"มะระหวาน"บำรุงหัวใจ-ลดความดัน!
โดย - นายสวีสอง
“มะระหวาน” หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ “ฟักแม้ว” มีถิ่นกำเนิดทางตอนใต้ของประเทศเม็กซิโกและแถบอเมริกากลาง เพาะปลูกอยู่ทั่วโลก ว่ากันว่านำเข้ามาปลูกในไทยโดยหมอสอนศาสนา และให้ชาวบ้านปลูกครั้งแรกที่ จ.แพร่ ปัจจุบันปลูกกันมากใน จ.เลย เพชรบูรณ์ และจังหวัดทางภาคเหนืออย่างเชียงราย ภาษาอังกฤษเรียก ชาโยเต้ (Chayote) ชื่อท้องถิ่นอื่นๆ มะระแม้ว มะเขือเครือ มะเขือฝรั่ง มะระญี่ปุ่น ฟักญี่ปุ่น บ่าเขือเครือ ฟักม้ง แตงกะเหรี่ยง เป็นต้น
จัดเป็นไม้เถาอยู่ในวงศ์ CUCURBITACEAE ชื่อวิทยาศาสตร์ Sechium edule (Jacq) Swartz.
ต้น คล้ายกับพืชที่อยู่ในตระกูลแตง ลำต้นมีลักษณะเป็นเหลี่ยมมีความยาวประมาณ 15-30 ฟุต มีเถาแขนง 3-5 เถา มีมือเกาะที่ข้อ มีระบบรากสะสมขนาดใหญ่
ใบ ขอบใบเป็นเหลี่ยม 3-5 เหลี่ยม ยาว 8-15 เซนติเมตร ลักษณะคล้ายใบตำลึงแต่มีขนาดใหญ่กว่า ใบมีขนระคายทั้งด้านบนและด้านล่าง
ดอก ออกดอกเป็นช่อ สีขาวปนเขียว ออกตามข้อระหว่างต้นกับก้านใบ เป็นประเภทไม่สมบูรณ์เพศ หรือดอกตัวผู้และดอกตัวเมียจะอยู่คนละดอก แต่อยู่ในต้นเดียวกัน
ผล เป็นผลเดี่ยว ทรงกลมยาว สีเขียวอ่อน รูปร่างคล้ายลูกแพร์ ยาว 7-20 เซนติเมตร กว้าง 5-15 เซนติเมตร หนึ่งผลมีน้ำหนักราว 200-400 กรัม รสเย็น เนื้อมีรสหวาน
คุณค่าทางโภชนาการ : มะระหวานดีต่อผู้ที่ควบคุมน้ำหนัก เนื่องจากเนื้อผล 100 กรัม มีพลังงานเพียง 13 กิโลแคลอรี อีกทั้ง ยังมีเส้นใยอาหาร 0.6 กรัม ช่วยให้ขับถ่ายสะดวก มีฟอสฟอรัสที่สำคัญต่อกระบวนการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกายอยู่ 12 มิลลิกรัม รวมถึงมีวิตามินซี โฟเลต แคลเซียม และโพแทสเซียมด้วย
สรรพคุณทางยา :
ผลและใบ - บำรุงหัวใจและหลอดเลือด ขับปัสสาวะ แก้อักเสบ ด้วยการใช้ผลและใบมาดองเป็นยาไว้กิน
- อาการเส้นเลือดแข็งตัว ด้วยการต้มใบและผลนำมาใช้ในการรักษา
- โรคความดันโลหิตสูง ด้วยการดื่มน้ำที่ต้มจากผลและใบ
- ป้องกันและรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน
- นำใบและผลมาต้มน้ำดื่ม ช่วยสลายนิ่วในไต
ยอด สรรพคุณช่วยในการขับถ่าย ทำให้ถ่ายได้สะดวกขึ้นจึงป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ : มะระหวานเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง ช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้
- ผลมีโฟเลตสูง มีประโยชน์อย่างมากสำหรับทารกในครรภ์ เพราะช่วยป้องกันการพิการของทารกแต่กำเนิด
- ยอดอ่อนและผลอ่อนกินได้ แถมยังประกอบไปด้วยวิตามิน กรดอะมิโน ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด เช่นแคลเซียมที่มีส่วนช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง
- ผลนำมาหั่นเป็นฝอยหรือสไลด์เป็นแผ่นใช้ผัดกับไข่ได้ ผัดกับน้ำมัน อีกทั้ง ตำส้มตำใช้แทนมะละกอได้ เพราะมีเนื้อกรอบหวาน
- ยอดอ่อนนำมาต้มกินกับน้ำพริก ใช้ทำต้มจืด แกงเลียง ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า ผัดกับหมู ผัดน้ำมันหอย ลาบ ยำยอดฟักแม้ว แต่ส่วนใหญ่แล้วจะนำมาผัดน้ำมันหอย
- รากส่วนใหญ่จะประกอบด้วยแป้ง นำมาใช้ต้มหรือผัดกินได้
- ปกติแล้วจะนิยมใช้ส่วนของผล ใบและรากประกอบอาหาร ทว่า ลำต้นและเมล็ดก็กินได้เช่นกัน เพียงแต่ไม่เป็นที่นิยม
- รากใช้เป็นอาหารสัตว์ได้
ที่มาข้อมูล : ชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย (เต็ม สมิตินันทน์),วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี และสถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง (องค์กรมหาชน)