชัดลึก” เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น (รายละเอียด)
หลังเป็นข่าวก็ยังคงมีเงินบริจาคหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ จนล่าสุดนอกจากไถ่ชีวิตควายที่รอการถูกเชือดได้ทั้งคอกจำนวน 26 ตัวแล้ว ยังสามารถนำเงินบริจาคไปไถ่ชีวิตวัวในโรงเชือดดังกล่าวได้ทั้งคอกอีกจำนวน 10 ตัว รวมสามารถไถ่ชีวิตทั้งควายและวัวออกจากโรงเชือดได้ทั้งหมด 36 ตัว รวมกับลูกควายที่อยู่ในท้องอีก 5 ชีวิต รวมเป็น 41 ชีวิต
วสันต์ เปิดเผยกับ “คมชัดลึก” ถึงที่มาของความรู้สึกอยากช่วยเจ้าบุญช่วยทันทีที่เห็นข่าวมันวิ่งหนีออกจากโรงเชือดว่า “มันเหมือนกับการระเบิดของความรู้สึกที่อยากช่วยพวกเขาทุกที ที่เห็นพวกเขาอยู่บนรถ บนท้องถนน ทั้งเวลารถวิ่งและรถจอดคู่กัน รู้เลยว่าพวกเขากำลังจะไปไหน แววตานั้นอยู่ในใจเสมอ อยากช่วยพวกเค้ามากแต่ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร มันเก็บกดความรู้สึกสงสารพวกเขามานาน จนมีวันนี้ ที่ได้รับข่าวสารของบุญช่วย และเราพอจะช่วยเขาได้เพราะใกล้บ้านและมีเพื่อนที่มีใจกุศลที่เคยร่วมทำกุศลกันหลายครั้ง”
“แต่ก็ไม่คิดว่ากระแสของบุญช่วยจะรุนแรงและขยายวงกว้างออกไปขนาดนี้ ผมเพียงแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำ ทำในสิ่งที่อยากทำมานานเท่านั้น ต้องบอกว่าพลังของอารมณ์ในภาพถ่ายและกระแสโซเชียลนั่นมีพลังจริงๆ ต้องขออนุโมทนาบุญกับพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ ที่มีใจอันเป็นกุศลมากมาย ที่ก่อให้เกิดกระแสความเมตตา สงสารที่มีต่อสัตว์เช่น ควาย สัตว์ที่ครั้งหนึ่งเคยมีบุญคุญต่อเรา และเป็นสัตว์ใหญ่ที่สงบ แววตาเศร้า ไม่เคยคิดเบียดเบียนใคร ขอเพียงมีหญ้าและฟางให้กินแค่อิ่มท้อง ขอให้คำอวยพรที่ผมได้รับนี้ส่งต่อไปยังผู้ร่วมไถ่ชีวิตวัว ควายในครั้งนี้ทุกๆ คนด้วยนะครับ”
แน่นอนภาพจากฝีมือการถ่ายของ “วสันต์” ที่สะท้อนแววตาแสนเศร้าของควายเหล่านั้นที่เขานำมาโพสในเฟซบุ๊คส่วนตัว เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเรียกกระแสน้ำใจจากผู้ใจบุญ
แต่แม้จะมีผู้ใจบุญส่งน้ำใจและปัจจัยเข้ามาไม่ขาดสาย ก็ใช่ว่าเส้นทางบุญนี้จะมีแต่ความราบรื่น วสันต์ เปิดเผยถึงความรู้สึกในช่วงของการทำบุญใหญ่ ว่า “ผมเพิ่งรู้สึกว่าทำไมเมื่อวันก่อนครียด ประสาทเกร็ง ตึงมาก ก็เพราะไม่สามารถต่อรองราคาควายให้ลดลงได้เลยแม้แต่บาทเดียว เจ้าของโรงเชือดบอกราคาเท่าไหร่ ต่อแล้วไม่ให้ จะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ เราก็ต้องยอม เราไม่มีอำนาจต่อรองอะไรเลย เพราะว่าเรามาซื้อชีวิต พวกเขาไม่ใช่สิ่งของ ที่เราสามารถเดินหนี ไม่สนใจ ไม่ซื้อก็ได้ แต่เขาคือชีวิต เราไม่เอา เราไม่ซื้อ เขาก็ตาย”
วสันต์ บอกว่า พยายามเรียกเพื่อนหลายคนให้ไปช่วยต่อราคา ทุกคนก็พูดไม่ออก เพราะนี่มันคือการซื้อชีวิต เราไม่เอา เราเดินหนีไม่ได้ เราพยายามเข้าไปพูดเรื่องราคาทุกจังหวะ แต่เราต้องสลดกับมาทุกครั้งที่ทำต่อรองอะไรกับมันไม่ได้เลย
ผู้ทำหน้าที่ "สะพานบุญ" ครั้งนี้เล่าถึงช่วงแรกยังมีเงินจำกัดต้องเลือกว่าจะไถ่ชีวิตควายตัวไหนว่า “หนึ่งในสี่แม่ควายที่โตเต็มวัยและมีลูกอยู่ในท้อง ราคาตัวละ 75,000 บาท (ขายออกจากคอกคิดเป็นกิโลกรัม) ตัวสุดท้ายที่โดนเลือก มันโดนเลือกเพราะยืนเด่นมองเราโดยไม่หลีกหนีเหมือนตัวอื่น เหมือนกำลังวิงวอนให้เลือกฉันเถิด ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่ ฉันตั้งท้อง ฉันกำลังจะมีลูก สายตาวิงวอนแบบนี้ เลยต้องเอามันออกมา แม้ราคาจะแพงเกินกว่าเงินในกระเป๋าที่เรามีอยู่ตอนนั้นหลายหมื่น แต่จะให้ทำยังไงล่ะ ตอนนั้นรู้สึกเลยว่าพอแล้วกับการชี้เป็น ชี้ตายให้พวกมัน”
