ข่าว

“ไผ่ ดาวดิน”รับข้อกล่าวหาขัดคำสั่งคสช.

“ไผ่ ดาวดิน”รับข้อกล่าวหาขัดคำสั่งคสช.

31 ส.ค. 2559

“ไผ่ ดาวดิน” พร้อมพวก5คน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกคดีร่วมกันขัดคำสั่งหัวหน้า คสช. จากกรณีจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพ” เมื่อวันที่31ก.ค.59ที่ผ่านมา

 


          เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 31 ส.ค.59  ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ผู้ต้องหาที่ 1 พร้อมด้วยนางสาวฉัตรมงคล เจนเชี่ยวชาญ สมาชิกกลุ่มดาวดิน ผู้ต้องหาคนที่ 2 นายณรงค์ฤทธิ์ อุปจันทร์ กลุ่มพลเมืองคนรุ่นใหม่ ผู้ต้องหาคนที่ 3 นางสาวณัฐพร อาจหาญ สมาชิกขบวนการอีสานใหม่ ผู้ต้องหาคนที่ 4 นางสาวดวงทิพย์ ฆารฤทธิ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องหาคนที่5 และนางนีรนุช เนียมทรัพย์ เจ้าหน้าที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้ต้องหาคนที่6 เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ถวัลย์ สุทธาวรัตน์ รองผู้กำกับการฝ่ายสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น และ พ.ต.ต.วิษณุ แสนคำ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ตามหมายเรียกในข้อหาร่วมกันขัดคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จากกรณีร่วมกันจัดกิจกรรม “พูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน” ที่อาคารจตุรมุข คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อวันที่ 31 ก.ค.59 ที่ผ่านมา หลังจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ได้ออกหมายเรียกให้ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน มารับทราบข้อกล่าวหา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา 

          แต่เนื่องจากนายจตุภัทร์ ผู้ต้องหาที่ 1 ยังถูกคุมขังในขั้นฝากขัง คดีอาญาฐานความผิด พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2559 ที่เรือนจำอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิทางทนายความจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นผู้ได้รับมอบอำนาจของจตุภัทร์ และพวกอีก 5 คน จึงเข้ายื่นหนังสือต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อขอเลื่อนการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาและพนักงานสอบสวนได้นัดให้มารับทราบข้อกล่าวหาในวันนี้โดยมีเจ้าหน้าที่จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมาร่วมสังเกตการณ์และทำหน้าที่ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากผู้ต้องหาทั้งหมด 6 คน นอกจากนี้พ่อและแม่ของนายจตุภัทร์ กลุ่มเพื่อนนักศึกษาและชาวบ้านบ้านมูล ต.ดูนสาด อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ประมาณ 30 คนเดินทางมาให้กำลังใจและติดตามการเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของนายจตุภัทร์ และเพื่อนอีก 5 คนด้วย  โดยพนักงานสอบสวนได้ใช้เวลาในการสอบคำให้การกว่า 3 ชั่วโมง โดยมีทนายความร่วมรับฟังการสอบปากคำในครั้งนี้

          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเข้ารับทราบข้อกล่าวหาและให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ได้ร่วมกันอ่าน “แถลงการณ์ 6 ผู้ต้องหาพูดเพื่อเสรีภาพ” โดยเนื้อหาบางส่วนระบุว่าในวันที่ 30 และ 31 ส.ค. 2559 เพียงแค่จัดเวทีพูดเพื่อเสรีภาพรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน แต่กลับต้องตกเป็นผู้ต้องหา รัฐธรรมนูญสำคัญกับชีวิตเรา เพียงแค่เราเห็นต่างจากรัฐเผด็จการก็มีการกีดกันการมีส่วนร่วม เสรีภาพในการแสดงออกในปัจจุบันถ้าไม่ใช้เพื่อสนับสนุนรัฐเผด็จการแล้ว เราจะถูกกักขังโดยกระบวนการอยุติธรรม ทั้งนี้ จะไม่ขอเรียกร้องต่อเผด็จการ แต่จะขอเรียกร้องต่อผู้คนในสังคมเพื่อที่จะร่วมกันสร้างพื้นที่การแสดงออกอย่างเสรี โดยเรียกร้องให้ยกเลิกกฎหมายคำสั่งที่ริดรอนสิทธิการแสดงออกของประชาชน เช่น คำสั่ง คสช.ที่ 3/2558 พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ เรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีที่มาจากการแสดงความเห็นทางการเมือง และต่อร่างรัฐธรรมนูญ และเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้อำนาจศาลทหารกับประชาชน

          ด้านนางสาวเยาวลักษ์ อนุพันธุ์ หัวหน้าศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวว่า การเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาของผู้ต้องหาทั้ง 6 คนในวันนี้ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 6 คนได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้เหตุผลว่า การจัดกิจกรรมเป็นการพูดเพื่อเสรีภาพและเรื่องของรัฐธรรมนูญกับคนอีสาน ซึ่งมีความสำคัญกับชีวิตของประชาชนทุกคน ซึ่งก่อนหน้าที่นักศึกษาขบวนการอีสานใหม่จะจัดงานขึ้นที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น หนึ่งสัปดาห์ก่อนก็มีการจัดกิจกรรมลักษณะนี้ขึ้นที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร จึงมองว่าคำสั่ง คสช.ที่3/2558มีปัญหาในทางกฎหมาย เพราะมีความหมายที่กว้างและไม่ชัดเจน ทำให้การใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ไม่ชัดเจนตามไปด้วย นอกจากผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาทั้ง 6 คนนี้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งกับทนายว่า ยังมีผู้ต้องหาอีกหลายคนที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในคดีเดียวกันนี้ด้วย โดยในวันพรุ่งนี้จะออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาด้วยเช่นกัน

          อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางทนายความจะทำคำให้การเป็นหนังสือเพื่อนำมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่นโดยผู้ต้องหาทั้ง 6คนจะเดินทางมาด้วยตนเองและจะนำหลักฐานที่เกี่ยวข้องมาส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน ในวันที่ 4 ต.ค. 2559 และจะมีการเชิญนักวิชาการที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องกฎหมายร่วมเป็นพยานในครั้งนี้ด้วย