ทำ“ปลาเค็มแดดเดียว”สร้างรายได้เดือนละ8หมื่น
ชาวบ้านรวมกลุ่ม นำปลาน้ำจืดที่รับซื้อจากชาวบ้าน นำมาแปรรูป ทำปลาเค็มแดดเดียว ส่งขายตามตลาดนัดชุมชน สร้างรายได้ ไม่ต่ำเดือนละ 8 หมื่นบาท ในช่วงฤดูน้ำหลาก
ชาวบ้านตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร รวมกลุ่ม นำปลาน้ำจืด ทั้งปลาช่อน ปลาดุก ปลานิล ปลาหมอ และ ปลาสลิด ที่รับซื้อมาจากเกษตรกรที่เลี้ยงปลาและชาวประมงในพื้นที่ มาทำการแปรรูปปลาน้ำจืด ทำปลาเค็มแดดเดียวที่มีรสชาติไม่เค็มจัด เหมาะสำหรับเป็นกับข้าว และ ของฝาก จำหน่ายให้กับประชาชนในช่วงฤดูน้ำหลากสร้างรายได้ ไม่ต่ำเดือนละ 8 หมื่นบาท
โดยวิธีการทำจะนำปลาสดที่รับซื้อมา ผ่านกรรมวิธี ทำความสะอาด โดยการขอดเกล็ดปลาทำการการตัดหัว และควักไส้ ออกแล้วนำมาล้างด้วยน้ำสะอาด ก่อนนำมาคลุกเค้าด้วยเกลือตามสูตร ก่อนเก็บรักษาอุณหภูมิในการน็อกด้วยน้ำแข็ง เพื่อคงความสดของปลา จากนั้น วันรุ่งขึ้น ทำการล้าง พร้อมกับ นำมาตากแห้ง โดยพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้เวลาตาก ประมาณครึ่งวัน จากนั้น ทำการเก็บนำไปวางจำหน่ายกับประชาชน
นางสุรัชนี แตงณรงค์ แม่ค้าแปรรูปปลาเค็มแดดเดียว ระบุว่า รับปลามาจากแหล่งรวมปลาจากต่างจังหวัดและในจังหวัด โดยจะมีพ่อค้ามาส่ง ในทุกทุก 2-3 วัน โดยจะมาทำการทำความสะอาดแปรรูป แล้ว ตากแห้งส่ง โดยในช่วง 2-3 วัน จะมีการสั่งปลา จำนวน 3 หมื่นบาท มาเป็นวัตถุดิบ จากนั้นจะแปรรูป ส่งจำหน่ายตามตลาดนัด ซึ่งหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะได้ กำไรครั้งละ 1 หมื่นบาท คิดเป็นรายได้ เดือนละ 7-8 หมื่นบาทต่อเดือน
สำหรับปลาเค็มแดดเดียว ที่ตำบลบ้านบุ่ง อำเภอเมืองพิจิตร มีลักษณะสดใหม่ และ รสชาติไม่เค็มมาก ไม่มีการใส่สารเร่งสี จึงทำให้ เป็นที่นิยมของผู้บริโภค ถือว่า ปลาเค็มแดดเดียว เป็นอีกอาชีพหนึ่ง ที่สร้างรายได้ กับเกษตรกร ที่มีอาชีพหาปลา และ ชาวบ้านที่ทำการแปรรูปสินค้าสัตว์น้ำ ในช่วงฤดูน้ำหลากได้เป็นอย่างดี ประชาชนที่สนใจ สามารถติดต่อสอบถามสินค้าได้ที่ เบอร์โทรศัพท์ 081-5332968