บริการถึงใจ รถติดน้ำท่วมอยู่กลางถนน โทร 1112 ส่งพิซซ่า ถึงรถ | คมชัดลึก

    ท่ามกลางการจราจรที่ติดขัดนานนับชั่วโมง เพราะถนนหลายสายในกรุงเทพฯ ถูกน้ำท่วมสูง เมื่อช่วงค่ำวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา แต่ก็ยังคงมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้น เมื่อผู้ที่ใช้ชื่อ Or Bu โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเมื่อช่วงดึกๆ วันเดียวกัน สรุปใจความได้ว่า โทรศัพท์แบตเหลือ 10% ไม่มี power bank หิวระดับ 9.5 ข้าวเที่ยงทานตอน 11.00 น้ำท่วมรถติดอยู่หน้าเซ็นทรัลลาดพร้าวแบบนิ่งสนิทตั้งแต่ 17.40-19.30 น. ขับรถมาคนเดียว ทิ้งรถก็ไม่ได้ เลี้ยวรถกลับก็ไม่ได้ ด้วยความหิวเลยกด 1112 สั่งพิซซ่าให้มาส่งพร้อมบอกทะเบียนรถไป จากนั้นอีก 10 นาที พนักงาน The Pizza Company ได้โทรกลับมาทวนออเดอร์ และสถานที่ส่งว่ารถยังติดอยู่เลนซ้ายหน้าเซ็นทรัลลาดพร้าว ใช่มั้ยครับ