“หลายวันมานี้เหมือนเรากำลังชดใช้กรรมบางอย่าง แต่เป้าหมายเราอยู่ที่ชีวิตพวกนั้น ไม่มีอะไรมาหยุดเราได้ วันที่เราพามันทุกตัวไปในที่ที่ดี วันนั้นจะเป็นบุญของเราบ้าง”
“โชคดีของเราและควายอย่างเดียวคือการได้เงินมามาก และซื้อชีวิตพวกมันออกมาได้ทุกตัว ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะได้มากขนาดนี้ แค่ใส่ใจ ตั้งใจทำให้ดีที่สุด แต่ก็เพราะทุกๆคน มีจิตใจที่เป็นเมตตา สงสารอยู่แล้ว เลยทำให้การไถ่ชีวิตครั้งนี้มันใหญ่เกินคาดน่ะครับ ขออนุโมทนาบุญด้วยอีกครั้งนะครับ ขอบคุญแทนวัว แทนควายด้วยครับ”
อย่างไรก็ตาม วสันต์ กล่าวว่า “การแก้ปัญหาด้วยการไปไถ่ชีวิตโคกระบือนี้เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ มีผลทำให้เกิดธุรกิจค้าความตายกับวัวและควายมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้าพวกเรายังต้องการทำบุญโดยการไถ่ชีวิตพวกเค้าอยู่อย่างนี้ การรณรงค์ให้ ลด ละ เลิก จะเป็นสิ่งที่จะช่วยพวกเขาได้มากที่สุด อาจจะไม่มีทางหมดไป ตราบใดที่สังคมยังมีหลายหลากมิติเช่นนี้ แต่เราต้องเริ่มที่ตัวเราเองและบุคคลรอบข้างและต้องตอบให้ได้ว่า เราจะหยุดบริโภคพวกเขาได้หรือไม่”
ทั้งนี้ วสันต์ ได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊คว่าได้ปิดรับการบริจาคและปิดบัญชีธนาคารที่เปิดรับบริจาคเป็นการถาวรเพื่อให้เกิดความโปร่งใส โดยแจ้งว่า ได้โอนเงินจำนวน 1,604,000 บาทถ้วนให้กับเจ้าของคอกโรงเชือดเรียบร้อยแล้ว ยังเหลือยอดเงินในบัญชี 23,625 บาทกับเงินสดบางส่วนที่ยังมาไม่ถึง พร้อมระบุว่า หลังบริหารจัดการทุกอย่างตั้งแต่ค่าขนส่ง ค่าอาหารและยาจบสิ้น วัวและควายไปอยู่ในที่ที่เหมาะสมแล้วจะมาแจงแจงรายละเอียดให้ทราบอีกที
วสันต์ เล่าถึงที่มาของเงินบริจาคที่ทะลุเป้าแล้วทะลุเป้าอีก ว่า มาจากมาทุกสารทิศ ทั้งพรรคพวกทั้งที่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว และเพื่อนทางเฟซบุ๊ค รวมทั้งเมื่อเป็นข่าวออกไปก็มีคนบริจาคเข้ามาเพิ่มอีก ประทับใจในความตั้งใจของคนทำบุญอย่างมาก บางคนฝนตกก็เดินกางร่มเอาเงินมาให้ มีคุณครูที่บอกบุญเด็กนักเรียนและรวบรวมเงินขับรถข้ามอำเภอมาให้ นอกจากในประเทศ ยังมีเครือข่ายคนไทยในต่างประเทศร่วมบริจาคด้วย
“เด็กชายตัวเล็กๆที่ตามมากับพ่อ เห็นพ่อบริจาค 1 พันบาท เขาก็ควักกระเป๋าเอาเงินค่าขนมมาร่วมทำบุญด้วย นอกจากนี้ยังมีอีกหลายรายที่น่าประทับใจ ครูอีกท่าน นอกจากจะระดมเงินทำบุญจากเพื่อนมาให้แล้ว ยังบริจาคทองคำน้ำหนัก 1 บาทที่เก็บสะสมไว้ให้มาอีกด้วย”
สำหรับคนไทยในต่างประเทศมีทั้งจากสหรัฐ จากนิวยอร์ก 57,000 บาท จากเท็กซัส 40,000 บาท ออสเตรเลีย 20,000 บาท และ นอรเวย์ 5,000 บาท
ทั้งนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (12 สิงหาคม) ทางอำเภอศรีมหาโพธิจะนำควายและวัวทั้งหมดมาทำพิธีไถ่ชีวิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสทรงเจริญพระชนมายุ 84 พรรษาด้วย ก่อนจะส่งมอบให้ส่วนต่างๆไปดูแลต่อไป
โดย “บุญช่วย” และควายตัวเมียอีกตัวชื่อ “บุญนำพา” จะถูกส่งไปที่วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา ส่วนที่เหลือจะมอบให้กับให้เกษตรกรที่ยากจน ขยัน แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ นำไปเลี้ยงเพื่อช่วยสร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ อีกทั้งอีกเป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มจำนวนประชากรโคกระบือในประเทศไทยอย่างยั่งยืน โดยมีสัญญาห้ามขาย ห้ามฆ่า
(บุญช่วยเดินทางถึงวัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อ 12 ส.ค. )