    จากนั้นอีกประมาณ 20 นาที พนักงานส่งพิซซ่าได้โทรมาถามว่า ไม่ทราบว่ามีรถเมล์อยู่เลนซ้ายใช่ไหมครับ คันหลังรถคุณยี่ห้ออะไรครับ ผู้โพสต์จึงตอบกลับไปว่า ใช่ค่ะ มีรถเมล์ 136 และรถคันหลังยี่ห้อนิสสัน สีดำ พนักงานส่งพิซซ่าตอบกับมาว่า เห็นแล้วครับ พร้อมกับนำพิซซ่ามาส่งให้ถึงรถ แต่ขณะกำลังจะถ่ายโทรศัพท์ก็ดับเลย
    พร้อมๆ กับมีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็น ทั้งชื่นชม ทั้งแปลกใจ กันเป็นจำนวนมาก อย่างผู้ที่ใช้ชื่อ Pimonphan Piriyanonthakul ได้แสดงความคิดว่า คราวหน้าถ้าเจอเหตุการณ์นี้จะขอสั่งบ้างนะคะ พนักงานน่ารักจังเข้าใจหัวอกคนหิว ส่วนผู้ที่ใช้ชื่อ Thiara Bosz บอกว่า คนส่งนี่เก่งนะ หารถเจอ55 ขณะที่ผู้ที่ใช้ชื่อ Chaiyanon Munkatitham บอกว่า อย่างงี้ก็ได้หรอ
    โดยโพสต์ดังกล่าวมีคนถูกใจ 7,300 และแชร์ต่อถึง 1,500 ครั้ง
    ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงแผนรองรับสถานการณ์น้ำท่วมว่า การบริหารจัดการเรื่องน้ำ ต้องให้กรมชลประทานเป็นผู้ดูแล โดยจะเอาน้ำไปพักในพื้นที่ต่างๆ หรือที่เรียกว่าแก้มลิง แต่จะต้องไม่กระทบกับพื้นที่การเกษตรของประชาชน เช่น การทำนา จะต้องให้เกี่ยวข้าวเสียก่อน โดยกระทรวงมหาดไทยจะดูแลเรื่องผลกระทบจากน้ำท่วม หากพบว่ามีพื้นที่การเกษตรเสียหายจากการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งตนจะเตรียมข้อมูลเสนอต่อนายกรัฐมนตรีพิจารณา แต่หากเลี่ยงการนำน้ำไปพักในพื้นที่การเกษตรได้ก็ให้เลี่ยง อาจจะมีอยู่บางแห่งซึ่งเป็นส่วนน้อยอาจจะจำเป็นต้องเป็นพื้นที่รองรับน้ำ ส่วนรายละเอียดพื้นที่รองรับน้ำต้องให้เสร็จก่อนปล่อยน้ำออกมา เพื่อใช้ตัดสินใจร่วมกัน
    เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. เปิดเผยถึงสภาพการจราจรในช่วงเย็นที่มีฝนตก น้ำท่วมขัง ส่งผลให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัดว่า เมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.) ตำรวจจราจรได้ออกอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนในทุกพื้นที่ ในช่วงบ่ายวันนี้(4 ต.ค.)จะมีการประชุมขับเคลื่อน ซึ่งได้เรียกผู้กำกับการในพื้นที่ สน.ลาดพร้าว สน.บางซื่อ สน.โชคชัย สน.พหลโยธิน และ สน.ดินแดง มาพูดคุยเพื่อแก้ปัญหาโดยเร่งด่วน เบื้องต้นทราบว่าประสานงานร่วมกับกรุงเทพมหานครในการเร่งระบายน้ำแล้ว
    “ผมกำชับให้ตำรวจลงพื้นที่อำนวยการแก่ประชาชน จนกว่ารถบนท้องถนนจะคลี่คลาย หวังว่าประชาชนจะเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องที่นอกเหนือการควบคุม เมื่อวานนี้ยอมรับอาจดูแลไม่ทั่วถึง เพราะตำรวจมีเพียง 3,000 นาย จะพยายามทำทุกวิถีทางที่จะลดปัญหาให้ได้” ผบช.น.กล่าว
    วันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รักษาราชการแทนผู้บังคับการตำรวจจราจร (รรท.ผบก.จร.) กล่าวว่า ในช่วงนี้พื้นที่กรุงเทพฯ มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องทำให้ถนนหลายเส้นทางน้ำท่วมขังผิวถนนส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจรโดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำ ดังนั้น พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) ดูแลงานจราจร จึงมีการเรียกประชุม สน.พื้นที่ที่มีปัญหาได้แก่ สน.บางซื่อ สน.พหลโยธิน สน.ประชาชื่น และ สน.ทุ่งสองห้อง เพราะในพื้นที่ของแต่ละ สน.เป็นจุดที่มีปัญหาวิกฤติมากที่สุด โดยเฉพาะในเส้นทางหลักคือ ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนงามวงศ์วาน และถนนรัชดาภิเษก ช่วงแยกประชานุกูล และแยกวงศ์สว่าง ซึ่ง 3 สายนี้ หากไม่สามารถระบายการจราจรออกไปได้จะส่งผลกระทบเข้ามาด้านในพื้นที่กรุงเทพฯ ทันที ทำให้กระทบต่อเนื่องเข้าไปทั้งในถนนวิภาวดีรังสิต ถนนพหลโยธิน ถนนลาดพร้าว ถนนพระราม 9 และถนนต่อเนื่อง
    พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวอีกว่า ในที่ประชุม พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ได้รับทราบข้อมูลและจุดที่เป็นปัญหามากแล้วและจะมีการนำเสนอต่อคณะอนุกรรมาธิการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาการจราจรระยะเร่งด่วนในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อประสานงานและเร่งรัดให้ กรุงเทพฯ จัดเตรียมหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้ามาระบายน้ำในจุดที่เป็นปัญหาใน 3 เส้นทางหลัก เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วมใน 3 เส้นทางแล้วส่งผลกระทบเข้ามายังเส้นทางต่อเนื่องซึ่งหากได้รับผลกระทบจะทำให้การจราจรในกรุงเทพมหานครติดขัดเป็นอย่างมาก
    พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนั้น ที่ผ่านมาเรามีข้อมูลแล้วว่าจุดใดที่ฝนตกแล้วจะเกิดน้ำท่วมขัง ดังนั้นศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจรจะต้องติดตามสถานการณ์ฝนตกอย่างต่อเนื่อง หากฝนลงในปริมาณมากจนอาจจะก่อให้เกิดน้ำท่วมขังจะต้องเร่งแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบโดยเร็วที่สุดเพื่อที่ประชาชนจะได้เตรียมตัวเลี่ยงเส้นทางก่อนออกมาบนท้องถนน
    พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้จุดใดที่เป็นปัญหาจะจัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรยืนประจำจุดเพื่อโบกรถอำนวยความสะดวกด้านการจราจร พร้อมทั้งดูแลปัญหากรณีรถเสียกลางถนนให้พ้นการกีดขวางโดยเร็วที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำซ้อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายังพบว่าปัญหาน้ำท่วมขังผิวถนนนั้นยังมีผลกระทบต่อเนื่องมาจากพื้นที่โดยรอบกรุงเทพฯ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี จ.สมุทรปราการ ซึ่งหากพื้นที่ดังกล่าวมีน้ำท่วมขังรถเล็กผ่านไม่ได้ก็จะส่งผลกระทบด้านการจราจรเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯ ดังนั้นก็จะต้องมีการประสานงานกับตำรวจราจรท้องที่ให้ช่วยเร่งระบายรถหรือแจ้งข่าวสารกรณีมีปัญหาน้ำท่วมเพื่อลดผลกระทบอีกทาง

    ส่วนที่ จ.พิจิตร น้ำในแม่น้ำยม ยังคงเอ่อท่วมพื้นที่บ้านจิกสามร้อย หมู่ 1 ต.บางลาย อ.บึงนาราง มีบ้านเรือน 15 หลังคาเรือน ต้องจมอยู่ใต้น้ำลึกกว่า 1 เมตร
    จ.พิษณุโลก ตั้งแต่เวลา 03.00-06.00 น. วันที่ 4 ตุลาคม มีฝนตกลงมาอย่างหนักในเขตตัวเมืองพิษณุโลก ทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนถนนวิสุทธิกษัตริย์ ถนนอู่ทอง ขณะที่ อ.นครไทย ได้เกิดดินสไลด์ทำให้หินขนาดใหญ่ไหลลงมาปิดถนนพิษณุโลก-หล่มสัก 2 ช่องทาง

    ส่วนทางภาคอีสานที่ จ.นครราชสีมา น้ำบริเวณเหนือเขื่อนพิมาย ได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่บ้านวังกุ่ม หมู่ 14 ต.ในเมือง อ.พิมาย ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 หลังคาเรือน เจ้าหน้าที่เขื่อนพิมายจึงได้เปิดประตูระบายน้ำ 6 บาน เพื่อระบายน้ำลงสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน
    ขณะที่ นายสุเทพ รื่นถวิล ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยนครราชสีมา พร้อมนายสุรเชษฐ์ ขวดหรีม รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครราชสีมาที่ 2 สำนักงานทางหลวงที่ 10 (ทล.10) นครราชสีมา และผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว ได้ร่วมกันวางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบนถนนมิตรภาพ ช่วงขาออกนครราชสีมา ก่อนถึงด่านชั่งน้ำหนักสีคิ้ว กิโลเมตรที่ 93-94 ที่มีน้ำท่วมขังถนน สูง 30 เซนติเมตร
    ที่ จ.ศรีสะเกษ ฝนที่ตกหนักต่อเนื่องตลอดทั้งคืน ทำให้มีน้ำท่วมถนนศรีสะเกษ-อุบลราชธานี โดยเฉพาะบริเวณหน้าปั๊มน้ำมัน ปตท. และปั๊มเอสโซ่ซึ่งอยู่คนละฝั่งถนน และถนนทองมากช่วงตั้งแต่สามแยกนิกรมอเตอร์ไปจนถึงหน้าสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ บางจุดน้ำท่วมสูงกว่า 60 เซนติเมตร รถเล็กไม่สามารถผ่านไปได้ รวมทั้งสหกรณ์การเกษตร ก็ถูกน้ำเข้าท่วมสำนักงาน ร้านค้าขายผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรเสียหาย

    ที่ จ.กาฬสินธุ์ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ พร้อมด้วยนางปนัดดา ภู่เจริญศิลป์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปาว และแม่น้ำชี เอ่อท่วมนาข้าวในพื้นที่บ้านด่านใต้ ต.เหล่าอ้อย อ.ร่องคำ พบพื้นที่นาข้าวถูกน้ำท่วม 443 ไร่ เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก
    ที่ จ.เลย เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 4 ตุลาคม ฝายน้ำขนาดความจุ 1 แสนล้าน ลบ.ม.ของวัดป่าศาลาน้อย บ้านศาลาน้อย ต.โป่ง อ.ด่านซ้าย เกิดแตกทำให้น้ำไหลลงลำห้วยน้ำพุง ก่อนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน 20 หลังคาเรือน ใน ต.โป่ง
    ที่ จ.อ่างทอง นางกุลฟาร์ลี เทพรักษ์ นายก อบต.โผงเผง อ.ป่าโมก ได้เร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่หลังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำที่ขังอยู่ในพื้นที่เริ่มลดลง
    ส่วนทางภาคใต้ ที่ จ.พังงา เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 4 ตุลาคม น้ำป่าจากเขาบ้านดอกแดง ไหลลงคลองบางม่วง เอ่อท่วมบ้านเรือนประชาชน ถนนในตลาดบางม่วง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.บางม่วง อ.ตะกั่วป่า ชาวบ้านกว่า 50 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะในซอยธารทองใต้ ระดับน้ำท่วมสูงครึ่งเมตร
นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า กล่าวว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม น้ำที่ท่วมขังในพื้นที่ ต.บางม่วง เพิ่งจะเข้าสู่สภาวะปกติ แต่กลับมีฝนตกหนักลงมาอีก น้ำในคลองบางม่วงเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เป็นครั้งที่ 10 ในรอบปี และจากการสำรวจพื้นที่พบสาเหตุน้ำเอ่อล้นตลิ่งเพราะคลองบางม่วงตื้นเขินทำให้ระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ช้าและแทบทุกครั้งที่น้ำในคลองบางม่วงเอ่อล้นน้ำทะเลมักหนุนสูง ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำออกสู่ทะเลได้
    ขณะที่ กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง โดยมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงบ่ายถึงค่ำ
    โดยลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยานั้น ร่องมรสุมพาดผ่านตอนล่างของภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกหนักได้ในระยะนี้
    ขณะที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆเป็นส่วนมาก มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองถึงร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งในช่วงบ่ายถึงค่ำ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.